นายกฯ ให้สัมภาษณ์หลังประชุมแม่น้ำ 5 สาย เผยมีการเสนอร่างแรกของรัฐธรรมนูญเฉพาะประเด็นสำคัญ ยืนยันไม่ได้สืบทอดอำนาจ แต่อยากให้บ้านเมืองมีอนาคต วอนอย่าเพิ่มขัดแย้ง เปรียบซื้อรถคันใหม่ต้องไว้ใจคนขับ สละเรือลำเดียวกันเพราะหน้าแล้ง โอดเรื่องภาษีตัวเองโดนด้วย สั่งตั้ง คกก. ขับเคลื่อนเศรษฐกิจทวาย - เวสเทิร์นซีบอร์ด พร้อมสั่งรวมศูนย์ซิงเกิลวินโดว์ส แจงคำสั่งสอบ “หมอณรงค์” เคยเปรยหากมีปัญหาขอช่วยราชการ ไม่ได้รังเกียจพร้อมให้ช่วยงาน รับมีปัญหาเรื่องการทำงานใน สปสช. ตั้งแต่รับตำแหน่ง
วันนี้ (11 มี.ค.) ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่ชาติ (คสช.) แถลงภายหลังการประชุมแม่น้ำ 5 สาย ว่า การประชุมในวันนี้ได้ตกลงกันใหม่แล้วว่าเป็นการประชุมแม่น้ำ 4 สาย ปิง วัง ยม น่าน ประกอบด้วย คณะรัฐมนตรี (ครม.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยมี คสช. เป็นแม่น้ำสายที่ 5 แม่น้ำเจ้าพระยา ถือเป็นต้นน้ำที่เริ่มต้นมาตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. 2557 และแม่น้ำทั้ง 4 สายจะไหลลงสู่เจ้าพระยา เปรียบเสมือนประเทศไทย คนไทยทุกคนจะได้รับผลประโยชน์ทั้งสิ้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การประชุมครั้งนี้มีการเสนอร่างแรกของรัฐธรรมนูญเข้ามา ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวที่กำหนดไว้ ซึ่งได้พูดเฉพาะประเด็นที่สำคัญก่อน เรื่องอื่นคงต้องศึกษารายละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ มีข้อสังเกตที่ทุกท่านได้ศึกษากันมาแล้วว่าควรจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะจะขับเคลื่อนอย่างไรให้นำไปสู่การเลือกตั้งให้ได้ตามโรดแมป ประเด็นสำคัญคือความขัดแย้งที่มีอยู่จะทำอย่างไร และทำอย่างไรการปฏิรูปจะเกิดความยั่งยืน การปฏิรูปมีระยะสั้น ระยะยาว ซึ่งตนได้พูดไปหลายครั้งแล้ว การปฏิรูปขณะนี้รัฐบาล ปฏิรูปอยู่แล้วคือช่วง 1 ปีที่เราทำอยู่แล้วบวกกับช่วงที่ผ่านมาจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง หัวข้อกันเคียงกันกับที่คณะปฏิรูปเสนอไว้ ตรงนี้จะมีการหารือกัน เพราะเป็นเรื่องของรัฐบาลในการบริหารราชการแผ่นดิน มีอำนาจตามกฎหมายทุกประการ ฉะนั้นทาง สปช. ก็เป็นการพูดคุยกับเราเฉยๆ ซึ่งทั้งหมดเป็นการเริ่มต้นโดยเอาของเราไปทำ และต่อเนื่องในรัฐบาลต่อไป ว่าจะทำอย่างไร จะอีกกี่ปี หากลไกทำงานให้ได้
