รายงานการเมือง
ต้องติดตามกันต่อไป กับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย เพราะมีความเป็นไปได้ว่าไม่นานต่อจากนี้ “บิ๊กป๊อก” พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา มท.1 จะชงบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแบบเงียบๆ ไร้วี่แวว ทำแบบประเภทเด้งฟ้าผ่า ชนิดไม่ให้ใครตั้งตัวทัน กันอีกแบบที่ทำมาแล้วเมื่อวันอังคารที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมา
ต้องถือว่าปิดข่าวได้เงียบสนิท ชนิดบิ๊กมหาดไทยหลายคนตกข่าวกันหมด ไม่รู้ว่า มท.1 ชงบัญชีรายชื่อเด้ง - สลับเก้าอี้เข้า ครม. 10 ตำแหน่ง เข้าที่ประชุม ครม. แม้ก่อนหน้านี้จะมีข่าวกระเซ็นกระสายมาบ้างว่า จะมีการโยกย้ายนอกฤดูกาลในระดับ 10 ของ ก.มหาดไทย จากผลพวงเรื่อง ผลการตรวจสอบโครงการจัดซื้อปุ๋ยและยาปราบศัตรูพืชที่อยู่ในงบโครงการจัดซื้อสารเคมีผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืชเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติโรคระบาดด้านพืชที่เป็นงบสำรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบพบความผิดปกติในการจัดซื้อซึ่งแม้จะเป็นการตรวจสอบพบนานแล้วเพราะเป็นงบในช่วงปี 2554 - 2555 แต่ สตง. ก็เพิ่งทยอยสรุปผลการตรวจสอบและแจ้งไปยังกระทรวงมหาดไทยกับสำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ขยายผลต่อไป
ก่อนหน้านี้ มีข่าวว่า ในการตรวจสอบของ สตง. อาจจะมีบิ๊กมหาดไทยระดับ 10 หลายคนในเวลานี้เกี่ยวข้องด้วยจึงทำให้ช่วงที่ผ่านมาเกิดกระแสข่าว พลเอก อนุพงษ์ จะเด้งบิ๊กมหาดไทยในเวลานี้ร่วมๆ 10 คนเข้ากรุไปก่อนแล้วตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตามระเบียบราชการต่อไป
อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่เห็นว่า พลเอก อนุพงษ์ คงไม่ทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายอะไรในช่วงนี้เพราะต้องรอเรื่องจาก สตง. กับ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดหรือสรุปผลอย่างเป็นทางการมาก่อนถึงค่อยจัดการ โดยคาดกันว่าน่าจะเป็นช่วงมีนาคม ที่จะอยู่ในช่วงแต่งตั้งโยกย้ายกลางปีเดือนเมษายนพอดี จะได้ปรับตำแหน่งอะไรต่างๆ ควบคู่ไปกับการขยายผลการตรวจสอบของ สตง. และ ป.ป.ช.
