“ประยุทธ์” เผยจับมืออังกฤษร่วมโครงการคอสต์ สร้างความเชื่อมั่น ย้ำเข้ามาทำให้โปร่งใส ปัดสืบทอดอำนาจ เชื่อไม่ได้ใช้อำนาจทรมานใคร แจงไม่ได้ละเมิดสิทธิ รับเหนื่อยแต่ไม่สำเร็จไม่ไป ลั่นใครไม่ชอบหน้าพูดมาเลย อย่ากังวลแม่น้ำ 5 สาย จะอยู่ไปเดี๋ยวตัดสินเอง รับแทบชกหน้าคนถาม รบ.มีผลงานอะไร ขอช่วยคิดสัญญาคุณธรรม ให้ ขรก.ไม่ตกเป็นเครื่องมือนักการเมือง ชี้ 4G ครึ่งปีต้องรู้ผล ทูต UK ขอบคุณไทยกล้าร่วมคอสต์
วันนี้ (6 มี.ค.) ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอทเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานกล่าวเปิดงานสัมมนาโครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ โดยกล่าวว่าการที่ประเทศไทยจับมือกับอังกฤษโดยการเข้าร่วมโครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ CoST (คอสต์) เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ป้องกันการทุจริต คอร์รัปชัน และเพื่อให้มีกลไกในการตรวจสอบ การทำงานทุกวันนี้อย่าซีเรียส การทำงานทุกอย่างมีปัญหาอยู่แล้ว วันนี้ที่เราเข้ามา เราต้องการทำทุกอย่างให้ประเทศเกิดความภาคภูมิใจ มีเกียรติยศ มีศักดิ์ศรี โดยสร้างความโปร่งใสให้เกิดขึ้น ซึ่งตอนที่รัฐบาลนี้เข้ามามีปัญหามากมาย ทุกคนจึงอยากให้ประเทศเดินหน้าไปได้ โดยนโยบายสำคัญวันนี้คือรัฐบาลต้องการที่จะขจัดการทุจริตคอร์รัปชัน สร้างความโปร่งใส สิ่งเหล่านี้ถึงจะยากแต่จะทำอยางไรให้เกิดขึ้นได้จริง และขอกำลังใจจากประชาชนในการให้ความร่วมมือ และเจตนาวันนี้ที่เข้ามาไม่ได้มุ่งหวังสืบทอดผลประโยชน์ สืบทอดอำนาจ ถ้าคิดจะทำเช่นนั้นคงไม่มาทำเรื่องเหล่านี้ โดยเฉพาะการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริตและการเข้าร่วมโครงการกับคอสต์ ขอให้จำเอาไว้ ไม่รู้จะเอาไว้ทำไม ทำทุกอย่างเพื่อประเทศ เราเข้ามาเพื่อต้องการให้ประเทศปลอดภัย ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือมากขึ้น และอยู่อย่างทัดเทียมมิตรประเทศ แม้วันนี้เราจะถูกปรับอันดับดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นประจำปี 2557 อยู่ที่ 35 ขึ้นมาแล้วแต่ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ อยากให้ขึ้นไปมากกว่า แต่คงเป็นเรื่องยาก การสร้างความโปร่งใสไม่ใช่เรื่องของภาครัฐอย่างเดียว ทุกคนต้องช่วยกัน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า เราจะต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนยอมรับ จะต้องไม่ใช้กฎหมายในทางที่ผิด หรือสร้างความขัดแย้ง จะต้องไม่ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือสร้างความไม่โปร่งใส เราจะต้องยึดมั่นทำงานให้โปร่งใสและรวดเร็วให้ได้ โดยยึดหลัก ธรรมาภิบาล คุณธรรม จริยธรรม และหลัก 3 ป. คือ ป้องกัน ปราบปราม และปลุกจิตสำนึก วันนี้เชื่อมั่นว่าตนไม่ได้ใช้อำนาจหรือไปทรมานใคร ไม่ได้ใช้อำนาจหรือกำหมายมาตราใดอย่างที่คนอื่นพูด อำนาจและกฎหมายเหล่านั้นไว้ใช้กับคนไม่ดี ทำผิดกฎหมาย มีคดีความ และขอชี้แจงกับทุกฝ่ายโดยเฉพาะเอกอัคราราชทูตอังกฤษว่ารัฐบาลและ คสช. ไม่มีการละเมิดสิทธิเสรีภาพ หรือทรมานใครที่เรียกตัวมา การที่เชิญบุคคลมา 3-4 พันคนนั้น มีเพียง 3-4 ร้อยคน และดูแลอย่างดี ตอนนี้ปล่อยกลับหมดแล้วไม่มีการทรมาน แทบจะโอ๋กันด้วยซ้ำ เป็นการเชิญมาพูดคุย ส่วนวาระแห่งชาติวันนี้จะต้องสร้างความเข้าใจ ลดความขัดแย้งและเร่งการปฏิรูป ที่ผ่านมาทั้ง 2 รัฐบาลได้มีความพยายามทำมาตลอด แต่ทำไม่ได้ วันนี้จะทำอย่างไรไม่ให้เกิดแนวร่วมมุมกลับ โดยวันนี้ตนก็ได้พูดอย่างระมัดระวังในทุกด้านเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดหรือความขัดแย้ง
