xs
xsm
sm
md
lg

อดีตทหาร-ตำรวจเอี่ยวบึ้มสยามฯกลุ่มเก่า-สาวลึก !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

เริ่มเข้าใกล้ตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุลอบวางระเบิดที่บริเวณทางเชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยามกับห้างสยามพารากอน เมื่อตอนค่ำวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และล่าสุดศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาตามภาพที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดในเบื้องต้นแล้ว 2 ราย

ปฏิบัติการท้าทายกฎอัยการศึกในครั้งนี้ทุกฝ่ายสรุปตรงกันว่ามีการเชื่อมโยงกับกลุ่มการเมือง และการลงมือก็เพื่อหวังผลทางการเมือง ทำลายเครดิตของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่้อำนาจอย่างเบ็ดเสร็จอยู่ในขณะนี้

อย่างไรก็ดี เมื่อประเมินจากความเคลื่อนไหวของฝ่ายอำนาจรัฐหลังจากเกิดเหตุการณ์ได้ไม่นาน โดยเฉพาะพิจารณาจากคำพูดของนายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ฟันธงทันควันว่าเป็นฝีมือของ “กลุ่มที่ขู่ใช้ความรุนแรง” ก่อนหน้านี้ ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเป็นกลุ่มเดียวกับที่ออกมาข่มขู่หลังจากที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกสภานิติบัญญัติแห่งชาติถอดถอนและตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งหลังจากนั้นก็มีหลายคนที่ถูกเชิญตัวมาปรับทัศนคติ ซึ่งก็คือบุคคลที่เคยเป็นอดีตรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลชุดก่อน และเครือข่ายครอบครัวชินวัตร ทั้งสิ้น

ขณะเดียวกัน ทางฝ่ายตำรวจที่ออกมาระบุหลังเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุก็ออกมายืนยันในเวลาต่อมาก็สอดรับกันนั่นคือทั้งวัตถุระเบิดที่เป็นแบบ “ไปป์บอมบ์” ที่เคยเกิดขึ้นที่มีนบุรี รวมไปถึงเหตุการณ์ที่ “สมานเมตตาแมนชั่น” โดย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ดูแลคดีด้านความมั่นคง ยืนยันว่า “มีความเชื่อมโยงกันทางการเมือง” และย้ำว่านอกจากผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับไปแล้วสองคนยังมีบุคคลอื่นที่ที่ต้องติดตามตัว เนื่องจากเชื่อว่ามีผู้ก่อเหตุมากกว่านี้

สอดคล้องกับคำให้สัมภาษณ์ของโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ที่ระบุว่าผู้ที่ก่อเหตุทำกันเป็น “ขบวนการ”

อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง ก็คือ มีรายงานระบุว่ามีกลุ่ม “คนมีสี” ที่เป็นอดีตทหารและตำรวจร่วมขบวนการก่อเหตุในครั้งนี้ด้วย ซึ่ง พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธกับเรื่องนี้ โดยบอกว่ากำลังตรวจสอบรายละเอียดอยู่เท่านั้น

พิจารณาจากรูปการณ์และความเคลื่อนไหวดังกล่าวมาทั้งหมดแล้วมาปะติดปะต่อเชื่อมโยงกันก็ต้องบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะต้องคิดไปถึง “กลุ่มการเมือง” ที่เป็นผู้ลงมือ และแน่นอนว่าคนที่เป็นฝ่ายประกอบระเบิด หรือลงมือก่อเหตุย่อมต้องเกี่ยวข้องกับคนมีสีค่อนข้างแน่ แม้ว่าบางทีอาจไม่ใช่เป็นลงมือ แต่การจัดหาฝึกสอบการประกอบวัตถุระเบิดย่อมเกี่ยวข้องทางใดทางหนึ่งอยู่แล้ว เพราะที่ผ่านมาคนพวกนี้จะถูกสังคมเรียกขานว่า “ทหารแตงโมและตำรวจมะเขือเทศ” ซึ่งปัจจุบันคนพวกนี้ก็ยังแฝงตัวอยู่ในหน่วยงานมมกมาย เพียงแต่รอคอยเวลากลับมาอีกครั้งเท่านั้น

แต่สิ่งที่น่าจับตาก็คือ การติดตามจับกุม “ขบวนการ” พวกนี้ว่าจะลงลึกลงไปได้แค่ไหน เพราะแน่นอนว่าคงไม่ใช่แค่สองคนที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด และถูกศาลอนุมัติหมายจับไปแล้วเท่านั้น เพราะนี่เป็นแค่คนลงมือปลายแถว แต่คนบงการตามลำดับชั้นเหนือขึ้นไปนี่สิยังเป็นคำถามว่าจะ “จับจริง” หรือเปล่า จะเป็นไปตามที่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เคยย้ำว่า “ใหญ่แค่ไหนก็จับ” มันจะเป็นจริงหรือเปล่า

แน่นอนว่าจากคำพูดแบบฟันธงของนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า เป็นฝีมือของกลุ่มไหน และฝ่ายตำรวจก็รู้ว่าเป็น “ขบวนการ” นั้น ฝ่ายเจ้าหน้าที่ย่อมมีการเตรียมรับมือเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว พร้อมทั้งมี “การข่าว” ที่รายงานสรุปมาอย่างต่อเนื่องแล้ว ดังนั้น จึงขึ้นกับนโยบายของ “ระดับบน” ว่าจะเอาอย่างไร จะรุกกวาดล้างจนไม่มีที่ยืนหรือไม่ หรือหยุดเพื่อสร้างเงื่อนไขปรองดอง ไม่ให้ทำลายบรรยากาศมากไปกว่านี้

ก็ต้องติดตามรอดูหลังจากมีการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในเบื้องต้นจำนวน 2 คนผ่านไปแล้วว่าจะเงียบอยู่แค่นี้หรือเปล่า !!
กำลังโหลดความคิดเห็น