“ประยุทธ์” เผยพรุ่งนี้ประชุมร่วมขับเคลื่อนแม่น้ำ 5 สาย ชี้โรดแมปไร้ปัญหาเดินต่อ ประชามติยังไม่มีข้อสรุป ยัน รธน.ใหม่คิดเผื่อปฏิรูป ไม่กีดกันใคร แจง ปรับโครงสร้างเงินเดือนรัฐวิสาหกิจตามระบบ รับจ่ายเงินช่วยสวนยางกว่า 90% จี้ ต้องขึ้นทะเบียนให้ชัด ย้ำเร่งช่วย โบ้ย รบ.ก่อน บกพร่อง ดูแลผู้รุกป่า เผย ปชช.จี้ปราบยาเสพติด ลั่นทำเต็มที่ เปิดเออีซีต้องระวัง จับตาสามเหลี่ยมทองคำ
วันนี้ (3 ก.พ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์กรณีการประชุมร่วมระหว่าง คสช. คณะรัฐมนตรี (ครม.) สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และกมธ.ร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 4 ก.พ.ที่สโมสรทหารบก วิภาวดี ว่าเป็นการหารือเพื่อการขับเคลื่อนของแม่น้ำ 5 สาย ซึ่งก็จะมาพูดคุยว่าแต่ละส่วนมีความคืบหน้าไปถึงไหน อีกทั้งจะมาจัดระเบียบกันว่ากำหนดการตามโรดแมปที่วางไว้ยังมีปัญหาอะไรบ้างหรือไม่ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีปัญหาอะไรยังเป็นไปตามโรดแมปที่มีการวางไว้ อย่างไรก็ตาม วันเดียวกันนี้ได้มีการพูดคุยถึงรายละเอียดของคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งวันที่ 4 ก.พ.ก็จะมีการหารือกันว่ามีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง เพราะถึงเวลาที่ต้องเสนอเข้ามายัง ครม.และคสช. ตอนใกล้เวลาอาจจะติดปัญหากันหมด
เมื่อถามย้ำว่า จนถึงวันนี้ความคืบหน้ายังเป็นไปตามระยะเวลาของโรดแมปที่กำหนดไว้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามระยะเวลาและแผนงานที่วางไว้ ถ้าไม่เป็นตามแผนและกรอบระยะเวลาทุกอย่างก็เดินต่อไม่ได้ เพราะกฎหมายมีการบัญญัติไว้อย่างชัดเจน โดยเดือนเมษายนนี้ คณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญจะต้องมีการเสนอร่างฯ แรกเข้ามาให้ได้และภายในเดือนสิงหาคมก็จะมีการดำเนินการต่อไป ดังนั้นทุกอย่างต้องเป็นไปตามโรดแมปไม่เช่นนั้นก็จะเดินไม่ได้
“เป็นสิ่งที่ผมอยากยืนยันว่า ผมพยายามเดินตามโรดแมปให้ได้ ถ้าพวกเราหรือสถานการณ์ไม่เป็นไปตามปกติ ยังมีความขัดแย้งกันอยู่มากแล้วมันจะเดินต่อกันไปอย่างไรก็ต้องไปหาคำตอบกันเอง อย่ามาหาคำตอบจากผม” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
เมื่อถามว่า ในเรื่องการทำประชามติจนถึงขณะนี้ได้ข้อยุติหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยังไม่ได้ข้อยุติ ต้องไปรอดูตอนนั้นอีกครั้งเพราะในรัฐธรรมนูญไม่ได้มีการบัญญัติไว้ และอยากเรียนว่ารัฐธรรมนูญที่กำลังจะร่างขึ้นเป็นรัฐธรรมนูญที่เราต้องคิดเผื่อการปฏิรูปไว้ด้วยว่าจะทำอย่างไร เพราะในวันข้างหน้าเมื่อมีรัฐบาลเข้ามาเขาก็สามารถทำอะไรได้อีกต่อไป ดังนั้นเราต้องมาคิดว่าเราจะทำอย่างไรกับสิ่งที่ทำมาทั้งหมดปีกว่าๆ จะเดินหน้าต่อไปได้ ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นการเสียเวลาเปล่า ตนไม่ได้มุ่งหวังว่าจะไปกีดกันใครหรือสร้างอำนาจต่อ ยืนยันว่าไม่ได้หวังอะไรเช่นนั้น หวังแต่เพียงว่าพวกเราจะอยู่กันอย่างไร สิ่งที่คิดอยู่ทุกวันนี้ไม่เคยคิดเพื่อตัวเอง และไม่ได้คิดเพื่อใครทั้งสิ้น สิ่งที่ทุ่มเทและคิดในวันนี้มีแต่เพียงว่าวันข้างหน้าจะไปกันอย่างไร บางคนอาจจะเห็นว่าทำดีบ้าง ไม่ดีบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา ความคิดแตกต่างกันได้ แต่อย่าลืมว่าการที่ตนเข้ามารับภาระวันนี้ไม่ต้องมาชมตน เพียงแต่ขอความเข้าใจว่าเข้ามาเพื่อทำอะไรและไม่ว่าจะอย่างไรก็พร้อมฟังจากทุกคน ซึ่งความจริงไม่ฟังก็ได้แต่ตนก็ต้องฟัง เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน
