เสธ.ทบ.เผยหลังงานสถาปนา กอ.รมน. ยึดวันใช้ พ.ร.บ.ปี 51 เป็นวันจัดงาน พร้อมปรับรับภัยใหม่ ตามสถานการณ์ไอเอส ยกหน้าที่ทำพื้นที่มั่นคง ชี้งานปรองดองอยู่ช่วงประเมิน รบ.ใหม่ต้องสานต่อ เผยรากหญ้าพร้อมหนุน ติดอยู่ที่แกนนำต้องทำความเข้าใจ เชื่อไม่เกลียดทหาร ย้อน นศ.เลือกตั้งตอนนี้มีแต่ปัญหา ต้องใช้เวลา ขออย่าตระหนกต่างชาติบี้คืน ปชต. เหตุแค่ทำตามหน้าที่ สัมพันธ์สหรัฐฯ ยังดี
วันนี้ (19 ก.พ.) ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสนาธิการทหารบก (เสธ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการ รมน. กล่าวภายหลังงานวันสถาปนา กอ.รมน.ที่มี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะรอง ผอ.รมน.เป็นประธานว่า งานส่วนใหญ่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่เกี่ยวข้องการป้องกันและปราบปรามการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ เพราะมีภัยคุกคามรูปแบบใหม่เกิดขึ้น การใช้กำลังกองทัพบกออกไปก็ต้องมีกฎหมายรองรับ เมื่อสถานการณ์เบามาจากในอดีตจึงประกาศ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงในราชอาณาจักขึ้นมา จึงได้นับวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธยเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2551 เป็นวันสถาปนา
“กอ.รมน.ยุคนี้จะเรียกว่าเป็นเจนเนอเรชันที่ 2 ก็คงไม่ใช่ เพราะมีการพัฒนาไปมากในเรื่องของการทำงาน แต่เป็นการแบ่งเบาภาระของกองทัพในเรื่องภัยคุกคามต่างๆ ผ่าน 6 ศูนย์ประสานการปฏิบัติ เช่น การปราบปรามยาเสพติด ทรัพยากรธรรมชาติ เป็นรัฐบาล โดยทางรัฐบาลมองว่าหากพื้นที่ใดไม่มั่นคงการพัฒนาคงไปยาก จึงต้องทำพื้นที่ในมั่นคงก่อน กอ.รมน.ได้รับภารกิจในช่วงนี้ในการบูรณาการงบประมาณการ โดยขอให้ทุกกระทรวงได้ใช้งบประมาณอย่างเร่งด่วน เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐบาลก็ขอให้เข้าไปช่วยในการดูแลงบฯ ตำบลในการดูแลชาวบ้าน 3 พันล้านบาท การไปช่วยชาวนาชาวไร่ที่ทำนาไม่ได้ ก็ให้ไปช่วยในเรื่องงาน แม้จะไม่คุ้นเคย แต่ทาง กอ.รมน.มอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัด โดยมีรองผอ.รมน.จังหวัดฝ่ายทหาร ไปดำเนินการบูรณาการงบประมาณของหน่วยงานต่างๆ ไม่ให้ซ้ำซ้อนกัน เหมาะสมกับห้วงเวลา และตรงกับความต้องการของประชาชน” พล.อ.ฉัตรเฉลิมกล่าว
เมื่อถามว่า ได้มีการตั้งชุดเพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของกลุ่มไอเอสหรือไม่ พล.อ.ฉัตรเฉลิมกล่าวว่า ทาง กอ.รมน.ได้ติดตามงานด้านการข่าวร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อติดตามสถานการณ์
