เลขาฯ วิป สปช.เผยผลประชุมร่วมรัฐบาล “วิษณุ” ชมหน้าที่ดีกว่าที่คิด ยัน “ประยุทธ์” หนุน ตั้ง “สุวพันธุ์” ประสานวิป สปช. พร้อมฝากโจทย์ปฏิรูปให้เดินหน้าหลังรัฐธรรมนูญเกิด ผุดไอเดีย 1 ปฏิรูป 1 กมธ. เสนอใช้ สศช.ประชุม กมธ. ส่วนเรื่องสัมปทานปิโตรเลียม โยนนายกฯ ตัดสิน เตือนคนไม่เกี่ยวอย่าพูดจนกว่าจะมีมติ ครม.
วันนี้ (16 ม.ค.) ที่รัฐสภา นายอลงกรณ์ พลบุตร สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการ สปช. (วิป สปช.) แถลงผลการประชุมระหว่างตัวแทนรัฐบาล นำโดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และนายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กับนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ พร้อมด้วยประธาน กมธ.สปช.ทั้ง 18 คณะ วานนี้ (15 ม.ค.) ว่า บรรยากาศเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ โดยรองนายกฯ ได้กล่าวชื่นชมการทำหน้าที่ของสปช.ว่าดีมากกว่าที่คิด ซึ่งนายกฯยืนยันจะสนับสนุนการทำงานของสปช.อย่างเต็มที่ ตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ ชั่วคราว 2557 เพื่อดำเนินการตามข้อเสนอปฏิรูปให้เกิดความสำเร็จ และนายกฯยังเห็นควรให้มีการประสานงานระหว่างวิปรัฐบาลกับวิป สปช. โดยเบื้องต้นนายสุวพันธ์ ตัณยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นตัวแทนวิปรัฐบาลทำหน้าที่ประสานงานกับวิป สปช. ซึ่งจะประสานงานทั้งเป็นทางการ และไม่เป็นทางการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และนำข้อเสนอของ สปช.เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นอกจากนี้ยังฝากโจทย์ให้ สปช.ไปคิดว่าการปฏิรูปจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ภายหลังจากมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และมีการเลือกตั้ง เพื่อให้การเดินหน้าปฏิรปไปสู่เป้าหมาย
นายอลงกรณ์กล่าวว่า นายกฯ ยังเห็นควรให้นำข้อเสนอปฏิรูปที่ทำได้ทันทีเดินหน้าปฏิบัติให้เกิดรูปธรรม ให้เห็นผลภายในระยะแรกของโรดแมป ภายใต้วิสัยทัศน์มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน รวมถึงทำงานให้ออกมาเป็นรูปธรรมภายใต้แนวคิด “1 ปฏิรูป 1 คณะกรรมาธิการ” ที่จะมีผลงานออกมาทุกสัปดาห์ รวมทั้งนายกฯ ยังเห็นควรให้นำข้อเสนอที่จะได้จากการประชุมเชิงปฏิบัติการวิสัยทัศน์ประเศไทย ที่จัดโดย สปช. ระหว่างวันที่ 19-20 ม.ค.นี้ เข้าสู่ที่ประชุมร่วม ครม.และคสช.ในโอกาสต่อไปด้วย พร้อมกันนี้ ที่ประชุมยังเห็นว่าสถานที่ทำงานของ สปช.ในปัจจุบันอาจไม่เพียงพอ จึงมีข้อเสนอร่วมกันให้ใช้สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ เป็นสถานที่ประชุมของคณะกรรมาธิการ รวมถึงรองรับการทำงานของเจ้าหน้าที่ 200 คน ซึ่ง สปช.จะได้ไปสำรวจสถานที่อีกครั้ง
นายอลงกรณ์กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้พูดถึงมติของ สปช.ที่ไม่เห็นด้วยต่อการเปิดสัมปทานปิโตรเลียม รอบที่ 21 ว่าที่ประชุมได้ทำความเข้าใจในเรื่องดังกล่าว ซึ่งเป็นคำขอของนายกฯ ที่ต้องการความเห็นจาก สปช. แต่หลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับนายกฯ จะตัดสินใจ และได้ทำความเข้าใจเรื่องการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ และผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องว่าไม่ควรจะออกมาแสดงความคิดเห็น วิพากษ์วิจารณ์ใดๆจนกว่านายกฯ และ ครม.จะพิจารณาเรื่องนี้แล้วเสร็จ รวมถึงทุกเรื่องที่ยังไม่ส่งไปถึงนายกฯ และครม.