“ขนาดเป็นอย่างนี้และให้โอกาสอย่างนี้ ผ่อนผันอะไรตั้งมากมายก็ยังมีการสร้างความรุนแรงเกิดขึ้น แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น ท่านกล้ายืนยันกับผมหรือไม่ ถ้าไม่ใช้กฎหมายพิเศษแล้วมันจะไม่มีเรื่องแต่วันนี้มันยังมีเรื่องอยู่เลย ผมถามว่าคนเหล่านี้มันเป็นใคร ไปหามาที่พูดไม่ได้โมโหเลย” นายกรัฐมนตรีกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อถึงมติที่ประชุมครม.ในการปรับโครงสร้างเงินเดือนรัฐวิสาหกิจ ว่า เป็นการปรับตามปกติ และรัฐวิสาหกิจก็ต่างได้รับเงินเดือนไปแล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมายังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของข้อกฎหมาย ถือเป็นการปรับตามระบบ โดยวันนี้ได้อนุมัติให้สิ่งที่ติดค้างอยู่สามารถลื่นไหลได้
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อถึง ครม.มีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางว่า ขณะนี้ได้มีการรายงานการจ่ายเงินช่วยเหลือมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว ซึ่งยังเหลืออีกเพียงเล็กน้อยที่ยังไม่ถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า กระทรวงเกษตรกรได้มีการขออนุมัติเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จ่ายไปหมดแล้วทั้งข้าวและยาง ซึ่งต้องเข้าใจว่าการจ่ายเงินนั้นต้องมีทะเบียนเกษตรกร ซึ่งอาจจะยังไม่มีความทันสมัยเพียงพอ แต่ถึงเวลาก็มาขอรับเงินช่วยเหลือ โดยสิ่งที่รัฐบาลต้องดูแล ยังมีเรื่องของผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นความบกพร่องของรัฐบาลที่ผ่านมา แต่ไม่อยากจะโทษใคร เพราะมีการสนับสนุนการปลูกยาง และได้บุกรุกเข้าไปในพื้นที่ป่า กลุ่มดังกล่าวก็ได้มาขอเงินช่วยเหลือด้วย รัฐบาลก็ช่วยเหลือเพราะเห็นเป็นคนจน และให้มาทุกครั้ง อย่างไรก็ตาม ตนกำลังจะจัดระเบียบใหม่ ต้องมีการขึ้นทะเบียนอย่างเป็นระบบและแก้ไขเกษตรกรที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ หรือผู้บุกรุกอย่างไร เพราะถือว่าผิดทั้งยังปล่อยปละละเลยมาโดยตลอด เมื่อจะจัดระเบียบก็บอกว่าประชาชนเดือดร้อน จึงขอให้ช่วยเหลือ ตนอธิบายว่าเดือดร้อนเพราะอยู่ในพื้นที่ผิดกฎหมายหรือเปล่า หากอยู่มาตั้งแต่ดั้งเดิมก็อาจจะมีมาตรการผ่อนปรนให้
