xs
xsm
sm
md
lg

ศาลปกครองยกฟ้องคดีนักมวยไทยร้องเมินเพิกถอนใบอนุญาตกรรมการ ชี้ไม่มีความผิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศาลปกครองกลางยกฟ้องคดีนักมวยไทยฟ้อง กกท.-สคม.-ผอ.สคม. เหตุไม่เพิกถอนใบอนุญาตกรรมการ ที่ไล่ตนลงเวทีในศึกเกียรติเพชร 7 สี เผยผู้เชี่ยวชาญด้านการตัดสินชี้ไม่เป็นตามคำร้อง สรุปไม่มีการละเลยหน้าที่ตาม กม. ไม่มีความผิดไม่ต้องชดใช้

วันนี้ (27 ก.พ.) ศาลปกครองกลางยกฟ้องคดี เฉลิมเดช ส.ตะวันรุ่ง นักมวยค่ายลูกนาวี ถูกกรรมการไล่ลงเวทีในการแข่งขันชกมวยไทย ศึกเกียรติเพชร 7 สี เมื่อปี 2553 ฐานชกไม่สมศักดิ์ศรี ชี้ ผอ.สำนักงานคณะกรรมการมวยปฏิบัติโดยชอบที่ไม่เพิกถอนใบอนุญาตกรรมการที่ไล่นักมวยลงเวที

ทั้งนี้ คดีดังกล่าว นายศักดา ปลื้มจิตต์ หัวหน้าค่ายมวยลูกนาวี และนายธีระพงศ์ ดี หรือ เฉลิมเดช ลูกนาวี (ส.ตะวันรุ่ง) นักกีฬามวยไทย ยื่นฟ้องการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) สำนักงานคณะกรรมการมวย (สคม.) ผอ.สำนักงานคณะกรรมการมวย (ผอ.สคม.) และนายธนาชัย จำนง กรรมการผู้ตัดสินบนเวทีการแข่งขันชกมวยระหว่าง เฉลิมเดช ลูกนาวี (ส. ตะวันรุ่ง) กับนิลมงคล แก่นนรสิงห์ ในการแข่งขันชกมวยรายการศึกเกียรติเพชร 7 สี เวทีมวยบางลา จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2553 ต่อศาลปกครองกรณี กกท., สคม.และ ผอ.สคม.ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ไม่ดำเนินการพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตกรรมการมวย หรือสั่งพักใบอนุญาตกรรมการมวยของนายธนาชัย จำนง ที่ตัดสินสั่งยุติการแข่งขันชกมวย และไล่นายเฉลิมเดช ลูกนาวี (ส.ตะวันรุ่ง) ลงจากเวทีในยกที่ 3 โดยกล่าวหาว่าเฉลิมเดชชกไม่สมศักดิ์ศรีต่อหน้าผู้ชม โดยไม่สุจริต ขาดคุณธรรมและจรรยาบรรณอย่างร้ายแรง

ส่วนที่ศาลปกครองยกฟ้องระบุว่า ผอ.สคม.ในฐานะนายทะเบียนกีฬามวย ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามที่ พ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ. 2542 และระเบียบคณะกรรมการกีฬามวย ว่าด้วยระเบียบและกติกาสำหรับการแข่งขันกีฬามวย พ.ศ. 2545 กำหนดโดยพิจารณาข้อเท็จจริงตามหนังสือขอความเป็นธรรมของนายศักดาแล้ว และเห็นว่า คณะอนุกรรมการควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสินกีฬามวย ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการตัดสินกีฬามวยได้พิจารณาจากเทปบันทึกการแข่งขัน ส่วนใหญ่มีความเห็นสอดคล้องกันว่า เฉลิมเดช ไม่ได้โดนนิลมงคล แก่นนรสิงห์ ชกอย่างร้ายแรงก่อนล้มลง ตามที่นายศักดาอ้างในคำร้องเรียน เมื่อ ผอ.สคม.มีหนังสือที่ สคม 5110.3.1/273 ลงวันที่ 18 พ.ค. 2554 แจ้งให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายทราบว่า นายธนาชัย จำนง ไม่มีความผิด ส่วน เฉลิมเดช มีเหตุให้สมควรยกโทษ เนื่องจากได้อาการบาดเจ็บก่อนขึ้นชก จึงเป็นการใช้ดุลพินิจวินิจฉัยตามกฎหมาย ไม่อาจรับฟังได้ว่า ผอ.สคม.ละเลยต่อหน้าที่ตามกฎหมายและกระทำละเมิดต่อนายศักดา และเฉลิมเดชแต่อย่างใด ดังนั้น กกท.ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดของ ผอ.สคม. จึงไม่ต้องรับผิดและไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับนายศักดา และเฉลิมเดช


กำลังโหลดความคิดเห็น