แต่ที่ไหนได้ จู่ๆ พลเอก อนุพงษ์ ก็จัดการแต่งตั้งโยกย้ายแบบเงียบๆ ทีเดียว 10 ตำแหน่ง เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าผู้ว่าฯหลายจังหวัดที่โดนเด้งเข้ากรุ ดันเป็นสิงห์มหาดไทยสายเสื้อน้ำเงิน คือ พวกที่เคยได้ดิบได้ดีในยุคพรรคภูมิใจไทยเป็นใหญ่ และหลายคนเป็นคนในเครือข่ายเนวิน ชิดชอบ ที่ก็รู้กันดีว่าเนวิน แนบแน่น กับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ขนาดไหน
ไม่ว่าจะเป็น ธานี สามารถกิจ ผวจ.ระยอง อดีตทีมงานหน้าห้องชวรัตน์ ชาญวีรกูล สมัยเป็น รมว.มหาดไทย - ระพี ผ่องบุพกิจ ผวจ.นครสวรรค์ - เสริม ไชยณรงค์ ผวจ.อุบลราชธานี ซึ่งสามคนนี้โดนเด้งเข้ากรุผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เล่นเอาผู้คนโดยเฉพาะข้าราชการมหาดไทย งงกันไปตามๆ กันว่าเกิดอะไรขึ้น ระหว่าง เนวิน - ภูมิใจไทย กับบิ๊กป้อม และบิ๊กป๊อก
ทั้งนี้ แม้ พลเอก อนุพงษ์ จะยืนกรานว่าการโยกย้ายดังกล่าวเป็นเรื่องความเหมาะสมในการบริหารงานไม่เกี่ยวอะไรทั้งสิ้นกับการตรวจสอบอะไร แต่ของแบบนี้ มันก็แค่การอ้างไปอย่างนั้น สาเหตุลึกๆ ที่มีการเด้งกันรอบนี้ มันต้องมีแน่นอนไม่อย่างนั้นจู่ๆ คงไม่มีการโยกย้ายปรับเปลี่ยนอะไรกันแบบนอกฤดูกาลเช่นนี้
ข่าววงในก็บอกว่าการย้ายดังกล่าวไม่เกี่ยวกับเรื่องงบจัดซื้อยาปราบศัตรูพืชแน่นอน
เบื้องต้น เชื่อว่าการโยกย้ายใน ก.มหาดไทย นอกฤดูกาล มันไม่จบแค่นี้แน่นอน คาดหมายกันว่า เร็วๆ นี้ พลเอก อนุพงษ์ อาจชงบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 ของกระทรวงมหาดไทยเข้า ครม. อีกล็อตหนึ่ง แต่จะเป็นช่วงไหนต้องจับตา อาจเป็นช่วงกุมภาพันธ์ หรือจะเลยไปช่วงมีนาคม - เมษายน เลยก็ยังไม่แน่ชัด แต่สัญญาณหลายอย่างมันออกมาแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นกรณีข่าวกระทรวงมหาดไทยทำเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพื่อขอให้ก.พ. อนุมัติเปิดตำแหน่งพิเศษที่เรียกกันว่าที่ปรึกษาพิเศษของกระทรวงมหาดไทย ที่เป็นตำแหน่งลดชั้น หนักยิ่งกว่าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยเสียอีก ข่าวบอกว่า ก.พ. ไฟเขียวมาแล้ว แต่ยังไม่ชัดว่า ก.พ. กับกระทรวงมหาดไทย มีข้อตกลงเรื่องนี้กันอย่างไร กระทรวงมหาดไทยอ้างเหตุผลอะไรถึงขอเปิดตำแหน่งดังกล่าวที่ข่าวบอกว่าอาจมีร่วมๆ 10 ตำแหน่ง
