“บิ๊กติ๊ก” พอใจหลังถกติดตามงานแก้ปัญหาภาคใต้ แนะดูแลสุขภาพจิตกำลังพล

“พล.อ.ปรีชา” นั่งหัวโต๊ะประชุม ศปก.ทบ.ติดตามงาน จชต. พอใจแก้ปัญหา กำชับผู้บังคับบัญชาดูแลสุขภาพจิตกำลังพลให้ทั่วถึง เผยซ่อมถนนคืบร้อยละ 11.20 เร่งเดินหน้าให้เสร็จตามกำหนด พร้อมสั่งทำความเข้าใจต่อญาติผู้เสียชีวิต บ.น้ำใส ปัตตานี ต่อเนื่อง

พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวภายหลังการประชุมติดตามสถานการณ์ของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) โดยมี พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ผู้ช่วย ผบ.ทบ. เป็นประธานการประชุมว่า ในช่วงแรกของการประชุม พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะ ผอ.รมน.ภาค 4 ได้บรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ผ่านระบบวิดีโอ หรือวีทีซีว่า ทางกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังดำรงความพยายามก่อเหตุร่วมกับการจัดกิจกรรมเพื่อขับเคลื่อนงานการเมือง และใช้สื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ข่าวสารที่บิดเบือนข้อเท็จจริง

ทั้งนี้ ที่ผ่านมากลุ่มงานรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินได้ติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่มีหมายจับในพื้นที่ บ.น้ำใส ต.ลุโบะยิไร อ.มายอ จ.ปัตตานี อีกทั้งได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าพบปะครอบครัวของผู้เสียชีวิต ผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม พล.อ.ปรีชาได้สั่งการให้หน่วยดำรงความพยายามชี้แจงทำความเข้าใจต่อญาติผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง

พ.อ.บรรพตกล่าวต่อว่า ส่วนกลุ่มงานการพัฒนาศักยภาพตามความพร้อมของพื้นที่และคุณภาพชีวิตประชาชน ได้ส่งมอบที่พักอาศัยให้กับราษฎรที่ยากไร้ในพื้นที่อ.ยะหา และ อ.กาบัง จ.ยะลา รวม 40 ครอบครัว โดยใช้งบประมาณจากโครงการเทิดพระเกียรติแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โครงการ 1 หมวด 1 โครงการ และเงินบริจาคของประชาชนและส่วนราชการในพื้นที่ ด้านกลุ่มงานแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งด้วยสันติวิธีได้จัดกิจกรรมเสวนาผู้นำศาสนาทั้งไทยพุทธและมุสลิม ซึ่งผลการเสวนาฝ่ายคณะสงฆ์ขอให้พี่น้องประชาชนได้รู้จักการให้ความไว้วางใจ การให้ความเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน ฝ่ายคณะโต๊ะอิหม่ามขอให้พี่น้องประชาชนได้มีความละอายต่อบาป และยึดถือคำสั่งสอนของศาสนา โดยอย่าได้หลงเชื่อในคำสอนที่ถูกบิดเบือน

สำหรับความคืบหน้าการดำเนินการซ่อมปรับปรุงถนนที่ชำรุดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 37 เส้นทาง ขณะนี้ได้ดำเนินการแล้ว 13 เส้นทาง โดยผลการปฏิบัติงานรวมทั้งโครงการคิดเป็นร้อยละ 11.20 และเมื่อวันที่ 12 ม.ค. 58 ได้ส่งมอบเส้นทางสายบ้านปรัง-ท่ายามู-ท่ากำชำ บ.ท่ากำชำ ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ขนาดความกว้าง 8 เมตร ยาว 4,000 เมตร ซึ่งเป็นเส้นทางแรกที่สร้างแล้วเสร็จให้กับประชาชนในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ปรีชาเห็นว่าโครงการซ่อมปรับปรุงถนนที่ชำรุดล่าช้าไปบ้างจากเหตุอุทกภัย จึงขอให้เร่งดำเนินการตามเวลาที่กำหนดในแผนงาน และเน้นย้ำข้อห่วงใยจากผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นให้ช่วยกันดูแลสุขภาพจิตของกำลังพลผู้ปฏิบัติงานอย่างทั่วถึง พร้อมทั้งฝากขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมกันจัดกิจกรรมในวันเด็กแห่งชาติให้แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย