“กอบกาญจน์” รับจีนเป็นห่วงนักท่องเที่ยวตัวเอง ชี้พวกกลุ่มทัวร์เพิ่งเคยเที่ยวนอกประเทศอาจไม่เข้าใจ ป้องจีนไม่นิ่งดูแลตลอด จี้มัคคุเทศก์ลงทะเบียน แจง บึ้มกลางกรุงยังไม่กระทบตัวเลขนักท่องเที่ยว เผย “ประยุทธ์” อยากให้ต่อยอดตลาดน้ำ ชูไทยเวนิสตะวันออก
วันนี้ (10 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูล รมว.ท่องเที่ยว กล่าวถึงกระแสในโลกโซเชียล กรณีนักท่องเที่ยวจีนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม อาทิ ปีนขึ้นไปบนโบราณสถานว่า นักท่องเที่ยวจีนนั้นทางประเทศจีนมีความเป็นห่วงมาตลอดในการจะให้ข้อมูลความรู้ความเข้าใจ นักท่องเที่ยวจีนมีหลากหลาย โดยในกลุ่มที่เพิ่งออกมาท่องเที่ยงนอกประเทศเป็นครั้งแรกอาจจะไม่มีความรู้ความเข้าใจ และเมื่อมากับกลุ่มทัวร์ก็อาจประพฤติตนไปโดยที่ตนไม่รู้ แต่หลังจากท่องเที่ยวนอกประเทศบ่อยขึ้นก็จะไม่มีปัญหา เหมือนกับบ้านเราเองที่ไปหนแรกก็มักจะทำตัวไม่ถูก ซึ่งในส่วนของประเทศจีนเองก็ไม่ได้เพิกเฉย มีความห่วงใยเรื่องนี้ก็จะมีการสอน การพูดคุยเพื่อให้นักท่องเที่ยวของเขาสามารถปฏิบัติตนให้ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ในส่วนมัคคุเทศก์ที่ถูกกฎหมายนั้น เราได้มีการรณรงค์ให้มาลงทะเบียน ที่ขณะนี้มาลงทะเบียนแล้วประมาณ 17,000 รายจากทั้งหมดกว่า 5 หมื่นราย เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราได้ข้อสรุปว่าเรามีมัคคุเทศก์จำนวนเพียงพอหรือไม่ ขณะเดียวกันเราก็จะสามารถพัฒนาอาชีพมัคคุเทศก์ได้ตรงจุดมากขึ้น
ทั้งนี้ ในส่วนของเหตุการร์คนร้ายลอบวางระเบิดที่สยามพารากอนนั้นจะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวหรือไม่ นางกอบกาญจน์ระบุว่าเรามีมาตรการดูแลนักท่องเที่ยวอยู่ตลอดเวลาเป็นมาตรการหลักที่ประสานงานกันทุกฝ่าย ส่วนของการที่บางประเทศมีการแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวนั้นได้มีการพูดคุยกับประเทศเหล่านั้นแต่ก็ยังไม่มีผลกระทบต่อตัวเลขนักท่องเที่ยว ในหลายประเทศก็เข้าใจเพราะในหลายแห่งทั่วโลกก็มีเหตุการณ์เช่นนี้
นอกจากนี้ รมว.ท่องเที่ยวฯยังกล่าวถึงการจัดกิจกรรมตลาดน้ำวิถีไทยที่คลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล ระหว่างวันที่ 12 ก.พ. - 1 มี.ค.ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำชับในเรื่องนี้ไว้ว่าไม่อยากให้เป็นแค่การประชาสัมพันธ์กิจกรรมในระยะสั้นเท่านั้น แต่อยากให้ศึกษาต่อเนื่องในระยะยาวว่า ต่อไปต้องทำอย่างไรให้มีการท่องเที่ยวทางน้ำ เนื่องจากประเทศเราเคยได้ชื่อว่าเป็นเวนิสตะวันออก ทางกรุงเทพมหานครเองก็มีการพัฒนาคลองไปหลายเส้นแล้ว ต้องมาดูกันว่าจะทำอย่างไรให้คลองแต่ละแห่งไม่ใช่ใช้เพียงแค่การเดินทาง แต่นำมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้