เกาะกระแส
00 บางครั้งไม่อยากจะมองอะไรให้ลึกลงไปมาก แต่สถานการณ์เท่าที่เห็นในวันนี้ นับตั้งแต่ สนช. ลงมติถอดถอน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากโครงการรับจำนำข้าว ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นเกินคาด ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ต้องปะทะกันโดยตรงมากขึ้นกับเครือข่าย ทักษิณ ชินวัตร สังเกตได้จากการเรียกบรรดาลิ่วล้อมารายงานตัวปรับทัศนะคติกันอีกรอบ ไม่ว่าจะเป็นพวกอดีต รมต. ในรัฐบาลเก่า อย่าง สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล พิชัย นริพทะพันธุ์ จาตุรนต์ ฉายแสง รวมไปถึงพวกหัวโจกคนเสื้อแดง อย่าง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ วระชัย เหมะ เป็นต้น หลังจากคนพวกนี้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงข่มขู่
00 แต่ก็นั่นแหละ มองอีกมุม มันอาจเป็นแค่ "การแสดง" ตามบท เหมือนกับว่าเมื่อ "นาย" หรือ "น้องสาวของนาย" โดนกระทำ มันก็ต้องออกแอ็กชั่นกันบ้าง เพื่อให้คนรอบข้างได้เห็นกันบ้าง จะให้นั่งเฉยๆไม่รู้ร้อนรู้หนาว มันก็กระไรอยู่ เพราะคนพวกนี้ยังต้อง "หากิน" อยู่กับครอบครัวนี้ต่อไปจนตาย แต่อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องพิจารณากันก็คือ "ท่าทีต่อกัน" ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ ทักษิณ ชินวัตร และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะมีระยะห่างออกไปเรื่อยๆ หรือไม่ เพราะหลังจากลงมติถอดถอน ต่อเนื่องมาจนถึงกรณี ผช.รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ แดเนียล รัซเซล เข้ามาเสียมารยาทในประเทศไทย ทำให้ต้องมีคำตำหนิกันอย่างรุนแรงตามมา โดยเฉพาะกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ตำหนิ ยิ่งลักษณ์ ที่ไปโร่ฟ้องมะกัน ความหมายเหมือนกับ "ชักศึกเข้าบ้าน" แต่ถ้าถามว่า "อายมั๊ย" มันไม่อายหรอก มากกว่านี้มันยังไม่อายกันเลย !!
00 แต่เอาเป็นว่าไม่ว่าจะแสดงกันตามบทหรือเปล่า แต่อีกด้านหนึ่งมันก็เหมือนกับสถานการณ์บีบบังคับให้พาไป สภาพการณ์แบบ "ลอยตัว" แบบในอดีตที่เคยกล่าวว่า เคยเข้ามาป้องกันความขัดแย้งไม่ให้สองฝ่ายตีกัน มาบัดนี้กับความจริงที่เป็นอยู่มันปฏิเสธไม่ได้แล้วว่า แท้จริงแล้วชาวบ้านไม่ได้ขัดแย้งกัน เพราะอีกฝ่ายต้องการปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ต้องการให้ยึดถือกฎหมายบ้านเมือง เหมือนอย่างความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว มีมูลค่ากว่า 7 แสนล้าน มีความผิดเห็นกันอยู่ตรงหน้า จะปล่อยให้ลอยนวลได้อย่างไร เรื่องแบบนี้จะมาปรองดองกันไม่ได้ ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ คสช. ไปปรองดอง คนที่อยู่ไม่ได้ ความศรัทธาหดหาย จะปรากฏทันที และนี่ต่างหาก ที่ต้องตัดสินใจเลือกข้าง !!
00 อย่างไรก็ดี ด่านหินข้างหน้าที่รอรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็คือ "ปากท้อง" ของชาวบ้านเป็นหลัก เรื่อง "ของแพง" ยังตามหลอกหลอน แม้ว่าราคาน้ำมันจะลด แต่คำถามก็คือ ทำไมราคาสินค้าจำเป็นมันถึงไม่ลดลงมาตาม ราคาสินค้าเกษตรยังไม่กระเตื้อง ของแบบนี้แหละน่าห่วง หลังปีใหม่ไปแล้ว เมื่อเริ่มเข้าสู่หน้าแล้ง ต้องรีบจัดการให้เห็นเป็นรูปธรรม ไม่เช่นจะยุ่งเหมือนกัน
00 ที่เป็นฮึ่มๆ กันแบบเก็บกด ก็คือเรื่อง ราคายางพารา ที่เวลานี้ชาวสวนยางนัดประชุมกันไปแล้วหลายพื้นที่ เพื่อเสนอแนวทางให้รัฐบาลช่วยเหลือ หาทางออกให้ แม้ว่าจะถูกเบรกไม่ให้เคลื่อนไหวชุมนุม แต่เชื่อเถอะ ในที่สุดแล้วหากปัญหาไม่คลี่คลาย ความเดือดร้อนประดังเข้ามา บังคับกดเอาไว้อย่างไร ก็คงเอาไม่อยู่ ที่ต้องระวังก็คือมันจะ "ระเบิด" ออกมาพร้อมกันนะซี !!
00 การออกมาทุ่มสุดตัวของ "พี่ใหญ่" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง ที่ออกหน้าการันตีดึงราคายางพาราให้ถึง กก.ละ 80 บาทภายในหนึ่งเดือน ถือว่ากล้า และมั่นใจมาก เพราะถ้าทำได้จริงถือว่า "เจ๋ง" มาก และชี้ไปไกลถึงอนาคตได้ทีเดียว เพราะเป็นการรองรับและกรุยทางไปถึงเก้าอี้นายกฯในอนาคตได้ไม่ยาก หากคิดจะปีนป่าย แต่ที่บอกว่าเสี่ยงก็คือ กลัวว่าจะทำไม่ได้จริง และจะย้อนกลับมาหาตัว ที่สำคัญมันจะตรงกับความต้องการของชาวบ้านหรือเปล่า เนื่องจากชาวบ้านต้องการให้ราคาน้ำยางดิบ ราคากก.ละ 80 บาท แต่ที่ พล.อ.ประวิตร กำลังผลักดันคือ ราคายางแผ่นดิบรมควัน ซึ่งส่วนใหญ่มีแต่ชาวสวนรายใหญ่ที่ขายกันอยู่ มันถึงบอกว่า ความหมายมันคนละเรื่อง !!