“สรรเสริญ” แจง “บิ๊กตู่” สั่งทำความเข้าใจจัดการน้ำ ต่างจาก รบ. ที่ผ่านมา ไม่กู้ลงทุนครั้งเดียว แต่วางแผนทั้งระบบ แก้ปัญหาด่วนก่อนปีนี้ มีแผนระยะยาว 10 ปี ชี้ เอางานตัวตั้งไม่ใช่เงิน พร้อมปรับแผนให้สอดคล้อง รับ เป็นห่วงถอดถอน “ปู” แต่ไม่ได้กังวล เหตุสั่งชี้แจงแล้ว มั่นใจไร้ป่วน ถึงมีก็เอาอยู่ รับ ยังเรียกมารายงานตัวได้ ยัน ไม่มีธง
วันนี้ (22 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องการให้ตนทำความเข้าใจเพิ่มเติมเรื่องการเดินหน้าโครงการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลว่าไม่เหมือนกับรัฐบาลที่ผ่านมา คือ ไม่มีการกู้เงินมาลงทุนในครั้งเดียว แต่เป็นการวางแผนทั้งระบบตั้งแต่แรกจนขั้นสุดท้าย แต่จะหยิบปัญหาเร่งด่วนมาดำเนินการก่อน อาทิ การแก้ปัญหาเรื่องการฟื้นฟูป่าต้นน้ำ แก้ปัญาหาพื้นที่แล้งซ้ำซาก ปัญหาเรื่องน้ำท่วม หรือจัดหาแหล่งน้ำเพิ่มเติมให้เกษตรกร เหล่านี้คือเรื่องเร่งด่วน ที่จะดำเนินการในปีนี้ ส่วนทีเหลือที่เป็นระยะยาวทั้งระบบ จะวางแผนไว้ 10 ปี กล่าวคือคิดงานทั้งระบบเอางานเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่เอาเงินเป็นตัวตั้ง
“คิดงานเสร็จ ก็ไปดูว่างานไหนเคลียร์เรียบร้อยแล้ว เตรียมการเรียบร้อยแล้ว ศึกษา ดูผลกระทบเรียบร้อยแล้ว ฟังความคิดเห็นประชาชนในแต่ละส่วนแล้ว ก็ให้ดำเนินการ ถามเรื่องงบประมาณในภาพรวมตอนนี้คงยังไม่มีตัวเลข” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว และว่า ซึ่งแผนเหล่านี้จะไม่ตายตัว เมื่อสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนไปก็พร้อมที่จะปรับแผนต่างๆ ให้สอดคล้อง และพร้อมจะรับฟังข้อมูลจากเสียงต่างๆ ให้ชัดเจนมากขึ้น ขอให้สบายใจว่าแผนที่ว่าไม่รีบเร่งดำเนินการ ทำเฉพาะส่วนที่จำเป็น ส่วนที่เหลือก็ให้รัฐบาลอื่นทำในวงรอบ 10 ปี
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อถึงกรณีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะลงมติถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ วันที่ 23 ม.ค. ว่า นายกฯเป็นห่วงแต่ไม่ถึงกังวล เพราะได้ให้ คสช. และรัฐบาลไปให้ข้อมูลข่าวสารทำความเข้าใจประชาชนแล้ว สิ่งที่รัฐบาลทำดีที่สุด คือ การเปิดให้ทั้ง 2 ฝ่ายที่ได้ชี้แจง เพื่อหยุดความเสียหาย ยุติความขัดแย้ง ให้โอกาสคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้แจงที่ว่ามีปัญหาคุณธรรม จริยธรรมในโครงการรับจำนำข้าว และให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีโอกาสชี้แจงสังคมถึงความตั้งใจทำเพื่อเกษตรกร ทำอย่างเปิดเผย และไม่ว่าการตัดสินจะเป็นอย่างไร มั่นใจจะไม่มีมวลชนออกมาเคลื่อนไหว และหากเกิดความวุ่นวายจริง เชื่อความมั่นคงควบคุมสถานการณ์ได้ เพราะคนในสังคมส่วนใหญ่เข้าใจ มีเพียงการเคลื่อนไหวของนักการเมืองบางกลุ่มเท่านั้น ที่ใช้สื่อเป็นกระบอกเสียง บอกให้มวลชนบางสีเสื้อใจเย็น อยากให้ระวัง การพูดอย่างนี้อยากให้บ้านเมืองกลับไปขัดแย้งอีกหรือ เมื่อถามว่า หากมีการยุยงปลุกปั่น คสช. ยังมีอำนาจเรียกมารายงานตัวได้หรือไม่ พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า มีอำนาจเรียกมารายงานตัวได้ แต่ไม่อยากทำให้สังคมตื่นตระหนก ยืนยันรัฐบาลไม่มีธง ไม่มีการไล่ล่าใคร