xs
xsm
sm
md
lg

“สุวพันธุ์” สั่งสำนักพุทธฯเช็กทุกวัด มองปัญหาได้ผลดีทำชาวพุทธตื่นตัวขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรณะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ คาดคดีสหกรณ์ยูเนี่ยนคงจะชัดหลัง “วิษณุ” คุมเอง ยันนโยบาย “ประยุทธ์” ชัดดันให้สุด รับรัฐบาลไม่อยากทำเรื่องให้เกิดความไม่สงบ แต่เชื่อคงใช้เวลาพอสมควรกว่าจะจบ สั่งสำนักพุทธเช็กทุกวัด ให้ดูแล มองผลดีเรื่องนี้ทำพุทธศาสนิกชนตื่นตัว


วันนี้ (9 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 08.30 น.นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงคดีการนำเงินสหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่น ไปบริจาคที่วัดพระธรรมกาย ว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ลงมาดูแลแล้วคงจะมีความชัดเจน เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะจบในรัฐบาลนี้ได้หรือไม่ นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ความจริงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายชัดเจนที่จะทำเรื่องนี้ให้สุดทาง ทำให้เต็มที่ซึ่งขณะนี้ทุกฝ่ายก็ทำกันอย่างเต็มที่ทั้งดีเอสไอ และ ปปง.

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลเป็นห่วงว่าจะมีความขัดแย้ง หรือการคัดค้านจากอีกฝั่งหนึ่ง หากพิจารณาตัดสินไปอย่างใดอย่างหนึ่งด้วยหรือไม่ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลจะดูภาพรวมทั้งหมดของสถานการณ์ ซึ่งถ้าจะมีอะไรสักเรื่องที่จะมาทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย รัฐบาลก็ไม่อยากทำเพราะจะเป็นช่องให้บุคคลใดเข้ามาแสวงหาประโยชน์ได้ ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องระมัดระวังเรื่องแบบนี้มาก และยิ่งตอนนี้เข้าสู่ระยะที่ 3 ตามโรดแม็ปแล้ว ก็จะมีการแสดงความเห็นกันมากขึ้น

นายสุวพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องนี้คงใช้เวลาพอสมควรกว่าจะจบ เพราะมีเรื่องของหลักฐานทางการเงิน และเรื่องของการสืบสวนสอบสวนที่สลับซับซ้อน ซึ่งต้องใช้เวลา ส่วนจะสามารถเอาผิดใครได้หรือไม่ตนตอบไม่ได้ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะที่กำกับดูแลพระพุทธศาสนา คิดว่าถึงเวลาที่จะต้องสังคยานาวัดต่างๆ หรือยัง นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้สั่งให้สำนักพระพุทธศาสนาเข้าไปตรวจสอบทุกวัดทั่วประเทศ อะไรก็ตามที่จะสร้างความเสียหาย ทำให้คนขาดศรัทธา ทางสำนักพระพุทธศาสนาก็ต้องเข้าไปดูแลโดยให้เจ้าคณะจังหวัดในพื้นที่เข้าไปช่วยดูแลด้วย และวันนี้ 17 มี.ค. ตนจะไปให้นโยบายกับผู้อำนวยการพระพุทธศาสนาในระดับจังหวัดทั่วประเทศ

“ผมมองว่าจากปัญหาทางศาสนาที่เกิดขึ้นมีผลดีอย่างหนึ่ง คือ ทำให้พุทธศาสนิกชนมีความตื่นตัวมากขึ้น มีการแสดงออกมากขึ้นในการที่จะดูแลเอาใจใส่เกี่ยวกับกิจการพระพุทธศาสนา ดังนั้น ผมคิดว่าช่วงนี้ไม่ว่าวัดหรือพระสงฆ์ก็ต้องรู้ว่าพุทธศาสนิกชนคิดอย่างไร กำลังมองพระในวัดเป็นอย่างไรบ้าง” นายสุวพันธุ์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น