xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ปัดไล่ล่าใคร ชี้เป็นสิทธิมะกันพบ “ปู” อย่าโยงถอดถอน ลั่นห้ามเคลื่อนไหว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“บิ๊กตู่” ไม่ห่วงหลังถอดถอนส่อวุ่น ย้ำเป็นไปตาม กม. ชี้ไม่ลงทุนใช้ประเทศไปล่าใคร ปัดมีคุย “ยิ่งลักษณ์” โยนห้ามไปตปท.อยู่ที่ฝ่าย กม. ลั่นไม่กระทบปรองดอง จี้อยู่ในกติกาห้ามเคลื่อนไหว ยันไม่ได้ตั้ง สนช.เพื่อล่าใคร ชี้ชาติมีปัญหาถึงเข้ามา ไม่ได้รักหรือเกลียดใครพิเศษ แจงผู้แทนมะกันพบ กต.เรื่องปกติ เล็งแจงความคืบหน้าต่างๆ รับเป็นสิทธิพบอดีตนายกฯ



วันนี้ (26 ม.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์หลังจากที่หลายฝ่ายเป็นห่วงสถานการณ์ทางการเมืองที่อาจเกิดความวุ่นวายขึ้นภายหลังที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าไม่ห่วงทุกคนต้องเข้าใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามกติกาและกฎหมาย “อย่าไปเขียนว่าเป็นการไปไล่ล่าใคร อย่าลงทุนกันมากขนาดนั้นเลย ไม่ได้ต้องการไปไล่ล่าใครเป็นกรณีพิเศษ แล้วต้องใช้ประเทศทั้งประเทศ หรือประชาชนทั้งประเทศมาต่อสู้กันนั้น มันไม่ใช่ ผมคงไม่ไปลงทุนขนาดนั้น ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย กติกา และกฎหมายว่าอย่างไร ถ้ามันทำไม่ได้ก็คือทำไม่ได้ อะไรทำได้ก็ทำได้”

เมื่อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้มีการติดต่อมาบ้างหรือไม่ นายกฯ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่มีการติดต่อ เขาจะติดต่อมาเรื่องอะไร ยืนยันว่าไม่มีการโทรศัพท์มาพูดคุยหรือติดต่ออะไรมาทั้งนั้น ผู้สื่อข่าวถามว่า หากช่วงนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะขออนุญาต คสช.เพื่อเดินทางไปต่างประเทศ ทำได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถามกระบวนการยุติธรรมเขาก่อนว่าจะว่าอย่างไร ปกติการจะห้ามคนเดินทางไปไหนมาไหนต้องใช้กฎหมาย ไม่ใช่อะไรก็จะถาม คสช.ฝ่ายเดียว วันนี้ต้องถามว่าฝ่ายกฎหมายว่าอย่างไร มีความผิดแล้วหรือยัง เมื่อถามต่อว่า หากขั้นตอนของกฎหมายไม่มีข้อบัญญัติห้ามก็มีสิทธิที่จะเดินทางไปต่างประเทศใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ถ้ายังไม่มีการห้ามมา ก็ต้องมาดูว่าวันนี้ยังอยู่ในกระบวนการการต่อสู้หรือเปล่า วันนี้ในเรื่องการถอดถอนจากตำแหน่งเป็นเรื่องของคดีทางการเมือง ก็เหมือนทุกครั้ง ในส่วนคดีการถอดถอนมันไม่ได้มีคดีอาญาไม่ใช่หรือ

เมื่อถามว่า หากมองภาพกว้างของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการปรองดองหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวปฏิเสธว่า ไม่กระทบ “ผมบอกแล้วว่าให้แยกเรื่องออกจากกันว่าอะไรคือการสร้างความปรองดอง อะไรคือคดีความทางกฎหมาย ผมบอกแล้วไงว่าเราอย่าลงทุนประเทศทั้งประเทศกันเลย บางอย่างขอให้เป็นไปตามกระบวนการต่อสู้ ซึ่งทุกคนก็ต้องยอมรับในกติกา ถ้าทุกคนไม่ยอมรับกติกาทุกอย่างก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม กลับไปที่เก่า ผมเคยบอกแล้วว่าถ้าไม่ได้ทำอะไรให้เกิดปัญหา ไม่มีเรื่องเกิดขึ้น ก็จะไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการ แต่เมื่อมันมีปัญหาเกิดขึ้นมา ทุกอย่างก็ต้องเข้าสู่กระบวนการ ทุกคนก็ต้องเคารพ เมื่อตัดสินอย่างไรก็ต้องว่าไปตามนั้น วันนี้ไม่มีสภา มีแต่ สนช.และสปช.ซึ่ง สนช.ก็ต้องทำงานแทนสภา ก่อนหน้านี้ก็ใช้สภาเป็นที่ถอดถอนไม่ใช่หรือ ถ้าจะบอกว่าสภานี้ไม่ได้รับการเลือกตั้งมา แต่ สนช. เป็นของรัฐบาลนี้ ซึ่งเป็นรัฐบาลในวาระพิเศษ ทำหน้าที่แทนรัฐบาลจริง เมื่อแต่งตั้ง สนช.ขึ้นมา เขาก็ต้องทำงานและสมาชิกที่อยู่ใน สนช.ก็ไม่ใช่พวกผม ไม่ได้คัดมาเพราะพวกผม แต่คัดมาด้วยคุณสมบัติและความเหมาะสม เพียงแต่ต้องมีทหารและข้าราชการอื่นๆ เข้ามาด้วย และการตัดสินก็เป็นไปตามกระบวนการและวิจารณญาณของเขา ขึ้นอยู่กับการชี้แจงและการตอบคำถาม ผลออกมาอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ถ้ามันไม่ผิดก็คือไม่ผิด จะไปสั่งอะไรเขาได้ ผมไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อใช้ไปไล่ล่าฆ่าฟันใคร เพียงแต่ตั้งขึ้นมาเพื่อแทนสภา เพราะยังมีกฎหมายอีกมากที่จะผ่านการพิจารณา”