“ผมได้ถามไปแล้วว่าให้เงินช่วยเหลือไปแล้ว 1,000 บาท เจ้าของสวนยางบอกว่าได้ แต่คนกรีดไม่ได้ เพราะคนกรีดจ้างมา ต้องเข้าใจว่าเรื่องของยางพารา ไม่ใช่แค่คนปลูก เพราะคนกรีดยังต้องจ้างอีก สองฝ่ายคนละ 50 เปอร์เซ็นต์ ช่วยไป 1 พันบาท คนกรีดไม่ได้ วันนี้เจ้าของสวนยางบอกอยากให้คนกรีดด้วย ปัญหามีความซับซ้อน จึงจำเป็นต้องแก้ไขโดยจัดระเบียบใหม่ เพราะเป็นผลให้ต้นทุนสูงขึ้น จากการลงพื้นที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา วานนี้ (2 ก.พ.) ผมได้นั่งคิดว่าเกษตรกรทุกกลุ่มทั้งยาง ข้าว อ้อย มันสำปะหลังจะจัดระบบสหกรณ์มาใช้ได้หรือไม่ โดยการขึ้นทะเบียนทั้งหมด เพราะที่ผ่านมาเมื่อไปยุ่งกับกลไกมากๆ ทำให้เกิดการบิดเบือนราคา และระบบจะเสียไปหมด จะแก้กลับมาก็ต้องใช้เวลา แต่หากเราส่งเสริมในระบบสหกรณ์ได้ก็จะสร้างความเข้มแข็ง หากสหกรณ์ต้องการเงินทุนเราก็พร้อมสนับสนุน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอฝากไปยังเกษตรกรชาวสวนยางว่ารัฐบาลพยายามเร่งรัดการช่วยเหลือทั้งสนับสนุนการใช้ยางภายในประเทศ โดยจะมีการหารือให้เร็วที่สุดภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อที่จะดูว่าสามารถใช้ยางภายในประเทศได้มากน้อยเพียงใด เพื่อเตรียมรับฤดูกรีดยางครั้งหน้าให้ราคาดีขึ้น แต่วันนี้ต้องดูที่การลดต้นทุน เมื่อขายได้กก.ละ 60 บาท ก็แบ่งกับคนกรีด 50 เปอร์เซ็นต์
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หลังจากลงพื้นที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้สั่งการในเรื่องของการจัดตลาดกลางพืชผล โดยการเปิดตลาดแล้วเอาข้าวมาแข่งกันซื้อ โดยประชาชนซึ่งราคาจะสูงกว่าท้องตลาด 800 บาท ส่งผลทำให้ประชาชนดีใจ วันนี้เราต้องสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรให้เรียนรู้เรื่องการค้าการลงทุน ซึ่งการเปิดตลาดแบบนี้ ถือเป็นการขายตรงกับผู้บริโภค ถ้าไม่อย่างนั้นพ่อค้าคนกลาง จะเอากำไรไปหมด
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงการลงพื้นที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา วันนี้ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ขอให้รัฐบาลเร่งรัดการปราบปรามเรื่องของการทุจริตผิดกฎหมาย และปัญหายาเสพติดให้มากขึ้น เนื่องจากมีลูกหลานติดยาเสพติดเป็นจำนวนมาก วันนี้รัฐบาลทำเต็มที่โดยปัญหายาเสพติดนั้นคิดว่ารัฐบาลชุดนี้ทำได้ดีกว่าช่วงที่ผ่านมามาก ทั้งในด้านของทรัพยากรธรรมชาติ ยาเสพติด อาชญากรรม และอาวุธสงคราม ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทย และต้องเข้มงวดเจ้าหน้าที่ทุกส่วน
นายกฯ กล่าวต่อว่า การเข้าสู่เออีซีจะมีการเปิดการค้าเสรี การเคลื่อนย้ายแรงงาน การค้าการลงทุน มีรายได้ มีผลประโยชน์มากขึ้น คนจนก็มากขึ้น ก็ต้องระมัดระวังเรื่องยาเสพติดด้วย ซึ่งวันนี้กระทรวงยุติธรรมได้รายงานผลกลับไปขอความร่วมมือสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าจะร่วมมือกันอย่างไร โดยเฉพาะในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งจะให้กระทรวงมหาดไทย ตำรวจ ทหาร ร่วมมือกับลาว พม่า จีน มีการลาดตะเวนลุ่มแม่น้ำโขง เพราะวันนี้ยาเสพติดเข้าไปในหลายประเทศ ก็ต้องร่วมมือกัน
นายกฯ กล่าวว่า ทั้งนี้การแก้ไขปัญหายาเสพติด รัฐบาลมีการลาดตะเวนร่วมกันอยู่แล้วกับประเทศในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ไม่ว่าจะเป็นทางบกหรือทางเรือ ซึ่งมีการตรวจสอบร่วมกันใน 4 ประเทศ เพราะเป็นเส้นทางสัญจรไปมา โดยที่ผ่านมาได้มีการจับกุมและประหารชีวิตมาแล้ว และต้องเพิ่มความเข้มงวดในการรับส่งสินค้าด้วย