ครม.รับหลักการต่ออายุแรงงานเวียดนามไปอีก 1 ปี ให้กระทรวงมหาดไทยเจ้าภาพ รับทราบโรดแมปกำจัดขยะ ทส.เสนอ สั่งทุกกระทรวงเร่งลงนามจัดซื้อ จัดจ้าง ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ พร้อมหามาตรการออกใบอนุญาตขับขี่สาธารณะ
วันนี้ (10 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานในที่ประชุมแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ระบุว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงแรงงานเสนอจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม นับเฉพาะแรงงานที่มีพาสปอร์ตเข้ามาถูกต้องตามกฎหมาย แต่ระยะเวลาสิ้นสุดลง หากแรงงงานเวียดนามคนใดประสงค์จะอยู่ทำงานในประเทศไทยต่อตัวนายจ้างและลูกจ้าง ต้องไปจดทะเบียนต่ออายุไปอีก 1 ปีที่ศูนย์วันสตอปเซอร์วิส ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่ ครม. มีมติ คือตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยกระทรวงมหาดไทยจะเป็นหน่วยงานหลักจัดการเรื่องนี้ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องไม่มีการเปลี่ยนนายจ้าง เพื่อง่ายต่อการควบคุมดูแล และแรงงานสัญชาติเวียดนามจะทำได้เพียงงานรับใช้ภายในบ้าน กรรมกรก่อสร้าง ประมง หรือร้านอาหารเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อแรงงานไทย อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม ครม.ได้ให้กระทรวงแรงงงานไปหารือกับกระทรวงมหาดไทยเพิ่มเติมในรายละเอียดเรื่องนี้
ขณะเดียวกัน ครม.รับทราบโรดแมปจัดการขยะมูลฝอยและของเสียตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ เป็นการปฏิบัติการตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ปลายทางของการคัดแยกกำจัด จัดเก็บขยะมูลฝอย ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2557 แล้วจนกระทั่งปัจจุบัน โรดแมปดังกล่าวจะเห็นว่าแต่ละหน่วยงานมีหน้าที่อะไรบ้าง ภาพรวมโรดแมปเป็นไปตามแนวทางที่นายกฯ ให้ไว้ตั้งแต่เป็นหัวหน้า คสช. คือการบริหารจัดการขยะมูลฝอย มีโจทย์ 2 อย่าง คือ ขยะมูลฝอยที่มีอยู่เดิมและวิกฤตใน 6 จังหวัด มีปริมาณขยะมาก ประกอบด้วย พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สระบุรี ลพบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ โจทย์ที่สองคือการกำจัดขยะที่เกิดขึ้นใหม่ ในการกำจัดขยะมีการวางเป้าหมายว่าจะมีการกำจัดขยะได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ภายใน 3 เดือน 6 เดือน 9 เดือน 1 ปี 2 ปี แล้วแต่ว่าแต่ละจังหวัดมีปริมาณมากหรือน้อย การจัดการขยะมูลฝอยใหม่ มี 3 ขั้นตอน คือ ลดการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง จัดการขยะแบบศูนย์รวม และการกำจัดโดยเทคโนโลยีผสมผสาน และจะมีการแปรรูปขยะเป็นพลังงานไฟฟ้าด้วย
สำหรับการเร่งจัดเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ได้นำตารางการเบิกจ่ายงบประมาณ และตารางที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจชี้แจงให้ที่ประชุมรับทราบ เช่น ตัวเลขการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในช่วงม.ค.ซึ่งถือว่าดีกว่าปีที่ผ่านมา และตัวเลขการออกใบอนุญาติการประกอบกิจการโรงงาน รวมถึงการต่อเติมโรงงาน ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. ถึง วันที่ 31 ธ.ค. 57 มีจำนวน 4,234 โรงงาน และมีการแจ้งยกเลิกการประกอบการ 2,026 โรงงาน
พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า ขณะนี้เดือน ม.ค.มีการเบิกจ่ายงบประมาณที่เป็นรายจ่ายประจำ ร้อยละ 42 และเป็นรายจ่ายลงทุนร้อยละ 12 เป็นเงินกันเหลื่อมปี ร้อยละ 27 โดยเป้าหมายที่เราวางไว้ถึงสิ้นเดือน มี.ค. งบรายจ่ายประจำจะต้องดำเนินการให้ได้ร้อยละ 60 งบรายจ่ายลงทุน ร้อยละ 30 งบกันเหลื่อมปี ร้อยละ 45 ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ไกลเป้าหมายพอสมควร พล.อ.ประวิตรได้สั่งการให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องไปเร่งลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ฝ่ายเศรษฐกิจของรัฐบาลวางไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบงบประมาณมากๆ เช่นกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กรมทรัพยากรน้ำ กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมทางหลวงเป็นต้น โดยในการประชุม ครม.ครั้งต่อไปในวันที่ 18 ก.พ. ให้สำนักงบประมาณนำรายละเอียดรายการเบิกจ่ายของทุกกระทรวงมานำเสนอต่อ ครม.เพื่อที่คณะขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของ คสช. จะได้ช่วยติดตามเร่งรัด
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พูดถึงการสูญเสียชีวิตของประชาชนในช่วงหยุดยาวปีใหม่ที่ผ่านมา ว่าแม้ตัวเลขการสูญเสียจะลดลงแต่ยังไม่อยู่ในมาตรฐานที่รัฐบาลพึงพอใจ เพราะน่าจะลดการสูญเสียได้มากกว่านี้ ซึ่ง พล.อ.ประวิตรได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการออกใบอนุญาตขับขี่สาธารณะให้ทุกหน่วยงานไปหามาตรการให้ชัดเจน
