วิป สนช. แสดงสปิริต หวั่นสังคมตราหน้า! ออกคำสั่งให้สมาชิก สนช. กว่า 50 คน เลิกจ้างเครือญาติช่วยงาน มีผล 1 มี.ค. นี้ หวังสร้างบรรทัดฐานที่ดีขึ้นทางการเมือง “สุรชัย” เผย สนช. ที่ตั้งลูก - เมีย อ้าง อยู่ไกล - ต้องทำมวลชน - มีข้อมูลลับ ต้องตั้งคนที่ไว้ใจเกรงความลับรั้วไหล ไม่หวั่นถูกฟ้อง ยันไม่ได้ทำผิดกฎหมาย
วันนี้ (3 มี.ค.) เมื่อเวลา 16.30 น. ที่รัฐสภา นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 1 ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมวิป สนช. ว่า วิป สนช. ได้หารือถึงการแต่งตั้งคนใกล้ชิดเครือญาติเข้ามาช่วยงานในตำแหน่งผู้ช่วยผู้ชำนาญ ที่ปรึกษาประจำตัว สนช. ที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ตามกฎระเบียบแม้ไม่มีอะไรขัดหรือแย้งกับระเบียบ แต่เมื่อสังคมได้ทักท้วงถึงความเหมาะสม สนช. จึงเห็นว่าควรจะเป็นสภาตัวอย่าง ซึ่ง สนช. ก็น้อมรับข้อวิจารณ์ของสังคม เพื่อไม่ให้สังคมสงสัยถึงความเหมาะสม วิป สนช. จึงได้ให้คำแนะนำว่าสมาชิกที่ได้ตั้งบุคคลใกล้ชิดและเครือญาติมาช่วยงานในตำแหน่งดังกล่าวให้ปรับออกทั้งหมด ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 58 หวังว่าสมาชิกจะดำเนินการเพื่อสร้างบรรทัดฐานที่ดีขึ้นทางการเมือง
นายสุรชัย กล่าวว่า จากการชี้แจงของสมาชิกหลายคนถึงเหตุผลตั้งคนในครอบครัวมาช่วยงาน เนื่องจากบางคนอยู่ต่างจังหวัด เมื่อมาทำงานในกรุงเทพฯก็จำเป็นต้องมีคนทำงานด้านมวลชนในพื้นที่ อีกทั้งยังมีเหตุผลทางด้านการเมืองและมีข้อมูลที่เป็นความลับ จึงจำเป็นต้องตั้งคนที่ไว้ใจได้ ไม่เช่นนั้นความลับจะรั่วไหล ประกอบกับเงินเดือนประจำตำแหน่งต่างๆ น้อย เกรงว่าจะไม่มีใครยอมมาทำงานให้ จึงจำเป็นต้องตั้งคนใกล้ชิด
ทั้งนี้ เมื่อสังคมตั้งข้อสังเกตถึงความไม่เหมาะสม เราก็ต้องแสดงสปิริต และต่อไปในอนาคตหากมีการปฏิรูปก็ควรกำหนดเป็นระเบียบให้ชัดเจนจะได้ไม่ต้องเถียงกันว่าขัดหรือไม่
ส่วนจะแก้ไขกฎระเบียบเลยหรือไม่ นายสุรชัย ชี้แจงว่า เบื้องต้นเพื่อให้เกิดผลรวดเร็ว ก็ให้สมาชิกดำเนินการตามคำแนะนำของวิป สนช. แม้ไม่มีระเบียบเชื่อว่าจะไม่มีใครขัดข้อง และเชื่อว่า จะสามารถแก้ไขภายหน้าได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีสมาชิกบางส่วนเริ่มทยอยให้คนใกล้ชิดลาออกจากตำแหน่งต่างๆ ไปบ้างแล้ว รวมทั้งให้เลขาธิการ สนช. ตรวจสอบข้อมูลว่ามีสมาชิกใดแต่งตั้งในลักษณะดังกล่าวอีก
กรณีภาคประชาชน ได้มีการร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว นายสุรชัย กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะเป็นเรื่องความเหมาะสมหรือไม่ และยังไม่ได้ทำผิดกฎหมาย รวมทั้ง สนช. ได้แสดงสปิริตแล้ว จึงไม่มีอะไรต้องให้น่าวิตกกังวล