“ผมขอเรียนว่า เราไม่ได้มุ่งหวังในการสืบทอดอำนาจ โดยมีเจตนาทางผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น ที่ผ่านมาก็ไม่มี อยากให้บ้านเมืองมีอนาคต ซึ่งบ้านเมืองเรามีความจำเป็นที่จะต้องปฏิรูป 36 วาระ บวก 7 เรื่อง ซึ่งเยอะมากและมีรายละเอียดอยู่แล้ว ในวันนี้อย่าไปเพิ่มความขัดแย้งอีกเลย วันนี้ได้ทำความเข้าใจกันถึงการร่างรัฐธรรมนูญว่าควรจะมีกรอบอะไรบ้าง หรือมีกี่หมวดอะไรก็ว่ากันมา ซึ่ง คสช. จะบันทึกข้อสังเกตของแต่ละฝ่ายมาแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ระหว่างของฝ่ายรัฐบาล ข้าราชการกระทรวงก็ต้องฟังเขาด้วย และส่งให้ สปช. สนช. ด้วย โดยช่วงนี้เป็นช่วงของการทำงานร่วมกัน เพราะ สปช. ไม่ได้มีทางกฎหมายกับรัฐบาลเวลานี้ แต่จะต้องวางอนาคตในวันข้างหน้าและต่อเนื่องกับสิ่งที่เราทำวันนี้หลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะ 9 ยุทธศาสตร์ของรัฐบาลที่ขับเคลื่อน วันนี้ต้องเห็นใจประธานกรรมาธิการยกร่างฯ จะโดนหนักหน่อยเป็นธรรมดา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การเปลี่ยนแปลงบอกแล้ว ซื้อรถคันใหม่จะต้องไว้ใจคนขับ เปลี่ยนเบรก เปลี่ยนอะไรให้แล้ว แต่จะไปได้ถึงแค่ไหน ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่จะพยายามทำให้เต็มที่ ทาง สนช. ก็ต้องพิจารณากฎหมายหลายฉบับ สร้างความเป็นธรรมลดความเหลื่อมล้ำ ขจัดการทุจริต อะไรที่ไม่ทัยสมัยก็ทำ สนช. ทำเต็มที่ มีที่ออกมาแล้วหลายฉบับ บางส่วนยังไม่ออก
ส่วนความคืบหน้าการออกกฎหมายเกี่ยวกับการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐโดยเฉพาะเรื่องภาษี พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เรามีกฎหมายกว่า 90 ฉบับที่พิจารณา เพื่อสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ รวมถึงต้องไปดูแลข้าราชการ และเรื่องภาษีทั้งระบบที่เราต้องการลดความเหลื่อมล้ำ ที่คนรวยต้องดูแลคนจน ถ้าไม่ช่วยซึ่งกันและกันก็ไปกันไม่ได้ เพราะวันนี้เราต้องให้ทุกคนยกระดับขึ้นมาให้ได้ อย่าหาว่าเรารีดเลือด รีดภาษี ใครอยากจะทำบ้าง ตนอยากจะรู้ เพราะตนก็ต้องโดนด้วย แต่ที่เราเข้ามาเราเป็นห่วงคนจนอยู่แล้ว แต่ต้องให้เวลาหน่อย
“วันนี้ทุกคนต้องช่วยกัน เพื่อให้ทุกคนยกระดับตัวเองขึ้นมาให้ได้ อย่าหาว่าเราไปรีดเลือด รีดภาษี ใครอยากจะทำผม อยากรู้ และผมก็ต้องโดนรีดภาษีด้วย คนจนไม่ยิ่งกว่าหรือ ที่เราเข้ามาเราห่วงคนจนอยู่แล้ว แต่ขอเวลาเราหน่อย วันนี้ไม่มีทะเลาะกัน แฮปปี้ดี และที่เปรียบว่า เป็นการซื้อรถคันใหม่แทนการลงเรือลำเดียวกัน เพราะช่วงนี้เป็นหน้าแล้ง ส่วนวันนี้ที่พูดน้อยเพราะเจ็บคอ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เราตั้งไปบอร์ดไป 11 คณะ รวมกับซูเปอร์บอร์ด และคณะกรรมการขับเคลื่อนอีก 5 คณะ ตนได้สั่งตั้งคณะขับเคลื่อนเศรษฐกิจทวาย และเศรษฐกิจพิเศษตะวันตก เพื่อให้ขับเคลื่อนเกิดขึ้นจริง