ทหารเรียกก๊วนเพื่อไทยปรับทัศนคติชุดใหญ่ “จาตุรนต์-สุรพงษ์-เชิดชัย-พิชัย-ณัฐวุฒิ” ด้าน “อ๋อย” โพสต์เฟซบุ๊กระบุพร้อมร่วมมือ ขณะที่ “อ้ายปึ้ง” ลือถูกรวบหลังเมินเทียบเชิญ ล่าสุด “อำมาตย์เต้น” โดนเรียกรายงานพรุ่งนี้ด้วย
วันนี้ 29 ม.ค. หลังจากเจ้าหน้าที่ทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) กองทัพภาคที่ 1 ได้เชิญนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.ศึกษาธิการ และอดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เข้ามาพูดคุยหารือภายในกองทัพภาคที่ 1 กับ พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1
นายจาตุรนต์ได้โพสต์ข้อความทางผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวก่อนที่จะเดินทางไปรายงานตัวระบุว่า “ผู้สื่อข่าวบางรายโทรศัพท์มาสอบถามว่าผมถูกเชิญไปกองทัพภาคที่ 1 บ่ายนี้ใช่หรือไม่ ขอเรียนให้ทราบว่าเมื่อตอนสายๆ วันนี้มีนายทหารนายหนึ่งโทร.มาหา แจ้งว่าได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้เชิญไปพบที่กองทัพภาคที่ 1 เวลาบ่ายสามโมงเพื่อพูดคุยด้วย”
“แต่ไม่ทราบหัวข้อที่จะคุย ได้ตอบรับคำเชิญว่าจะไปที่กองทัพภาคที่ 1 ก่อนบ่ายสามโมงวันนี้ ไม่ทราบหัวข้อที่จะพูดคุย แต่ก็คิดว่าการได้พูดคุยกันก็น่าจะเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่กำลังต้องการความคิดเห็นจากทุกฝ่ายสำหรับการแก้ปัญหาบ้านเมือง รวมทั้งการวางกฎกติกาต่างๆ ยินดีรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รวมทั้งทางเจ้าหน้าที่ และก็ยินดีที่จะเสนอความคิดเห็นที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมซึ่งเป็นหลักปฏิบัติของผมเสมอมา”
ด้านนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีใครติดต่อมา แต่ถ้าเชิญมาก็ยินดีที่จะไปพูดคุย เพราะที่ผ่านมาสิ่งที่ได้พูดไปนั้น ตนพูดเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ได้พูดเพื่อสร้างความขัดแย้ง หรือสร้างความแตกแยก และเรื่องที่พูดส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องของเศรษฐกิจที่ตนมีความเป็นห่วง จึงคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร
มีรายงานว่า ในช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ทหารได้บุกเข้าเชิญตัวนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.การต่างประเทศ จากร้านอาหารแห่งหนึ่งบริเวณเมืองทองธานี เพื่อไปปรับทัศนคติในค่ายทหาร คาดว่าจะเป็นพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 เนื่องจากที่ผ่านมาทางทหารได้พยายามติดต่อนายสุรพงษ์แล้ว แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ จึงต้องมีการเชิญตัวดังกล่าว แต่วานนี้ 28 ม.ค.นายสุรพงษ์อ้างว่ายังไม่ได้หมายเรียก
วันเดียวกันมีรายงานจาก จ.ขอนแก่น ว่า นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีต ส.ส.เพื่อไทย ก็ได้เข้าพบทหารเพื่อรายงานตัวเช่นกัน
ล่าสุดมีรายงานว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นอีก 1 คนที่จะต้องรายงานตัวในวันที่ 30 ม.ค.