พล.อ.ฉัตรเฉลิมกล่าวต่อถึงความคืบหน้าในการสร้างความปรองดองให้กับคนในชาติว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการไปในหลายพื้นที่แล้ว ต่อไปจะเป็นขั้นตอนของการประเมินผล เราอยากให้ประชาชนปรองดองกันจริงๆ และเป็นเนื้อเดียวกัน เพราะหากประชาชนยังแบ่งพวกแบ่งฝ่าย การพัฒนาประเทศก็คงไปได้ยาก โดยเฉพาะเรื่องการเมือง เมื่อมีรัฐบาลไหนออกมาก็มีคนออกมาคัดค้านก็ต้องพยายามอย่าให้เกิดภาพนั้น ดังนั้นต้องมาร่วมมือกันทุกภาคส่วน และรัฐบาลและ คสช.มีเวลาจำกัด จะให้ทุกเรื่องสำเร็จในรัฐบาลชุดนี้คงเป็นไปไม่ได้ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำตลอด หากงานใดไม่เสร็จในรัฐบาลชุดนี้ รอให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งดำเนินการต่อ โดยเฉพาะเรื่องการสร้างความปรองดอง เพราะขณะนี้ยังมีคนที่มีความเห็นต่าง
“สิ่งที่เราพบข้อมูลในต่างจังหวัด ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ในปี 53 หลังจากประชาชนกลับบ้านไปแล้ว ผมก็ลองให้ทหารลงไปพูดคุย เขาก็พูดคุยด้วย ไม่ได้เกลียดทหาร เรามีข้อมูลอะไรก็ซักถาม มีอะไรก็ช่วยเหลือ ไม่ได้ทะเลาะ หรือขัดแย้งกันทั้งหมด อาจจะมีบางระดับที่มีความรุนแรง เนื่องจากผลประโยชน์ขัดกัน ก็ต้องไปพูดคุยกัน ชาวบ้านรากหญ้าถือว่าโอเค เขาก็อยากปรองดอง สำหรับแกนนำกลุ่มเคลื่อนไหวที่อยู่ในพื้นที่ เราก็เชิญมาคุยตั้งแต่แรก ไม่ใช่มาคุมขัง แต่เป็นการมาทำความเข้าใจว่าเรากำลังทำอะไร ไม่ได้เป็นการไล่ล่า” พล.อ.ฉัตรเฉลิมกล่าว
พล.อ.ฉัตรเฉลิมกล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่นักศึกษาเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งนั้น ถามว่าในสถานการณ์เช่นนี้จะเลือกตั้งได้อย่างไร กฎหมายรัฐธรรมนูญก็ยังร่างไม่เสร็จ ตลอดจนปัญหาต่างๆ ไม่ได้รับการแก้ไข หากฝืนเลือกตั้ง ปัญหาจะกลับมาเหมือนเดิม ยืนยันทุกอย่างต้องใช้เวลา เช่นเดียวกับการเรียกร้องให้ยกเลิกประกาศกฎอัยการศึก ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้บังคับใช้กฎหมายตัวนี้มากนัก เพราะแม้แต่การเข้าควบคุมนักศึกษาที่ออกมาเรียกร้องและขัดต้องคำสั่ง คสช. ยังให้ตำรวจดำเนินการ ส่วนคนที่ต้องการแสดงความคิดเห็น รัฐบาลได้เปิดช่องทางไว้ให้แล้ว ขอร้องอย่างออกมาสร้างความวุ่นวาย
พล.อ.ฉัตรเฉลิมกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่องค์กรต่างชาติหลายองค์กรออกมาแสดงท่าที่กดดันให้รัฐบาลและ คสช.คืนประชาธิปไตยให้กับประชาชนนั้น ถือเป็นการทำหน้าที่ของแต่ละองค์กรเท่านั้น เราอย่าไปตื่นตกใจ เพราะจากการที่ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ก็ได้รับการยืนยันว่าทั้งสองชาติมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกว่า 180 ปี เช่นกรณีการฝึกร่วมผสมไทย-สหรัฐฯ หรือคอบร้าโกลด์ 2015 ยังมีการฝึกในรูปแบบเดิมทุกอย่าง แม้กระทั่งการใช้อาวุธ ยังคงเหมือนเดิม ที่ผ่านมาสหรัฐฯ ได้สอบถามว่าการฝึกจะดำเนินการต่อหรือไม่อย่างไร ไทยได้แจ้งว่าจะฝึกหรือไม่ แล้วแต่ทางสหรัฐฯ แต่เรายืนยันถึงความสัมพันธ์ที่ดียังมีเหมือนเดิม