xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ตรวจฯ ชง คสช.ฟัน “คุรุสภา” ฉาว จ่ายค่าโง่เอกชน-จ้างบริษัทล้มละลายก่อสร้างตึกเชียงใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอ คสช.-รมว.ศธ.สอบสำนักงาน สกสค. หลังพบการดำเนินการเข้าข่ายทุจริตกรณีสั่งจ่ายเงินค่าผิดสัญญาจัดจำหน่าย-พิมพ์สื่อการสอนปี 55 จ้างบริษัทก่อสร้างอาคารมูลค่า 360 ล้านบาทที่เชียงใหม่ และเปิดทางผู้ที่ขาดคุณสมบัติเข้าสรรหาเป็น ผอ.องค์การค้าฯ

วันนี้ (22 ม.ค.) นายรักษเกชา แฉ่ฉาย รองเลขาธิการและโฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินมีหนังสือแจ้งไปยัง พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (ฝ่ายสังคมและจิตวิทยา) และ รมว.ศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขอให้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนกรณีการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) หรือองค์การค้าคุรุสภาเดิม ใน 3 ประเด็น ประกอบด้วย 1. กรณีการสั่งจ่ายเช็คเงินสดค่าผิดสัญญาการจัดจำหน่ายและจ้างพิมพ์สื่อการเรียนการสอนของสำนักงาน สกสค.จำนวน 55 ล้านบาท ให้กับบริษัท 2020 เวิลด์มีเดีย จำกัด โดยรักษาการผู้อำนวยการ สกสค.เมื่อปี 2555 ที่พบว่าได้มีการจัดทำสัญญาประนีประนอมยอมความให้กับ บริษัท 2020 เวิลด์มีเดีย จำกัด โดยให้สำนักงาน สกสค.อยู่ในฐานะ “ลูกหนี้” ทั้งที่ยังไม่ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีดังกล่าว และยังได้ยกเลิก หรือถอนการยื่นอุทธรณ์ในคดีตามสัญญาประนีประนอมยอมความฉบับดังกล่าว ส่งผลให้สำนักงานคณะกรรมการ สกสค. และทางราชการได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง ทั้งที่ตามกฎหมาย รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค.ไม่มีอำนาจในการถอนฟ้อง, ไกล่เกลี่ยคดี หรือประนีประนอมยอมความในชั้นศาลโดยลำพัง ส่งผลให้องค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการ สกสค.อยู่ในฐานะเสียเปรียบเอกชนตามสัญญาประนีประนอมยอมความ เข้าข่ายว่ามีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในหน่วยงานของรัฐ และมีมูลความผิดทางวินัย

2. กรณีการสรรหาบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การค้าสำนักงานคณะกรรมการ สกสค.เมื่อปี 2555 ของประธานคณะกรรมการสรรหา ที่เปิดโอกาสให้ นายสมมาตร์ มีศิลป์ ผู้ที่มีคุณลักษณะต้องห้ามเข้ารับการสรรหา เข้าข่ายเป็นการกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากข้อเท็จจริงพบว่า ประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภาเคยมีคำสั่งเลิกจ้างนายสมมาตร์ จากเหตุมีพฤติการณ์ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทุจริต เบียดบัง ยักยอกทรัพย์สินของคุรุสภา และถูกฟ้องเป็นจำเลย ต่อศาลแขวงพระนครเหนือ และปัจจุบันคดียังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาจึงถือว่านายสมมาตร์เป็นผู้มีส่วนได้เสียกับองค์การค้าสำนักงานคณะกรรมการ สกสค. เข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามในการเข้ารับการสรรหาเป็นผู้อำนวยการองค์การค้าสำนักงานคณะกรรมการ สกสค.

3. กรณีการก่อสร้างอาคารศูนย์พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ มูลค่าโครงการ 360 ล้านบาท ที่พบว่าอาจมีการดำเนินการที่มิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากปัจจุบันเอกชนคู่สัญญาศาลล้มละลายกลางได้มีคำพิพากษาให้ล้มละลาย และเมื่อตรวจสอบระบบคลังข้อมูลธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ไม่ปรากฏอาชีพที่แน่นอนของบริษัทที่นำมากล่าวอ้างแต่อย่างใด รวมทั้งนิติบุคคลดังกล่าวไม่มีสำนักงานแห่งใหญ่ ณ ที่ตั้งตามที่จดทะเบียนไว้ ซึ่งหากการสอบสวนพบว่า มีผู้กระทำความผิดขอให้ดำเนินการทางวินัยและอาญาโดยเด็ดขาด และขอให้ รมว.ศึกษาธิการแจ้งผลการดำเนินการให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินทราบต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น