“ที่ผ่านมาผมพยายามพูดหรือสั่งการทุกอย่างอย่างระมัดระวัง บางคืนถึงกับฝันว่าสั่งไปจริงแล้วหรือยัง ยอมรับว่าเหนื่อย แต่สู้ได้ ไม่ต้องห่วง อย่าคิดว่าเหนื่อยแล้วจะไปไหน ไม่มีทาง ไม่สำเร็จไม่ไป ถ้าไม่สำเร็จก็ไม่รู้จะเข้ามาทำไม ไหนใครไม่ชอบหน้าผมก็บอกมาเลย จะได้จบๆ สักที ถ้าประชาชนไม่ต้องการผมก็จะไม่อยู่แล้ว ผมทำขนาดนี้ ไม่เข้าใจก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร ดังนั้นขอให้ทุกคนร่วมมือกับผมในการเดินหน้าประเทศ ช่วยกันหาทางเดินหน้าต่อให้ได้ ทางไหนตันก็หาทางใหม่ และยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการอะไรทั้งสิ้น ไม่มีเรื่องของผลประโยชน์ ตนเองและรัฐมนตรีทุกคนที่เข้ามาก็ไม่ได้อะไรเลย ส่วนเรื่องแม่น้ำ 5 สายอย่าไปกังวล ใครรจะอยู่จะไปผมก็ยึดตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว และเดี๋ยวผมจะเป็นคนตัดสินเอง ขอวันนี้อย่านำทุกอย่างมาตีกัน ไม่เช่นนั้นประเทศก็ไม่ต้องไปไหน มีรัฐธรรมนูญก็ตีกันอีก แล้วจะให้ผมทำอย่างไร ทุกประเทศผ่านการปฏิรูปมาหมดแล้ว เราช้ากว่าประเทศอื่นๆ วันนี้เราต้องเอาทุกเรื่องมาปฏิรูป จึงขอใช้เวลา เพราะต้องแก้กฎหมาย กระบวนการ แก้คน แก้ทัศนคติในการทำงาน สร้างกลไกอีกหลายเรื่อง จึงขออย่าใจร้อนมากนัก ใจร้อนมากจะเสียของ เดี๋ยวก็จะเตรียมการเลือกตั้ง รัฐธรรมนูญก็กำลังจะออกมา อย่ากังวล ถ้าประชาชนไม่ยอมรับผมก็ไม่เอาด้วยแล้วประเทศนี้ ทำไมถึงไม่เข้าใจกัน รัฐบาลนี้เข้ามาเป็นรัฐบาลจริงๆ เพียงแค่ 6 เดือน วันนี้เราจะต้องทำทุกอย่างไม่ให้เกิดแรงต้าน ให้ประชาชนเข้าใจ สีไหนผมไม่สนใจถ้าเราดูแลเขาดีและมีความจริงใจให้ มันก็ต้องสามารถทำได้ อย่างวันนี้ผมไปในบางพื้นที่ที่มีคนห้ามก็ไม่เห็นเขาจะว่าอะไร ในเมื่อที่ผ่านมาผมก็ทำงานให้ทุกคนอยู่แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า วันก่อนเจอนักข่าวถามว่ารัฐบาลมีผลงานอะไร ผมแทบจะชกหน้าคนถาม ทำมาตั้งเยอะแยะไม่เห็นหรืออย่างไร วันนี้ตนจะพูดไปเรื่อยๆ ยอมเหนื่อย ยอมเจ็บคอ ต่อไปนี้ทุกคืนวันศุกร์ ข้าราชการทุกกระทรวงต้องจดบันทึกให้รัฐมนตรีให้ทราบว่าผมพูดอะไรไปบ้าง นักข่าวเองก็ต้องฟังเหมือนกัน เวลามาถามจะได้รู้เรื่อง และมีแนวคิดจะเปิดเวทีและถามนักข่าวบ้างเหมือนการสอบ แล้วส่งให้บรรณาธิการดีไหม วันนี้คิดเยอะอยู่ในหัว รับข้อมูลมาทุกเรื่อง
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า ในส่วนของข้าราชการก็จะต้องมีการดูแลระบบราชการไม่ให้การเมืองเข้ามาหาผลประโยชน์ ที่ผ่านมานักการเมืองไม่เคยเซ็นอะไรสักอย่าง คดีที่อยู่ทุกวันนี้ ข้าราชการจะโดนเป็นจำนวนมาก วันนี้ขอให้ไปช่วยกันคิดเรื่องสัญญาคุณธรรม เร่งรัดให้ได้ภายในปีนี้ว่าจะทำอย่างไร เพราะข้าราชการเองก็ต้องมีเกราะคุ้มกันตัวเอง ไม่ให้กลายเป็นเครื่องมือของนักการเมือง รวมถึงเรื่องสัปทานโครงการประมูลคลื่นความถี่ในระบ 4 จี ก็จะต้องทำให้ได้ภายใน 6 เดือน พร้อมปรับโครงสร้างไอซีที และยืนยันว่าตนไม่ได้ประโยชน์
ด้านนายมาร์ก เคนต์ เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย กล่าวว่า โครงการของคอสต์เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2551 ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอังกฤษและธนาคารโลกเพื่อสร้างกลไกและมาตรฐานความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐที่เน้นการเปิดเผยข้อมูลเพื่อป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น และใช้เงินภาษีอย่างคุ้มค่า ซึ่งต้องขอขอบคุณรัฐบาลไทยที่ใช้ความกล้าหาญเข้าร่วมโครงการโดยเฉพาะโครงการก่อสร้างสุวรรณภูมิเฟสสอง ถือเป็นจุดเริ่มต้นให้นานาชาติยอมรับ ขณะเดียวกัน การป้องกันการคอร์รัปชันจะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง



