“ก่อแก้ว” ตัดตอน! “องค์กรภาคีภาคประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ยันไม่เห็นด้วย อ้างแนวคิด นปช.สู้ด้วยสันติวิธี แต่ยอมรับเป็นแนวร่วมเสื้อแดง วอน! หยุดใช้ความรุนแรง ด้าน “ไพศาล พืชมงคล” ขย่ม “แผนชั่วช้า” สะใจ ย้ำพอกันทีปรองดองแบบขี้ผสมข้าว รังแต่จะทำให้สิ้นชาติ จับตา “ลุงตู่-ลุงป้อม-ลุงป๊อก” จะตัดมารตัวไหนออกไปก่อน
วันนี้ (9 มี.ค.) มีรายงานว่า นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวกรณีคนร้ายปาระเบิดบริเวณด้านหน้าศาลอาญา รัชดาภิเษก โดยมีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า จากการติดตามข่าวการปาระเบิดศาลอาญาที่ผู้ต้องหาน่าจะเป็นแนวร่วมเสื้อแดง ขอเรียนอย่างตรงไปตรงมาว่าไม่เห็นด้วยในการกระทำดังกล่าว เพราะ นปช.มีจุดยืนที่ว่าจะต่อสู้ด้วยแนวทางสันติวิธีเท่านั้น ถึงแม้จะเห็นผลช้า แต่เป็นแนวทางที่ยอมรับกันในสากล และไม่สร้างความเสียหายให้ก่สังคมไทย การปาระเบิดเข้าไปในศาลไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้นนอกจากทำให้สังคมเกิดความไม่สบายใจ นักท่องเที่ยว นักลงทุนหวาดกลัว และข้าราชการศาลก็จะต่อต้านหรือถึงขั้นเกลียดชังเสื้อแดงเข้าไปอีก
นายก่อแก้วกล่าวต่อว่า จากการติดตามข่าวผู้ต้องหายังอ้างว่าในกลุ่มได้เตรียมจัดตั้งองค์กรภาคีภาคประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีแนวคิดที่จะให้มีการปกครองประเทศแบบสหพันธรัฐ ตนไม่เอาด้วยอย่างเด็ดขาด เพราะ นปช.มีนโยบายที่ชัดเจนว่าเราจะต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่เป็นรัฐเดี่ยวเท่านั้นครับ
“ขอวิงวอนไปยังทุกท่านที่รักประชาธิปไตย ขออย่าใช้แนวทางต่อสู้ด้วยความรุนแรง เราควรจะช่วยกันให้ความรู้ และข้อเท็จจริงต่อสังคมว่าทำไมเราควรปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง และที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทย และทำไมเราจึงเชื่อว่าประเทศนี้มีความยุติธรรมสองมาตรฐานจะดีกว่าครับ” นายก่อแก้วกล่าว
รายงานระบุว่า สำหรับองค์กรภาคีภาคประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เคยออกแถลงการณ์แนวทางการต่อสู้ภายใต้องค์กรภาคีภาคประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และประชาชน แต่กลับพบว่าล่าสุดเฟซบุ๊กของกลุ่มได้ปิดตัวไปแล้ว
(https://www.facebook.com/permalink.php?id=1555738474667600&story_fbid=1569132663328181)
ด้านนายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์เฟซบุ๊กว่า “แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ แผนชั่วพังพาบ!! มือระเบิดสารภาพจะก่อเหตุร้าย 100 จุดในวันที่ 15 มี.ค. เขาถอดรหัสเวลา +- 3 แล้ว บังเอิญว่า 1. โจรโพกผ้าเหลืองนัดชุมนุม 12 มี.ค. ตอนนี้ประกาศงดชุมนุมแล้ว 2. เตรียมเคลื่อนม็อบชาวนาภาคกลาง 15 มี.ค. วางแผนบุกทำเนียบฯ 3. กองกำลังชุดดำเตรียมก่อเหตุ 100 จุด ตอนนี้กำลังเผ่นกันเถิดเทิง เพราะทหารจับสายขยายผลกว้างลึกน่าดู 4. มีคนมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวฮ่องกงเหมือนปี 53 สนุกสนานไหม”
“ศึกเผาเมืองปี 53 และการจัดกองทัพแดงที่เตรียมแปร “กองทัพประชาชน” เป็นกองทัพแบบแผนเตรียมยึดอาวุธของกองทัพและเตรียมเส้นทางรับอาวุธจากข้างบ้านเป็นรูปเป็นร่างชัด ใครเป็นผู้บัญชาการสูงสุด ใครเป็นผู้บัญชาการฝ่ายทหาร ฝ่ายตำรวจ ฝ่ายข้าราชการ ชัดหมด เหิมเกริมถึงขั้นตรวจพลกองทัพแดงที่อีสาน 3-4 ครั้ง วันนี้ก็เป็นขบวนการเดิม แต่เตรียมแปลงโฉมให้พวกโจรโพกผ้าเหลืองออกหน้า แบบพม่ายุคนายพลซอหม่อง เพราะวอร์รูมใหญ่วิเคราะห์ว่าทหารกลัวผ้าเหลือง แต่วันนี้คงคิดไม่ถึงว่าผ้าเหลืองไทยเสื่อมกว่าผ้าเหลืองพม่ามาก และเน่าเฟะจนประชาชนลงมติตรงกันทุกโพล ให้เจริญรอยการปราบอลัชชีเดียรถีย์ในสมัยรัชกาลที่ 1 จึงไม่มีใครกลัวโจรโพกผ้าเหลืองกันแล้ว
คำว่า “ปรองดอง” ได้หมกปัญหาของชาติไว้นาน 10 ปีเศษแล้ว ครั้งล่าสุดหวิดทำให้สิ้นชาติสิ้นแผ่นดิน เดชะบุญทหารยึดอำนาจเสียทันท่วงที ไม่ทันไร คำว่า “ปรองดอง” ก็กลับมาหลอกหลอนคนไทยอีก จนสิ่งควรทำ-ไม่ได้ทำ สิ่งไม่ควรทำ-กลับทำ ทำให้อันตรายขยายตัวก่อเป็นสมการ “ขบวนการโจรโพกผ้าเหลือง+กองกำลังเสื้อแดง+ต่างชาติ = ISIS ไทย” ต้องชมเชยทหารที่แจ้งในแผนร้าย วางเกมแก้กลได้สะใจ ต้องชมเชยประชาชนผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่สนับสนุนกองทัพและรัฐบาล
เห็นหรือยังครับว่า ISIS ไทยจะทำอะไร มันใจดำอำมหิตคิดร้ายต่อชาติขนาดไหน พอกันทีเถิด “ปรองดองแบบขี้ผสมข้าว” รังแต่จะทำให้สิ้นชาติและต้องทำ 'งานหนัก' อีก เมื่อไม่ประสงค์จะรบ ก็ต้องเอาชนะโดยไม่ต้องรบ ทำอย่างไรจึงจะเอาชนะโดยไม่ต้องรบ? ผมเชื่อลุงตู่-ลุงป้อม-ลุงป๊อกครับ!! ว่าจะตัดสมการมารตัวไหนออกไปก่อน” นายไพศาลระบุ
ล่าสุดนายไพศาลโพสต์ว่า มือวางระเบิดศาลอาญารับสารภาพว่าหากก่อเหตุวางระเบิด 100 จุดแล้ว UN จะเข้ามาแทรกแซง เป็นเรื่องของการถูกหลอก เพราะประเทศไทยเป็นประเทศเอกราช สหประชาชาติไม่สามารถเข้ามาแทรกแซงได้ตามอำเภอใจ ยิ่งมีการหลอกให้ก่อเหตุร้ายแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้ เชื่อว่าองค์กรสิทธิมนุษยชนที่ต่างชาติหนุนหลังจะต้องเร่งตรวจสอบกันเองว่าสมาชิกถูกหลอกลวงแบบนี้มีมากน้อยเท่าใด
“นักการเมืองที่สูญเสียอำนาจพยายามดึงต่างชาติเข้ามาแทรกแซงประเทศไทยเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็รู้ก็เห็นอยู่ ซึ่งไม่มีทางที่จะเป็นผลสำเร็จขึ้นมาได้ และนับวันประเทศต่างๆ ก็จะเข้าใจสถานการณ์มากขึ้น ดังที่จะเห็นได้จากหลายประเทศได้ปรับท่าทีต่อประเทศไทย และร่วมมือกับรัฐบาลมากขึ้น เพราะรู้ว่าถูกหลอก โดยการหลอกลวงประเทศต่างๆ นั้นจะทำได้เป็นบางครั้ง บางคราว บางเรื่อง พอเขาจับได้ไล่ทันเขาก็จะปรับท่าทีที่ดีขึ้น และคนที่ไปหลอกลวงเขาก็จะกลายเป็นหมาหัวเน่ามากขึ้นทุกที แต่ที่สำคัญอยู่ที่ภายในประเทศของเราเองที่คนไทยจะต้องเข้าอกเข้าใจกัน อย่ายอมเป็นขี้ข้าของนักการเมืองที่โกงชาติ สามัคคีกันถือเอาประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง เราก็จะฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหลาย ทำให้ประเทศไทยมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนได้”