00 ต้องรีบออกมายืนยันกันแบบด่วนจี๋สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ว่าไม่มีทางสืบทอดอำนาจ ขณะเดียวกันต้องรีบออกมาเบรกเกม “เสี้ยม”ให้แตกคอกับ “พี่ใหญ่” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่เป็นรองนายกฯ ดูแลความมั่นคงทั้งระบบอยู่ในเวลานี้ว่า“ไม่จิ๊ง ไม่จริง” ยังรักกันดี ไม่มีเสื่อมคลาย แน่ ข่าวคราวที่เกิดขึ้นเป็นเจตนาทำลายความมั่นคงเท่านั้น ก็ถือว่าดับร้อนลงไปได้บ้าง เพราะเวลานี้การเคลื่อนไหวทั้งทางบวกและลบ ประดังเข้ามาทุกทาง โดยเฉพาะในโลกโซเชียลฯ ที่เร็วและแรง หากไม่รีบเคลียร์ให้ชัดทันเวลา มันก็อาจบานปลายไปกันใหญ่
00 ประเด็นการสืบทอดอำนาจของ คสช. หากพูดกันแบบตรงไปตรงมา ก็ต้องบอกว่ามีความ “ระแวง”กันมาพักใหญ่แล้ว หรือจะเรียกว่า หลังจากเหตุการณ์ยึดอำนาจ ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.57 เป็นต้นมานั่นแหละ แม้ว่าต่อมา ทาง“บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะพยายามดับร้อนลง ด้วยการยืนยันแล้วว่า หลังเสร็จสิ้นโรดแมป มีการเลือกตั้งใหม่ภายในปีหน้า ก็จะกลับไปอยู่กับครอบครัว ใช้ชีวิตบั้นปลายให้มีความสุข แต่ก็ยังมีคำถามตามมาอีกว่าหากมีการสะดุด จะด้วยแบบตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ก็จะ “ยื้ออยู่ในอำนาจ”แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ หรือเปล่า มันก็เป็นคำถาม เป็นความระแวงได้อยู่ตลอดเวลาเหมือนกัน
00 เพราะตามที่กำหนดเอาไว้ใน รธน.ชั่วคราว ปี 57 หากรธน.ที่กำลังยกร่างกันอยู่ไม่ผ่านความเห็นชอบ หรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดหมาย ซึ่งมันก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั้งหมดแหละในโลกนี้ ก็มีการเปิดทางให้ คสช. ตั้ง สปช. และกมธ.ยกร่างฯ ขึ้นมาใหม่ได้เรื่อยๆ แม้ว่าดูแล้วกรณีดังกล่าวอาจไม่สมเหตุสมผล ดูเหมือนเป็น “เกมทื่อๆ”พิกล แต่ความระแวงของคน มันก็ต้องมีอยู่วันยังค่ำ อย่างไรก็ดี ก็ต้องขึ้นกับพฤติกรรม และท่าทีของผู้นำในปัจจุบันที่ทำตัวให้สังคมลดความหวาดระแวงได้แค่ไหน แน่นอนว่า สำหรับ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เชื่อว่าสังคมส่วนใหญ่ “ค่อนข้าง”วางใจว่า “ไม่สืบทอดอำนาจ”ซึ่งจะมีความหมายว่า “จะไม่นั่งนายกฯ”ต่อ หรือเปล่า หรือมีความหมายเดียวกันหรือเปล่า แต่ถึงอย่างไรก็ดี ถ้าให้เดาแบบสรุปรวมๆ ก็ต้องบอกว่า คงพอแล้ว ส่วนจะมีใครเชื่อมากน้อยแค่ไหน นั่นมันอีกเรื่องหนึ่ง
00 ขณะเดียวกัน คำถามต่อเนื่องมาก็คือ เมื่อพูดถึง “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้ว ก็ต้องพูดถึง “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่เวลานี้เป็น “พี่ใหญ่”ของน้องๆ ในวงการ ว่าจะหยุดอยู่แค่นี้ เหมือนกับน้องตู่หรือเปล่า ที่ผ่านมาถือว่ายังออกตัวไม่ชัด เชื่อแต่เพียงว่า จะให้ลงเลือกตั้งนั้นไม่เอาแน่ เพราะไม่ถนัด แต่ถ้าแบบอื่นล่ะ เจ้าตัวยังไม่เห็นยืนยันหนักแน่นสักที !!