แต่กระแสข่าวหลายสายบอกว่า ที่กระทรวงมหาดไทย จะเปิดตำแหน่งพวกนี้เอาไว้ก็เพื่อเอาไว้แขวนคนที่โดนเด้งจากผลพวงโครงการฉาวการจัดซื้อยาปราบศัตรูพืช ที่ สตง. ชี้ในเบื้องต้นว่า การดำเนินการของหลายจังหวัดส่อเค้าว่าจะมีการทุจริต และทำให้เงินของรัฐรั่วไหลโดยคนที่เกี่ยวข้องหลายคนอยู่ในสายงานกระทรวงมหาดไทย ทั้งที่มีอำนาจอยู่ในปัจจุบันและพวกที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว โดยเวลานี้ สตง. ก็ส่งผลสอบเบื้องต้นในบางจังหวัดมาให้กระทรวงมหาดไทยแล้วที่ส่วนใหญ่เป็นจังหวัดในภาคอีสาน เช่น ที่อุบลราชธานี บึงกาฬ อำนาจเจริญ มุกดาหาร และจะส่งมาอีกหลายจังหวัดในเร็วๆ นี้ เพราะตามข่าวบอกว่า สตง. ตรวจสอบพบความผิดปกติร่วมๆ 22 จังหวัด ทั้งอีสาน - เหนือ - กลาง เลยทีเดียว
ย่อมทำให้ บิ๊กป๊อก ในฐานะเจ้ากระทรวง ก็ต้องเต้นเป็นธรรมดา เพราะหากผู้ใต้บังคับบัญชาในเวลานี้ หรือพวกบิ๊กมหาดไทยที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว มีส่วนพัวพันกับการทำผิด หาก พลเอก อนุพงษ์ อยู่ๆ เฉย ไม่ทำอะไร เช่น ไม่ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง สอบวินัย ตัวบิ๊กป๊อกก็อาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จะโดน ป.ป.ช. สอยเอาได้ เลยต้องเตรียมจัดการกับพวกข้าราชการมหาดไทยที่อาจพัวพันกับเรื่องงบจัดซื้อยาฆ่าแมลงดังกล่าวไว้แต่เนิ่นๆ
ทว่า ระหว่างที่กำลังรอทั้ง ป.ป.ช. และ สตง. สรุปผลการตรวจสอบการจัดซื้อยาปราบศัตรูพืชดังกล่าวในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ข่าวจากทีมตรวจสอบ สตง. แจ้งมาว่า ความผิดปกติที่ สตง. เจอในโครงการนี้ ก็คือ จัดซื้อมาแล้วพบว่าได้ของคุณภาพต่ำ - ยาฆ่าแมลงปลอม ไม่ได้คุณภาพ - มีการจัดซื้อแพงกว่าความเป็นจริงถึง 20 เท่าของราคาในท้องตลาด ทำให้ สตง. ประมาณการว่า ในงบดังกล่าวที่มีร่วมๆ 7 พันล้านบาท น่าจะมีการรั่วไหลหรือทำให้รัฐเสียหายต้องจ่ายแพงกว่าปกติ อย่างต่ำๆ ก็ 20 - 30 เปอร์เซ็นต์
ที่น่าสนใจ ข่าวจากทีมตรวจสอบของ สตง. บอกมาว่า ทีมงานตรวจสอบเรื่องนี้ของ สตง. พบว่า ในการจัดซื้อดังกล่าวของหลายจังหวัดในภาคอีสาน พบว่า ส่วนใหญ่มักจะซื้อจากบริษัทที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช เพียงไม่กี่แห่ง แต่มีอยู่เจ้าหนึ่งขายของได้จำนวนมากเรียกได้ว่าแทบจะผูกขาดเลยในภาคอีสาน ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีตัวแทนหรือพูดง่ายๆ ว่า เป็นเจ้าของกิจการ คอยไปวิ่งงานพบปะผู้ใหญ่ของจังหวัด ที่รู้จักชื่อกันในชื่อ “เสี่ยอ้วน” แต่ข่าวยังไม่บอกชัดว่า “เสี่ยอ้วน” คนนี้ เวลาขายสินค้า มีโปรโมชันหรือบริการหลังการขายอะไรที่ดี และเหนือกว่าเจ้าอื่น ถึงได้ขายพวกสารเคมีปราบศัตรูพืชให้กับหลายจังหวัดได้แบบเป็นกอบเป็นกำ ตรงนี้ก็ต้องรอ สตง. กับ ป.ป.ช. ทำงานไปก่อน
หากเรื่องนี้มีการขยายความ เอาผิดกันอย่างจริงจัง จากทั้ง สตง.- ป.ป.ช.- กระทรวงมหาดไทย จนมีการเด้งกราวรูดและตั้งกรรมการสอบบิ๊กมหาดไทยจำนวนมาก เชื่อว่า “เสี่ยอ้วน” คนนี้จะเป็นตัวละครสำคัญที่สุดท้ายอาจหาตัวไม่เจอ ก็เป็นได้ !