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อเท็จจริงอย่างไร เพราะขณะนี้มีกระแสข่าวว่าถ้ามีการเคลื่อนไหวอย่างใดอย่างหนึ่งจะมีการใช้กฎอัยการศึกเข้าไปดำเนินการ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “ไม่ใช่เช่นนั้น เพียงแต่ไม่ว่าใครทั้งนั้น จะออกมาเคลื่อนไหวใดๆ ไม่ได้ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้เท่านั้น วันนี้เราต้องการความสงบสุขเรียบร้อย ประชาชนก็เรียกร้องว่าขอให้บ้านเมืองมีความสงบสุข ดังนั้นไม่ว่าใครก็ออกมาเคลื่อนไหวไม่ได้ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องคดีการถอดถอนเท่านั้น ทุกคณะจะออกมาเคลื่อนไหวใดๆ ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม”

พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงผู้แทนของสหรัฐอเมริกาที่เดินทางเข้าพบ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศว่า เป็นการมาในเรื่องทั่วๆ ไปและเท่าที่ทราบเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยก็จะเดินทางมาประจำในเดือนหน้า (ก.พ.) ก็เป็นเรื่องธรรมดา อย่าเอาไปพันกันกับคดีการถอดถอนอดีตนายกรัฐมนตรีเลย ในเรื่องที่ผู้แทนสหรัฐฯ เดินทางมาเป็นการติดตามสถานการณ์ต่างๆ เราก็จะถือโอกาสได้ชี้แจงว่าเรามีพัฒนาการไปถึงไหนแล้ว ปัญหาอยู่ที่ไหน สหรัฐฯ เขาไม่ได้มาดูเรื่องการตัดสินคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่า แต่ทางสหรัฐเลือกจังหวะพอดีกับการถอดถอนอดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นเรื่องของเขา ก็เหมือนกับเรา สื่ออย่าไปวิเคราะห์ไปต่างๆ นานา สื่อก็ชอบวิเคราะห์และคิดเอง สหรัฐฯ จะมาช่วงไหนก็เป็นเรื่องของเขา เราจะไปไหนก็เป็นเรื่องของเรา ทำไมจะต้องเอามาพันกัน เมื่อถามว่า มีการติดต่อมาพบนายกรัฐมนตรีบ้างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้อนถามว่า “เขาจะมาพบผมทำไม เขาไม่พบผม เพราะเขาก็รู้อยู่ว่าผมมาอย่างไร การเมืองก็คือการเมือง การเศรษฐกิจเขาก็มีการค้าขายกับเรา การฝึกร่วมรบก็ยังฝึกกับเรา เขาแยกแยะออกจากกัน แต่เรายังเอาหลายเรื่องมารวมกันอยู่เลย วันนี้หลายประเทศก็ยังค้าขายกับเราอย่างปกติ ประเทศที่ต่อต้านเราไม่เห็นชอบกับเรา แต่ก็ยังค้าขายกับเราได้”

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ผู้แทนสหรัฐฯ ได้มีกำหนดในการพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของเขา เขาก็มีสิทธิที่จะพบ เขาต้องรู้ว่าเขาต้องทำอย่างไร ก็แล้วแต่เขา เราก็ไม่ได้ไปห้ามปรามอะไรเขา “เพียงแต่ผมขอร้องว่าอย่าไปเขียนว่าสิ่งที่ทำวันนี้เพื่อจะไปไล่ล่าอดีตนายกฯ ทุกคน มันไม่ใช่ ผมยืนยันอีกครั้งว่าเราทำเพื่อขับเคลื่อนประเทศ ผมบอกมาหลายครั้งแล้วว่าการที่เราออกมาควบคุมอำนาจนั้น เราไม่ได้ยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม ต้องเข้าใจว่าในช่วงนั้นบริหารงานไม่ได้เลย งบประมาณก็ใช้ไม่ได้ นั่นคือความจำเป็นที่เราต้องออกมา ทำให้คดีความและเรื่องต่างๆ ที่ติดขัดเดินต่อไปได้ นี่คือจุดมุ่งหวังของตน โดยให้ทุกคนดำเนินการไปตามปกติ ผมไม่ได้ไล่ล่าใคร ถ้าไล่ล่าก็ต้องตั้ง คตส. ตั้งอะไรอีกเยอะแยะ ซึ่งมันเร็ว แต่มันจะจบหรือไม่ แต่ขณะนี้ก็ต่อสู้กันไปถ้าอยากจะต่อสู้ก็ต่อสู้ เราให้ความเป็นธรรมกับทุกคนและทุกฝ่าย สื่อก็อย่าเขียนเอาทุกอย่างมาพันกันหมด ผมอยากจะมาขอร้อง”