00 ยังต้องจับตามองกันต่อไปว่า หลังจากฝ่ายทหารภายใต้อำนวยการของ “บิ๊กโด่ง”พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ. สั่งตามประกบ ซุ่มโป่ง กองกำลังติดอาวุธของเครือข่ายแดง จนสามารถจับกุมคนที่ก่อเหตุขว้างระเบิดใส่ศาลอาญา ถนนรัชดาฯได้สองคน แบบคาหนังคาเขา งานนี้ยืนยันว่า“การข่าวทหาร”แน่นปึ้ก รับรู้ถึงการเคลื่อนไหวทุกฝีก้าว และที่สำคัญ ทุกอย่างอยู่ในมือของฝ่ายความมั่นคงของกองทัพ มีรายชื่อ เครือข่ายโยงใยบุคคลอยู่ในมือพร้อมสรรพ ซึ่ง “บิ๊กโด่ง”ก็แพลมออกมาแล้วว่า “หากเอ่ยชื่อ”ออกมาว่าเป็นใครบ้าง รับรองต้องร้องอ๋อ นั่นก็หมายความว่า “กาหัว”เอาไว้หมดแล้ว แต่คำถามก็คือ ในเมื่อมีรายชื่อ รับรู้ความเคลื่อนไหว ก็ย่อมมีหลักฐานในมือแบบนี้แล้ว จะมีการเดินหน้าลุยจับกุมกันแบบถอนรากถอนโคนกันหรือเปล่า หรือจะทำแค่“ปราม”ไม่ให้ขยับตัวมากกว่านี้ หรือมีรายการ“ต่อรอง”อะไรกันหรือเปล่า เพราะเท่าที่สังเกต ทำให้เข้าใจว่าแม้จะมีการออกหมายจับผู้ต้องหา 9 คน และคงบคุมตัวมาได้ 7 คนแล้ว แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ระดับปลายแถว ไม่ใช่ตัวการ ทำให้ต้องมานั่งลุ้นกันต่อว่า จะเดินหน้า หรือว่าหยุดอยู่กับที่ !!
00 การย้าย นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มาช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี น่าจะเป็นเรื่องที่จะทำให้รัฐบาล และ คสช. ต้องปวดหัวไปอีกนาน เพราะแม้ว่าต้นตอมาจากความขัดแย้งในกระทรวงสาธารณสุข ที่คุกรุ่นมานาน แต่ปัญหาเฉพาะหน้าก็คือ ภาพลักษณ์ของรัฐบาล ที่อาจต้องติดลบลงไป เพราะสังคมยังติดอยู่กับภาพของ“หมอณรงค์”ที่เคยยืนหยัดต่อสู้กับอำนาจที่มิชอบมาก่อน โดยเฉพาะในยุคการชุมนุมของ กปปส. ซึ่งได้ใจมวลชนไม่น้อย และมาวันนี้ เมื่อถูกย้ายออกมา มันก็มีคำถามมากมาย ดังนั้นต้องรีบเคลียร์ให้ชัดโดยเร็ว ก่อนจะบานปลาย !!
00 ประเด็นการสืบทอดอำนาจของ คสช. หากพูดกันแบบตรงไปตรงมา ก็ต้องบอกว่ามีความ “ระแวง”กันมาพักใหญ่แล้ว หรือจะเรียกว่า หลังจากเหตุการณ์ยึดอำนาจ ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.57 เป็นต้นมานั่นแหละ แม้ว่าต่อมา ทาง“บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะพยายามดับร้อนลง ด้วยการยืนยันแล้วว่า หลังเสร็จสิ้นโรดแมป มีการเลือกตั้งใหม่ภายในปีหน้า ก็จะกลับไปอยู่กับครอบครัว ใช้ชีวิตบั้นปลายให้มีความสุข แต่ก็ยังมีคำถามตามมาอีกว่าหากมีการสะดุด จะด้วยแบบตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ก็จะ “ยื้ออยู่ในอำนาจ”แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ หรือเปล่า มันก็เป็นคำถาม เป็นความระแวงได้อยู่ตลอดเวลาเหมือนกัน
