“วิษณุ” เผยประชุมร่วม ครม.-คสช. หารือความคืบหน้าการทำงาน พร้อมเร่งรัดออก กม.สำคัญ ยันรัฐบาลไม่ยุ่งคดีถอดถอน “ยิ่งลักษณ์” ส่วนการเปิดสัมปทานปิโตรเลียม รอบ 21 เป็นอำนาจของรัฐบาล จะเลือกหรือไม่เลือกแนวทางที่ สปช.เสนอก็ได้
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมร่วมกันระหว่างคณะรัฐมนตรี และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ในวันที่ 20 ม.ค. นี้ว่า ทั้ง คสช. และรัฐบาล ก็จะรายงานให้ที่ประชุมทราบถึงผลการทำงานว่าแต่ละส่วนได้ทำอะไรไปบ้าง รวมทั้งจะมีการรายงานความคืบหน้าในการทำงานของคณะกรรมาการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน การออกกฎหมาย และการแก้ไขปัญหาต่างๆ ซึ่งเบื้องต้น แนวทางการดำเนินการทั้งหมดยังถือว่าเป็นไปตามแผนโรดแมป ที่คสช.ตั้งไว้ แต่อาจมีบางเรื่องที่ต้องเร่งรัดให้เกิดความรวดเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะกรณีการออกกฎหมายสำคัญๆ ที่รัฐบาลอยากให้เร่งรัดให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือนแรก จึงได้ขอความร่วมมือไปทาง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เร่งรัดการพิจารณากฎหมายสำคัญ เช่น กฎหมายชุมนุมสาธารณะ และกฎหมายว่าด้วยการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ 5-6 ฉบับ
นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือไปยังสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เพื่อขอให้เร่งดำเนินการปฏิรูปประเทศทั้ง 11 ด้าน ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมมากที่สุด
นายวิษณุ ยังกล่าวกรณีที่รัฐบาลมีความเห็นแตกต่างกับ สปช.ในเรื่องการเปิดสัมปทานปิโตรเลียม รอบที่ 21ว่า กรณีดังกล่าว สปช.ไม่ได้คิดเอง แต่รัฐบาลเป็นคนให้คำถามไป เมื่อมีมติแล้วก็ส่งความเห็นให้แก่รัฐบาล ซึ่งอาจจะเลือกหรือไม่เลือกแนวทางที่ สปช.เสนอมาก็ได้ เนื่องจากเป็นอำนาจของรัฐบาล และการไม่เลือกตามแนวทางที่ สปช.เสนอก็ไม่ถือว่าเป็นความขัดแย้งอะไร อย่างไรก็ตาม การขอความร่วมมือต่อ สนช.และ สปช.ในการเร่งรัดทำงานให้เกิดเป็นรูปธรรมนั้น ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการไปแทรกแซงการทำงาน อย่างในกรณีถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีจำนำข้าว รัฐบาลก็ไม่เคยไปคุย หรือส่งสัญญาณอะไรถึง สนช. เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็เคยพูดไว้แล้วว่า ก็ให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า การเดินทางไปพบ สปช.ของตนเมื่อสัปดาห์ก่อนเป็นการส่งสัญญาณถึง สนช.ในเรื่องการของการถอดถอนนั้น ยืนยันว่า ไม่มี ตนไม่เคยแม้จะคิดที่จะพูด และมันไม่ได้อยู่ในความสนใจของตน ซึ่งการไปที่รัฐสภาก็ไปพบแต่กับ สปช. เท่านั้น ไม่เคยได้หารือหรือพูดคุยอะไรกับ สนช. เลย