และสั่งตั้งศูนย์ซิงเกิลวินโดว์สในเรื่องการค้าการลงทุนการค้าให้ไปรวมศูนย์กัน โดยมีเจ้าหน้าที่ทุกกระทรวงอยู่เพื่อให้สามารถติดต่อสอบถามยื่นเอกสารเพื่อส่งเรื่องไปที่กระทรวงเพื่อให้เกิดความรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม แต่ศูนย์ซิงเกิลวินโดว์สมีทุกกระทรวงอยู่แล้ว แต่บางเรื่องไม่ใช่เกี่ยวกระทรวงเดียว เช่น การตั้งโรงงานต้องเกี่ยวข้องกับกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง และคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการลดภาษีส่งเสริมการลงทุน แรงงาน ที่จะต้องนำมารวมในซิงเกิลวินโดว์ส วันนี้กระทรวงแรงงานเตรียมคนไว้พร้อมแล้วในการตั้งโรงงานตามแนวชายแดน ประสานประเทศเพื่อบ้านไว้หมดแล้ว แต่แรงงานต้องขึ้นทะเบียนให้ได้ โดยแต่ละสมาคมต้องมาทำเรื่องขออนุญาตไม่ใช่มาบอกกับสื่ออะไรก็ไม่ได้ รัฐบาลก็ช้า อย่างนี้มันไม่ช่วยกัน
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการตั้งกรรมการสอบ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่า “อ๋อ มันมีปัญหาๆ ทางกระทรวงเขาบอกว่ามีปัญหาในการทำงานนานแล้ว ตั้งแต่เข้ามาทำงานนานแล้ว”
เมื่อถามว่า การโยกย้ายแบบนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาได้หรือ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ท่านเคยบอกแล้วว่าถ้ามีปัญหาจะขอมาช่วยราชการ ท่านเคยพูดไว้แล้ว เพราะฉะนั้นสื่อก็ต้องไปช่วยอธิบายด้วยว่าตามที่ท่านเคยบอกถ้าไม่แก้ปัญหาก็ไม่ได้ ผมก็เคยบอกว่าให้เป็นไปพูดคุยกันก่อนให้รู้เรื่อง ให้ไปพูดคุยกันมา 8 เดือนแล้วก็ต้องหยุด คราวนี้มันมีปัญหาในเรื่องอะไรบ้าง งบประมาณในการดูแลซึ่งตรงนั้นมันมีกติกาและระเบียบอยู่แล้วว่าตอนนี้การจ่ายเงินสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งเดิมมันเป็นของกระทรวงสาธารณสุข แต่วันนี้กลับมาคณะนี้มาทำงาน เขากำลังเข้าสอบสวนตรงนี้อยู่แต่การดูแลตรงนี้เดี๋ยวจะต้องไปปรับคณะกรรมการใหม่ว่ามีในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขให้มันมากขึ้น และในส่วนของแพทย์ชนบทตรงนี้ด้วยจะได้ใช้เงินตรงนี้ให้ถูกต้อง วันนี้ต้องถามว่าถ้าเกิดมีคำสั่ง 2 คำสั่งคือคำสั่งของรัฐมนตรีและคำสั่งของปลัดกระทรวงสาธารณสุขข้าราชการจะปฏิบัติงานได้หรือไม่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเขาด้วย ผมไม่ได้รังเกียจอะไรเขาเดี๋ยวมาช่วยงานที่ผมนะ ไม่ต้องกังวลอย่าไปปลุกม็อบมาเดี๋ยวจะทำงานกันไม่ได้”
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมแม่น้ำ 5 สายครั้งต่อไป พล.อ.ประยุทธ์ ได้นัดประชุมวันที่ 9 เม.ย. ที่สโมสรทหารบก วิภาวดี