00 เพราะตามที่กำหนดเอาไว้ใน รธน.ชั่วคราว ปี 57 หากรธน.ที่กำลังยกร่างกันอยู่ไม่ผ่านความเห็นชอบ หรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดหมาย ซึ่งมันก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั้งหมดแหละในโลกนี้ ก็มีการเปิดทางให้ คสช. ตั้ง สปช. และกมธ.ยกร่างฯ ขึ้นมาใหม่ได้เรื่อยๆ แม้ว่าดูแล้วกรณีดังกล่าวอาจไม่สมเหตุสมผล ดูเหมือนเป็น “เกมทื่อๆ”พิกล แต่ความระแวงของคน มันก็ต้องมีอยู่วันยังค่ำ อย่างไรก็ดี ก็ต้องขึ้นกับพฤติกรรม และท่าทีของผู้นำในปัจจุบันที่ทำตัวให้สังคมลดความหวาดระแวงได้แค่ไหน แน่นอนว่า สำหรับ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เชื่อว่าสังคมส่วนใหญ่ “ค่อนข้าง”วางใจว่า “ไม่สืบทอดอำนาจ”ซึ่งจะมีความหมายว่า “จะไม่นั่งนายกฯ”ต่อ หรือเปล่า หรือมีความหมายเดียวกันหรือเปล่า แต่ถึงอย่างไรก็ดี ถ้าให้เดาแบบสรุปรวมๆ ก็ต้องบอกว่า คงพอแล้ว ส่วนจะมีใครเชื่อมากน้อยแค่ไหน นั่นมันอีกเรื่องหนึ่ง
00 ขณะเดียวกัน คำถามต่อเนื่องมาก็คือ เมื่อพูดถึง “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้ว ก็ต้องพูดถึง “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่เวลานี้เป็น “พี่ใหญ่”ของน้องๆ ในวงการ ว่าจะหยุดอยู่แค่นี้ เหมือนกับน้องตู่หรือเปล่า ที่ผ่านมาถือว่ายังออกตัวไม่ชัด เชื่อแต่เพียงว่า จะให้ลงเลือกตั้งนั้นไม่เอาแน่ เพราะไม่ถนัด แต่ถ้าแบบอื่นล่ะ เจ้าตัวยังไม่เห็นยืนยันหนักแน่นสักที !!
00 ยังต้องจับตามองกันต่อไปว่า หลังจากฝ่ายทหารภายใต้อำนวยการของ “บิ๊กโด่ง”พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ. สั่งตามประกบ ซุ่มโป่ง กองกำลังติดอาวุธของเครือข่ายแดง จนสามารถจับกุมคนที่ก่อเหตุขว้างระเบิดใส่ศาลอาญา ถนนรัชดาฯได้สองคน แบบคาหนังคาเขา งานนี้ยืนยันว่า“การข่าวทหาร”แน่นปึ้ก รับรู้ถึงการเคลื่อนไหวทุกฝีก้าว และที่สำคัญ ทุกอย่างอยู่ในมือของฝ่ายความมั่นคงของกองทัพ มีรายชื่อ เครือข่ายโยงใยบุคคลอยู่ในมือพร้อมสรรพ ซึ่ง “บิ๊กโด่ง”ก็แพลมออกมาแล้วว่า “หากเอ่ยชื่อ”ออกมาว่าเป็นใครบ้าง รับรองต้องร้องอ๋อ นั่นก็หมายความว่า “กาหัว”เอาไว้หมดแล้ว แต่คำถามก็คือ ในเมื่อมีรายชื่อ รับรู้ความเคลื่อนไหว ก็ย่อมมีหลักฐานในมือแบบนี้แล้ว จะมีการเดินหน้าลุยจับกุมกันแบบถอนรากถอนโคนกันหรือเปล่า หรือจะทำแค่“ปราม”ไม่ให้ขยับตัวมากกว่านี้ หรือมีรายการ“ต่อรอง”อะไรกันหรือเปล่า เพราะเท่าที่สังเกต ทำให้เข้าใจว่าแม้จะมีการออกหมายจับผู้ต้องหา 9 คน และคงบคุมตัวมาได้ 7 คนแล้ว แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ระดับปลายแถว ไม่ใช่ตัวการ ทำให้ต้องมานั่งลุ้นกันต่อว่า จะเดินหน้า หรือว่าหยุดอยู่กับที่ !!
00 การย้าย นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มาช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี น่าจะเป็นเรื่องที่จะทำให้รัฐบาล และ คสช. ต้องปวดหัวไปอีกนาน เพราะแม้ว่าต้นตอมาจากความขัดแย้งในกระทรวงสาธารณสุข ที่คุกรุ่นมานาน แต่ปัญหาเฉพาะหน้าก็คือ ภาพลักษณ์ของรัฐบาล ที่อาจต้องติดลบลงไป เพราะสังคมยังติดอยู่กับภาพของ“หมอณรงค์”ที่เคยยืนหยัดต่อสู้กับอำนาจที่มิชอบมาก่อน โดยเฉพาะในยุคการชุมนุมของ กปปส. ซึ่งได้ใจมวลชนไม่น้อย และมาวันนี้ เมื่อถูกย้ายออกมา มันก็มีคำถามมากมาย ดังนั้นต้องรีบเคลียร์ให้ชัดโดยเร็ว ก่อนจะบานปลาย !!