“ประยุทธ์” สั่งเพิ่มมาตรการหลังมีบึ้มที่นราฯ รับเข้มมากความสะดวกมีลดลงบ้าง เล็งจัดการจุดจอดรถ เผย ผบ.ทบ.สั่งเยียวยาแล้ว ชี้ยังมีกลุ่มไม่อยากให้สงบ ยัน ปชช.ในพื้นที่เข้าใจมากขึ้น โยน “วิษณุ” ดูแลปมวัดธรรมกาย บ่นวุ่นไปหมดทั้งคน-พระ ยันไม่มีเฟซบุ๊กชื่อตัวเอง กำลังล่าคนทำ แจง “ประวิตร-บิ๊กโด่ง” ไปเขมรคุยเปิดด่านชายแดน ขออย่าสะกิดเรื่องพระวิหาร
วันนี้ (23 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะกรรมการนโยบายบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัด (กนจ.) ถึงกรณีเหตุระเบิดที่ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่าได้สั่งการให้เพิ่มมาตรการเข้มงวดกวดขัน ทุกอย่างมีการเตรียมการอยู่แล้วและงานด้านการข่าวก็มีอยู่ แต่ปัญหาของเราคือพื้นที่กว้าง ผู้ก่อความไม่สงบก็เคลื่อนไหวไปมาเราไปจะไปเข้มงวดมากนักก็ไม่ได้ ต้องยอมรับว่าหากจะเข้มงวดมากขึ้นความสะดวกต่างๆ ต้องลดลงบ้าง ประชาชนต้องผ่านการตรวจที่เข้มขึ้นผ่านด่านมากขึ้น ขณะเดียวกันจะเพิ่มมาตรการเรื่องการจอดรถต้องควบคุมให้อยู่ในพื้นที่จอดรถ เช่น ไปตลาดให้จอดรถรวมกันแล้วเดินไปก็จะลดความเสี่ยงจากผลกระทบเหล่านี้ ไม่ใช่นำรถเข้าไปจนถึงที่หมายเพื่อเป็นการลดการปฏิภาคโดยตรงกับเรื่องของการจำกัดเสรีภาพ เราเคยบอกไปแล้วว่าให้มีการจอดรถในพื้นที่รวมกันเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วได้หรือไม่ สุดท้ายก็ทำไม่ได้อีก ไปจำกัดอะไรไม่ได้เลย ดังนั้นก็มีโอกาสที่จะผิดพลาดได้
“ได้สั่งการไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ทั้งฝ่ายความมั่นคง และกอ.รมน.ซึ่ง พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะ ผบ.ทบ.ได้สั่งการลงไปแล้ว มีการดูแลเยียวยา ทั้งนี้ถือเป็นการแสดงให้เห็นว่ายังมีคนที่ไม่ต้องการเห็นความสงบ อีกทั้งยังมีกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยเพราะรู้ว่าเรากำลังเดินหน้าการพูดคุยสันติสุข ฝ่ายรัฐยังมีการจับกุม มีการปะทะ คนเหล่านี้ก็ยังถืออาวุธอยู่ ผมบอกไปแล้วนะว่าถ้าไม่ถืออาวุธทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว เว้นแต่หากมีการต่อสู้และถืออาวุธสงครามนั้นไม่ได้ มันต้องเกิดการปะทะกัน แล้วจะมาบอกทีหลังว่าเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรง มันไม่ใช่ วันนี้เท่าที่ทราบประชาชนในพื้นที่มีความเข้าใจมากขึ้น ที่ผ่านมาถูกปลุกปั่นว่าเจ้าหน้าที่รัฐใช้ความรุนแรง ถ้าไม่ผิดใครจะไปใช้ความรุนแรงได้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีการดำเนินการต่อปัญหาความเห็นต่างต่อมติของมหาเถรสมาคมในการลงโทษพระธัมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายว่า กำลังดำเนินการกันอยู่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ดูแลอยู่ “เอาให้มันสงบๆ กันซะบ้างไม่ได้หรือ ทั้งคนทั้งพระทั้งฆราวาส วุ่นไปหมดเลยประเทศไทย”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อถึงกรณีมีการอ้างชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ในเฟซบุ๊กว่า เรื่องนี้มีอะไรเสียหายกับตนหรือไม่ ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการสงสัยว่าเป็นเฟซบุ๊กของ พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ กล่าวว่า “แล้วทำไม หรือว่าหน้าอย่างผมเล่นไม่เป็น แต่เฟซบุ๊กที่มีชื่อผมนั้นผมไม่ได้ทำ ใครทำก็ไปหามา เพราะขณะนี้ก็ยังหาตัวคนทำอยู่”
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้เดินทางไปประเทศกัมพูชาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า เป็นการเดินทางไปหารือในเรื่องของการเปิดด่านชายแดน การค้าขาย ทางด้านเศรษฐกิจ ก็อาจจะมีการคุยเรื่องนี้เรื่องโน้นบ้าง เรื่องลมฟ้า อากาศ เรื่องสดชื่นรื่นเริง
“โธ่เอ๊ย ทำไมคุยกันไม่ได้รึยังไง แล้วคิดว่าจะไปคุยอะไรกัน ผลประโยชน์ เรื่องเขาพระวิหาร จะรบกันให้ได้ใช่ไหม ในเมื่อเรื่องมันเงียบไปแล้วก็ให้มันเงียบไป จะไปยุ่งอะไรกับมันนักหนา” นายกฯ กล่าว
