โฆษกกลาโหมเผยอุปทูตมะกันเยี่ยมคำนับ “ประวิตร” รับเข้าใจสถานการณ์ไทย หนุนโรดแมป พร้อมร่วมฝึกคอบร้าโกลด์ต่อ ก่อนถกในเรื่องความมั่นคงภูมิภาค ด้านโฆษก กอ.รมน.แจงผลประชุมต่างด้าวขอจดทะเบียนกว่า 1.6 ล้านคน แก้เรื่องศูนย์ดำรงธรรมแล้ว 1.5 หมื่นเรื่อง ตั้งทีมเกาะติดรุกป่า ชี้โจรใต้ใช้โซเชียล ปลุกกระแส ร่างงบ 59 บูรณาการปัญหาแล้ว รับพร้อมเร่งดำเนินตามเจตนารมณ์ นายกฯ
วันนี้ (22 ม.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม พ.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ เมื่อเวลา 10.30 น. นายแพทริก เมอร์ฟี (Patrick Murphy) อุปทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคำนับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ณ ศาลาว่าการกลาโหม เพื่อแนะนำตัวในโอกาสดำรงตำแหน่งแทนอุปทูตแทนเอกอัคราชทูตสหรัฐฯ ประจำไทย ซึ่งพ้นหน้าที่ไปแล้วเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 57 โดยนายแพทริกกล่าวว่า สหรัฐฯ มีความเข้าใจในสถานการณ์ของไทยในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านที่สำคัญนี้ เป็นโอกาสและความท้าทายที่สำคัญยิ่งที่ประชาชนคนไทยจะได้ร่วมกันปฏิรูปประเทศเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายอนาคตร่วมกัน
“สหรัฐฯ พร้อมให้การสนับสนุนเพื่อให้รัฐบาลสามารถดำเนินการตามโรดแมปที่กำหนดในการเป็นประเทศประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบต่อไป ขณะเดียวกันก็ยืนยันที่จะคงความร่วมมือและสนับสนุนการฝึกร่วมทางทหารของภูมิภาค ภายใต้รหัส COBRA GOLD 2015 (คอบร้าโกลด์) ที่จะมีขึ้นในประเทศไทยในเดือน ก.พ. 58 เพื่อประโยชน์ร่วมกันของภูมิภาค ซึ่งจะมีประเทศต่างๆ เข้าร่วมการฝึก 29 ประเทศ พร้อมกันนี้ได้หารือความร่วมมือด้านมั่นคงของภูมิภาคร่วมกันในเรื่องต่างๆ อันประกอบด้วย การค้ามนุษย์ การค้ายาเสพติด การค้าสัตว์ป่า และการต่อต้านการก่อการร้าย ซึ่งสหรัฐฯ พร้อมให้การสนับสนุนไทยในการแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาความร่วมมือและเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป” พ.อ.คงชีพกล่าว
ด้าน พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เปิดเผยผลการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน( นขต.กอ.รมน.) ที่มี พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสนาธิการการทหารบก (เสธ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการ รมน.เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้สรุปผลการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชาสิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 57 มีแรงงานต่างด้าวมาขอจดทะเบียนประมาณ 1,600,000 คน พิสูจน์สัญชาติแล้ว 57,000 คน สำหรับผลการบูรณาการร่วมกันระหว่างศูนย์ดำรงธรรมกับศูนย์ปรองดองจังหวัด มีการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดต่างๆ 42,652 เรื่อง แก้ไขแล้วเสร็จ 15,813 เรื่อง เรื่องร้องเรียนที่สำคัญได้แก่ หนี้นอกระบบ ที่ดินทำกิน และการใช้อำนาจรัฐ
พ.อ.บรรพตกล่าวว่า ในส่วนศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป 4 (ศปป.4) กอ.รมน.ได้จัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินงานตามแผนแม่บทแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้ การบุกรุกที่ดินของรัฐและการบริหารทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมการจัดหน่วยเฉพาะกิจสนับสนุนหน่วยพยัคฆ์ไพร และหน่วยฉลามขาวตามแผนปฏิบัติการของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) การก่อเหตุรุนแรงมีแนวโน้มลดลง แต่งานการเมืองน่าจะมีความเข้มข้นขึ้น โดยกลุ่มผู้ก่อการร้าย ได้มีการปรับเปลี่ยนใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นช่องทางในการเผยแพร่ข่าวสาร และปลุกกระแสสร้างความขัดแย้งให้เกิดในพื้นที่ รวมทั้งโจมตีการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อลดทอนความเชื่อมั่นของรัฐบาล ในห้วงเวลา ศปป.5 กอ.รมน.ได้จัดทำร่างความต้องการงบประมาณประจำปี 2559 ในลักษณะบูรณาการเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยกำหนดแผนงานหลักและโครงการที่สำคัญจะต้องนำไปสู่การขจัดเงื่อนไขของปัญหาความไม่สงบ และมุ่งตอบสนองความต้องการ/ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่องและทั่วถึง
พ.อ.บรรพตกล่าวอีกว่า ในตอนท้ายเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ได้สรุปและสั่งการเพิ่มเติมว่านายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้เน้นย้ำถึงความปรารถนาดีในการนำพาประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤต พร้อมกับวางรากฐานที่สำคัญให้กับบ้านเมือง กอ.รมน.เป็นหน่วยงานที่มีกลไกทุกจังหวัด จะต้องเร่งรัดดำเนินการรองรับตามเจตนารมณ์ของนายกรัฐมนตรี การฝึกอบรมตามโครงการต่างๆ ของ กอ.รมน.นั้น ให้นำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพการข่าวภาคประชาชนด้วย แผนงานด้านยาเสพติดที่ดำเนินการร่วมกับ ป.ป.ส. นอกจากการสกัดกั้นและปราบปรามแล้ว ควรเพิ่มการรณรงค์ลดความต้องการและการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ภายในประเทศ
ด้านผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ให้พยายามพิสูจน์ทราบจับกุมเครือข่ายผู้ลักลอบนำพาด้วย การจัดระเบียบสังคมในพื้นที่ภาคกลาง ควรมอบให้หน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรงเข้ามารับผิดชอบตามมาตรการจัดระเบียบที่เห็นชอบร่วมกันแล้ว การปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ให้ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก ควบคู่กับมาตรการเชิงรุกในการป้องกันการลักลอบตัดไม้ รวมถึงการป้องกันไฟป่าห้วงฤดูแล้งนี้ การบูรณาการของ ศปป.กับศูนย์ดำรงธรรม พยายามแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้สามารถยุติได้ในระดับพื้นที่ มุ่งเน้นการเสริมสร้างความเข้าใจด้วยการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงขึ้นมาใหม่ในสังคม