เมื่อถามว่านอกจากประเด็นการเมืองที่รัฐบาลต้องการชี้แจง ยังมีประเด็นอื่นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าก็เป็นเรื่องของความก้าวหน้าต่างๆ ทั้งเรื่องการเตรียมการ การแก้ปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์ เรื่องประมง เพื่อชี้แจงให้ทราบว่าขณะที่เรามีปัญหาอย่างนี้ เราจะมีการเดินน้าประเทศอย่างไร ในส่วนของกระบวนการประชาธิปไตยก็กำลังเดืนหน้าอยู่ รวมทั้งการเตรียมการเลือกตั้ง การร่างรัฐธรรมนูญก็ต้องอธิบายพื่อให้เขารู้พวกเราทุกคนก็ต้องช่วยกันอธิบายว่าอะไรคือเหตุผลและความจำเป็น เพราะถ้าวันนี้ทุกอย่างยังเป็นเหมือนเดิมยังมีการประท้วงเหมือนเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา แล้วจะเกิดอะไรขึ้นจะมีคนบาดเจ็บล้มตายอีกเท่าไหร่ ถ้าไม่มีการทำอะไรจนเกิดผลเสียมันจะมีการประท้วงหรือ หากย้อนกลับไปปี 2553 ถามว่าใครเป็นรัฐบาล ถ้าอีกพรรคเป็นรัฐบาลแล้วอีกพรรคจะประท้วงหรือไม่ ก็จะมีการประท้วงกลับไปกลับมาอยู่แบบนี้ แล้วประเทศชาติจะอยู่ตรงไหน นี่คือสิ่งที่ทำให้ต้องมีรัฐบาลนี้

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ผมถามว่าถ้าผมไม่ออกมาแล้วเกิดรัฐบาลที่แล้วต้องออกไปอีกพรรคการเมืองเข้ามารัฐบาลชุดที่แล้วจะประท้วงหรือไม่ มันก็เหมือนเดิม แล้วเราจะปล่อยให้มันกลับไปกลับมาเช่นนี้หรือเราก็ต้องไปปิดสถานการณ์ตรงนี้ให้ได้เหมือนกับการหยุดเลือดที่มันไหลอยู่เพราะประเทศเราเดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยหลังก็ไม่ได้ สน้างความเข้มแข็งก็ไม่ได้ เศรษฐกิจก็ตกต่ำ จึงเป็นเหตุผลที่เราต้องเข้ามา เราไม่ได้เข้ามาเพื่อจับใครติดคุกหรือลงโทษ ทุกอย่างให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ถ้าไม่กระทำความผิดก็ไม่ติดคุก ไม่ถูกดำเนินคดี ประเทศนี้ไม่ใช่จะเอากฎหมายมาไล่ล่าด้วยคดีการเมือง การเมืองก็คือการถอดถอน ความผิดคือการรับผิดชอบหรือไม่รับผิดชอบถึงเรียกว่าคดีการเมือง สองคือคดีอาญาก็ต้องไปดูเรื่องการทุจริตต้องแยกกันให้ออก ถ้าแยกไม่ออกก็ยังเป็นอยู่แบบนี้ อยากให้เข้าใจกันสักที ผมไม่ได้ไล่ล่า ไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร ไม่ได้รักใครพิเศษ หรือเกลียดใครพิเศษ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า วันนี้ที่ทำทั้งหมดก็เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ รัฐวิสาหกิจจะต้องดูแลอย่างไร มีการออกกฎหมายอย่างไร ไม่ใช่สั่งแล้วทั้งหมดจะออกมาได้ทันที ทุกอย่างต้องใช้กฎหมาย กระบวนการสร้างความน่าเชื่อถือ บางอย่างก็ต้องฟื้นฟูและต้องได้รับการยอมรับจากคนภายในองค์กร อย่าลืมว่าทุกคนต่างก็เป็นคนไทยไม่ว่าจะเป็นสหภาพหรือแรงงานต้องสร้างความเข้าใจและกฎระเบียบใหม่ ให้ทุกคนเข้าใจว่าเราจะเดินหน้าประเทศ วันนี้อย่าเอาอดีตมาตีกัน แต่เอาอดีตที่เป็นปัญหามารวมกับปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้ เพื่อแก้และเดินหน้าประเทศต่ออย่าเอาภาระที่พรุงพรังบวกเข้าไปจนเดินไม่ได้ ทุกคนอยากให้สร้างความปรองดองแล้วจะให้ยกเลิกทั้งหมดคงไม่ได้ ต้องรอให้กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ตัดสิน เพราะไม่มีใครตัดสินได้


กำลังโหลดความคิดเห็น