“วิษณุ” โยน คสช.ดูต่ออายุ ป.ป.ช.หรือไม่ - “ไพบูลย์” ไม่กลัวโดนเช็กบิลหลังพ้น กมธ.ยกร่างฯ

รองนายกฯ โยนอำนาจ คสช. ดูต่ออายุ 5 ป.ป.ช. หมดวาระหรือไม่ เชื่อแค่ต้องการส่งสัญญาณให้สังคมรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น บอกเหลือ 4 ก็ยังทำงานได้แต่เสียงโหวตจะประหลาดจนสังคมอาจไม่เชื่อมั่น ด้าน “ไพบูลย์” ไม่กลัวโดนเช็กบิลหลังพ้นกรรมาธิการยกร่างฯ

วันนี้ (6 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จำนวน 5 คน ขอต่อระยะเวลาการดำรงตำแหน่งว่า การต่ออายุหรือไม่นั้นเป็นอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ใช่รัฐบาล คนที่จะดำเนินการเรื่องนี้ต้องคิดด้วยเหตุด้วยผล ส่วนตัวไม่คิดว่าป.ป.ช. จะห่วงเรื่องคดีความ แต่ต้องการส่งสัญญาณให้สังคมรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเท่านั้น จริงๆ กรรมการ ป.ป.ช. 4 คน ที่เหลือยังทำงานได้ เพราะกฎหมายกำหนดเอาไว้เหลือเท่าไรให้ทำเท่านั้น เพียงแต่เวลาโหวตเรื่องอะไรต่างๆ ออกมาเสียงอาจแปลกประหลาดนิดนึง อย่าง มติ 3 ต่อ 1 สังคมอาจคิดว่าจำนวนน้อยไป อาจเกิดความคลางแคลงใจได้ สังคมจะเชื่อมั่นหรือไม่กับคน 4 คนที่มีหน้าที่บอกว่าใครผิดหรือใครถูก แต่กรณีโหวตแล้วออกมาเป็นเอกฉันท์ตรงนี้ไม่เป็นไร อย่างไรก็ตาม ป.ป.ช. ไม่เหมือนผู้ตรวจการแผ่นดินที่ทำอะไรไม่ต้องโหวต คนเดียวยังสามารถทำได้ แต่ ป.ป.ช. ทำเป็นองค์คณะจะต้องโหวต ดังนั้น การต่อหรือไม่ต่ออายุ การจะปล่อยให้กรรมการ ป.ป.ช. 4 คน ทำงานเพียงเท่านี้หรือไม่ ต้องคิดถึงความรู้สึกของสังคมด้วย

ด้าน นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางมาตรการการป้องกันพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา และ สมาชิก สปช.กล่าวว่า ตนไม่เคยรู้สึกกังวลใดๆ ทั้งสิ้นเมื่อเข้ามาเป็นหนึ่งในคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เพราะรู้ก่อนหน้านี้อยู่แล้วต้องโดนตัดสิทธิทางการเมือง 2 ปี ซึ่งที่เข้ามาเพราะเคยรับปากกับประชาชนไว้ และ ก็ได้นำมาบัญญัติไว้ได้ในรัฐธรรมนูญแล้ว ก็ถือว่าทำเพื่อประชาชน ส่วนเรื่องที่จะโดนเช็คบิลหรือไม่ หลังจากที่มีการตั้งรัฐบาลจากการเลือกตั้ง เพราะได้มีการให้ความเห็นจากอดีตนักการเมืองหลายๆ คน ว่า คณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ ร่างกฎหมายออกมาไม่เป็นประชาธิปไตย นั้น ตนมองว่าตนไม่มีตำแหน่งทางการเมืองน่าจะมีปัญหาน้อยกว่าคนที่มีตำแหน่งทางการเมือง และก็ไม่เคยกลัวการโดนเช็กบิลทางการเมืองเพราะที่อาสาเข้ามาก็ทำเพื่อประชาชนทั้งสิ้น