เกาะกระแส
00 นี่อาจเป็นอีกครั้งที่ "ธัมมชโย" เจ้าอาวาสวัดธรรมกาย ที่เจอกับ "วิบากกรรม" อีกครั้งนับตั้งแต่ปี 40-49 ที่โดนคดียักยอกทรัพย์ และจากพระลิขิตสมเด็จสมเด็จญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสังฆปริณายก ที่ให้ต้องอาบัติปาราชิก ไปแล้วตั้งแต่ปี 2542 และคราวนี้อาจจะ"หนัก" กว่าทุกครั้งก็เป็นได้ เพราะคราวนี้ฝ่ายอำนาจรัฐไม่ได้อยู่ในมือของเครือข่าย ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็น "พวกเดียวกัน" เมื่อปี 44 เป็นต้นมา แม้ว่าจะมี "มหาเถรสมาคม" ที่เป็นเสียงส่วนใหญ่คอยอุ้มชูอยู่ก็ตาม แต่ขณะเดียวกัน ด้วยกระแสที่ตื่นตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่แน่ว่าอาจต้องมีการสังคายนา ปฏิรูปวงการสงฆ์กันครั้งใหญ่ และที่สำคัญอาจมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของมหาเถรสมาคม กันอย่างขนานใหญ่ก็เป็นได้
00 สิ่งที่น่าจับตามองก็คือ มีหลายอย่างที่กำลังมีการรื้อฟื้นขึ้นมาพิจารณาใหม่ เช่น การให้สอบสวนความไม่ชอบมาพากลอัยการสูงสุด ที่ถอนฟ้อง ธัมมชโย ในข้อหายักยอกทรัพย์กลางศาล ในชั้นศาลฎีกา ในปี 49 ก่อนที่จะมีคำตัดสินเพียงไม่กี่วัน ซึ่ง ดีเอสไอ ยุคใหม่กำลังรับเรื่องไปดำเนินการ แต่ที่น่าจับตาก็คือ ท่าทีของ นายกฯ และหัวหน้าคสช. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่แม้ว่าในเบื้องต้น จะแสดงออกด้วยการไม่อยากเข้ามายุ่ง โดยอ้างว่าเป็นเรื่องของสงฆ์ แต่ถ้าสังเกตให้ดี ให้พิจารณาคำพูดที่ว่า "ให้ทุกเรื่องเป็นไปตามกม." และกระบวนการยุติธรรม แบบนี้แหละ น่าคิด
00 ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามกม.จริง มันก็ถึงเวลาที่จะต้องสะสางกันใหม่ให้ได้ข้อสรุปทางกม. นั่นคือ ให้ศาลเป็นผู้ตัดสินชี้ขาด แม้ว่าในเรื่องพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชฯปี 42 จะมีมหาเถรสมาคม เสียงมากว่าคอยอุ้มกันอยู่ อ้างว่าเรื่องยุติไปแล้ว แต่คดีทางโลกเรื่องเงินบริจาค "สหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น" ทีมี ศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯ ศิษย์เอกของ ธัมมชโย เป็นคนจ่ายเช็ก มือเป็นระวิง นี่แหละจะ "น็อกคาผ้าเหลือง" เพราะนี่คือคดีอาญา คนละเหตุผลแบบมั่วๆ ที่ว่า "คืนเงินแล้วให้จบๆกันไป" ความผิดสำเร็จแล้ว "รับของโจร" แล้ว งานนี้ต้องติดตามผลงานของ ดีเอสไอ ยุคใหม่ในยุคของ รมว.ยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ว่าจะเชื่อมั่นได้แค่ไหน !!
00 การยกร่าง รธน.ฉบับใหม่ที่นำโดยประธานกมธ. บวรศักดิ์ อุวรรณโณ มีความคืบหน้าไปตามกำหนด เวลานี้ถือว่า "รายมาตรา" ครบถ้วนแล้ว รอเพียงบทเฉพาะกาล ที่จะนำเข้ามาเขียนกันในกรุงเทพฯ หลังจากก่อนหน้านี้ยกขบวนกันไปยกร่างกันที่ พัทยา เกือบหนึ่งสัปดาห์ ที่เหลือเพียงแค่จัดทำรูปเล่ม เขียนทุกมาตราลงไป ก่อนเสนอเป็น "ฉบับร่าง" ส่งไปให้ รัฐบาล คสช. สปช. และสนช.ได้พิจารณาติชม แก้ไขกลับมาอย่างไร ค่อยมาว่ากัน แต่ตอนนี้ที่กำลังมี "ความพยายามสร้างเงื่อนไข" เรื่องนายกฯ "คนนอก" จากการที่ กมธ.ยกร่างฯ ได้เปิดช่องเป็นทางหนีไฟเอาไว้ ฟังดูเผินๆ ก็อาจไม่เห็นด้วย แต่เมื่อพิจารณาจากความเป็นจริงแล้ว มันก็น่าจะเกิดขึ้นยาก และที่สำคัญมันก็ขึ้นอยู่กับ ส.ส.ด้วยว่า จะสร้างวิกฤติขึ้นมาเองหรือเปล่า เพราะตามปกติ ก็น่าจะเลือกนายกฯ ที่มาจาก ส.ส. หรือหัวหน้าพรรคที่เป็น ส.ส.อยู่แล้ว ดังนั้นการเปิดเป็นช่องเอาไว้ ก็ดีเหมือนกัน อย่าระแวงกันจนเกินเหตุ ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้วหัวใจของรธน.น่าจะอยู่ที่ "กระบวนการตรวจสอบ" ถ่วงดุล ป้องกันคนโกง และเอาคนโกงติดคุกให้ได้มากกว่า ถ้าทำได้จริง อิสระจริง เมืองไทยโลดแน่ !!
00 คดีสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อปี 53 กำลังจะมีความชัดเจนมากขึ้น หลังจาก ป.ป.ช.ได้แจ้งข้อหากับ อดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตรองนายกฯ สุเทพ เทือกสุบรรณ ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ โดยเป็นไฟต์บังคับ ที่ต้องอ้างอิงพยาน คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะที่เป็นฝ่ายปฏิบัติการใน ศอฉ. ซึ่งรายแรกคือ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ตอบรับแล้วว่า ยินดีเป็นพยานให้ พร้อมทั้งยืนยันตัวตนของ "ชายชุดดำ" ที่ยิงทหารด้วย ถึงว่างานนี้เป็นอีกกระบวนการยุติธรรมที่ต้องสะสางเสียที !!