ยิ่งลักษณ์ กับขบวนการปลอมจีทูจีขายข้าว ไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งโง่

หนังสือ“มหากาพย์โกงข้าว ชำแหละโกงจำนำข้าวทุกขั้นตอน “ ของ นายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ จำแนกรูปแบบการโกงในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ออกเป็น 3 ขั้นตอน คือ โกงต้นน้ำ โกงกลางน้ำ และโกงปลายน้ำ

โกงต้นน้ำ คือ โรงสีที่เข้าร่วมโครงการ รับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา กดราคาโดยอ้างความชื้น สิ่งเจือปน รับซื้อข้าวในราคาเกวียนละ 9,000- 12,500 บาท แล้วเอาไปขายต่อให้รัฐบาลเกวียนละ 15,000 บาท อีกวิธีหนึ่งคือ โรงสีซื้อสิทธิจากชาวนา ตันละไม่กี่พันบาท เพื่อเอาข้าวของตน ไปขายให้รัฐบาลในราคาจำนำแทน

โกงกลางน้ำ คือ ขั้นตอน การสีข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร แล้วส่งไปเก็บในโกดังที่รัฐบาลเช่า โรงสีร่วมมือกับเซอร์เวยเยอร์ เจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า เอาข้าวเสื่อมคุณภาพ ข้าวเก่า ข้าวพม่า ข้าวเขมร ข้าวลาว ส่งเข้าโกด้ง เอาข้าวดีๆ ที่ซื้อด้วยเงินภาษีของประชาชน ไปขายเอง

โกงปลายน้ำคือ การระบายข้าว แบบจีทูจี และนำไปทำข้าวถุงขายให้ประชาชน เป็นการโกงที่มีมูลค่ามากที่สุด มากว่า โกงต้นน้ำและโกงกลางน้ำรวมกันหลายเท่า คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 6 แสนล้านบาท คนโกงในขั้นตอนปลายน้ำนี้คือ นักการเมือง พรรคเพื่อนไทย และ ข้าราชการระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์

มติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ที่ชี้มูลความผิดของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่ากากระทรวงพาณิชย์ กับพวก รวม 20 คน ว่า กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ กรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าว ก็หมายถึง การโกงปลายน้ำนี้แหละ คือ โกหกว่า มีการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี แต่ความจริงไม่มี เป็นการขายข้าวให้บริษัทพรรคพวกในราคาถูก แล้วนำมาขายในประเทศ หรือ เวียนเทียนเข้าโครงการรับจำนำอีก

พูดง่ายๆ ให้ภาพชัดๆ คือ นายบุญทรงกับพวก ทำจีทูจี ปลอม นั่นเอง
ในช่วงปี 2555- กลางปี 2556 คงจะจำกันได้ว่า ทั้งนายบุญทรง และนายทิฆัมพร นาทวรทัต รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ในขณะนั้น มักจะให้ข่าวอยู่เสมอว่า ไม่มีปัญหาในการระบายข้าว เพราะมีการทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจี ให้รัฐบาลประเทศต่างๆ

เมื่อถูกซักว่า ขายให้ประเทศใดบ้าง ปริมาณและราคาเท่าไร ทั้งนายบุญทรง และนายทิฆัมพร ก็จะบ่ายเบี่ยง อ้างว่า บอกไมได้ เพราะเป็นความลับทางการค้า

บัดนี้ การสอบสวนของ ป.ป.ช. ที่นำไปสู่การลงมติชี้มูลความผิดนายบุญทรงกับพวก เป็นสิ่งที่ชี้ว่า นายบุญทรง และนายทิฆัมพร โกหก

บุคคลที่ ป.ป.ช มีมติชี้มูลความผิด 20 คน ประกอบด้วย นักการเมือง ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ และเอกชน

นักการเมือง คือ นายบุญทรง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิ สาระผล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว พันตรี วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการ และเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

ข้าราชการคือ นายมนัส สร้อยพลอย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นาย ทิฆัมพร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ สำนักการค้าข้าวต่างประเทศ และรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายอัครพงศ์ ช่วยเกลี้ยง หรือทีปวัชระ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขานุการกรม และผู้อำนวยการสำนักการค้าข้าวต่างประเทศ

ที่เหลืออีก 13 คน เป็นคนของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด, บริษัท สิราลัย จำกัด หรือบริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด หัวโจกใหญ่คือ นายอภิชาต จันทร์สกุลพร หรือ เสี่ยเปี๋ยง เจ้าของบริษัทสยามอินดีกา ที่รู้จักมักคุ้นกับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร

ทั้ง 20 คนนี้ ร่วมกันกระทำความผิด ด้วการแบ่งหน้าที่กันทำงาน โดยช่วยเหลือและเอื้อประโยชน์ให้บริษัทจีนสองบริษัท ซึ่งไม่ได้รับมอบหมายจขากรัฐบาลจีนให้ทำสัญญาซื้อขาย แต่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงพาณิชย์ ให้มาซื้อข้าวแบบรัฐต่อรัฐ โดยไม่ต้องเสนอราคาแข่งกับรายอื่น และได้ซื้อข้าวในราคาที่ต่ำกว่าราคารับจำนำ เอาขายต่อ ให้บริษัทสยามอินดิก้า นำไปขายต่ออีกทอดหนึ่ง สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติอย่างร้ายแรง

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะยานกรัฐมนตรี อาจจะปฏิเสธว่า ไม่รู้ ไม่เห็น ว่ามีการโกงในขั้นต้นน้ำ กลางน้ำได้ เพราะเป็นการโกงในระดับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แต่จะปฏิเสธความรับผิดชอบ ที่ปล่อยให้เกิดการโกงในขั้นปลายน้ำ คือ การปลอมจีทูจีนี้ ไม่ได้ เพราะคนที่ลงมือ สั่งการ ล้วนอยู่ในระดับนโยบายใกล้ตัวทั้งนั้น

จะอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็น หรือแม้แต่อ้างว่า ไม่เข้าใจว่าโกงอย่างไร ไม่ได้