xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” แจง คณะขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ มีเพื่อสอบระดับล่าง ขออย่ากังวลตั้ง ผบ.ทบ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” แจงตั้งคณะขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ คสช.เพื่อตรวจการทำงานระดับล่าง เผยกำลังสอบทุจริตตั้ง ตร. ปัดสั่งตั้งใคร ขออย่ากังวลใครนั่ง ผบ.ทบ. ยันไม่ดูนามสกุล จี้ทุกกระทรวงทำความเข้าใจเพิ่ม บ่นบางคนพูดไม่ฟัง แนะ ปชช.มอง รบ.ทำดี ฝาก รบ.หน้าสานต่อ สั่งหาข้อยุติคนกับช้าง พร้อมดูแลสองฝ่าย โต้ยุบ ธ.อิสลาม บี้แก้ปัญหาให้ ปชช.ได้ประโยชน์ ฉะหนี้เสียมาจากรัฐเก่า ยันดัน พ.ร.บ.ฮาลาล ชี้คู่แข่งเยอะ


วันนี้ (13 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีคำสั่ง คสช.ที่ 2/2558 เรื่องแต่ตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาตร์ของ คสช.ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้า คสช.เป็นประธานกรรมการว่า ขณะนี้การทำงานมีสองส่วนคือรัฐบาลที่จัดตั้งคณะทำงานตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี โดยขับเคลื่อนงานที่เป็นฟังก์ชันพันธกิจแต่ละกระทรวงให้ลื่นไหล และรัฐบาลทำหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบายของนายกฯ เช่น เรื่องความเหลื่อมล้ำ การทุจริต รักษาธรรมชาติสิ่งแวดล้อม จัดระเบียบบังคับใช้กฎหมาย เรื่องที่เกี่ยวข้องกับ สนช.-สปช. ส่วนที่ 2 คืองานของ คสช.ที่ต้องนำทหารมาช่วยกลไกราชการ คสช.จึงตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์นโยบายของ ครม.อีกทางหนึ่ง โดยให้ พล.อ.ประวิตรเป็นหัวหน้า เพราะเป็นรองนายกฯ และคุ้นเคยกับทหารทุกเหล่าทัพ ส่วนตนและ ครม.จะเดินงานนโยบายในกรอบ คณะกรรมการดังกล่าวจะไปตรวจสอบจากข้างล่างว่ามีการทุจริตหรือไม่ ข้าราชการเกียร์ว่าง งบประมาณติดขัด ซึ่งต้องขับเคลื่อนไปด้วยกันทั้งหมดเพราะที่ผ่านมาขาดการบูรณาการ แต่ละกระทรวงมาจากคนละพรรคการเมือง วันนี้ไม่มีพรรคการเมืองทุกกระทรวงต้องทำตามนโยบายกลางนี้ให้ได้

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ตนได้พูดในที่ประชุม ครม.ว่าขอให้ทุกกระทรวงทำความเข้าใจเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมเนื่องจากที่ผ่านมาตนมีโอกาสพบกับสื่อมวลชนทำให้ทุกคนได้ฟังแต่ตนคนเดียวบางทีกระทรวงพูดก็บอกว่าไม่มีใครฟังก็น่าเห็นใจ จากนี้ตนจะให้ทุกกระทรวงพูดว่ามีรายละเอียดการทำงานอย่างไรเพื่อสร้างการรับรู้ เช่น ศูนย์ดำรงธรรม ศูนย์เกษตรพอเพียง ตลาดชุมชน การขุดลอกบ่อน้ำมีความก้าวหน้าอย่างไร เพื่อให้ทุกคนรับทราบว่าเราเข้ามาทำตรงนี้ บางทีคนพูดคนไม่ฟัง บางทีขาดการสร้างการรับรู้ รายการคืนความสุขให้ทั้งชาติ รายการเดินหน้าประเทศไทยก็ไม่ฟัง สรุปมาเป็นรูปเล่มก็ไม่อ่าน ถ้ามีการรับฟังและอ่านจะทำให้ตอบโต้กันสนุก

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า อย่างเรื่องการทำความเข้าใจเกี่ยวกับการแต่งตั้งตำรวจที่วิพากษ์วิจารณ์กัน พล.อ.ประวิตร ได้ชี้แจงในที่ประชุม ครม.ว่ากำลังดูอยู่ว่ามีการไปเรียกเงินที่ไหนอย่างไร ให้ตำรวจไปรวบรวมบัญชีหลักฐานมา ใครมีความเห็นอย่างไรก็ว่ามา ดังนั้นการแต่งตั้งทั้งหมดอยากให้เป็นเรื่องของแต่ละหน่วยงานทำขึ้นมา แน่นอนมีทั้งคนได้และไม่ได้ คนที่ไม่ได้จะไปพูดอะไรเสียหายหรือไม่ โยนกันไปกันมา และไปบอกเป็นคำสั่งนายกฯบ้าง รองนายกฯ บ้าง ซึ่งตนไม่ได้ไปสั่งใครสักคน ให้ไปตั้งกันขึ้นมาเองดีกว่า เพราะถ้ารัฐบาลตั้งเองจะเป็นปัญหาเสียมากกว่าได้ และถ้าทำให้ทุกคนทำงานร่วมกันได้จะเป็นผลดีมากกว่า

“ส่วนข้อกังวลว่าใครจะเป็น ผบ.ทบ. ผมไม่คิดตรงนั้น เป็นเรื่องของบุญทำกรรมแต่ง ถ้าทำงานดีโชคชะตาฟ้าลิขิตมันให้เป็นมันก็เป็น ไม่ได้เป็นก็ไม่ได้เป็น จะจันทร์โอชาโอแฉะอะไรก็ไม่รู้ อย่าไปกังวล เป็นได้ก็เป็น เป็นไม่ได้ก็ไม่เป็น อาวุโสเขาว่าอย่างไรใครตั้ง ผบ.ทบ.ใครตั้งก็ตั้งมา คณะกรรมการจะตั้งก็ตั้งมา ไม่จำเป็นต้องดูนามสกุล ใครเป็นก็ได้ กองทัพเป็นระบบอยู่แล้ว”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ในที่ประชุม ครม.นั้นตนได้กล่าวถึงข้อห่วงใยเกี่ยวกับความไว้วางใจว่า สื่อได้มีการพูดวิจารณ์ถึงการโยกย้ายเป็นอย่างไร หาว่ามีการเรียกเงินตรงนี้ตรงนั้น ได้มีการชี้แจงใน ครม.แล้ว ต่อไปการแต่งตั้งไม่ว่าใครก็จะโดนหมด ตนถามว่าจะทำอะไรได้ เมื่อแต่งตั้งไปทำงานไม่ได้เดี๋ยวก็ว่ากันมา ใครผิดใครถูกก็ว่ามา ซึ่งความไว้วางใจและรู้บทบาทหน้าที่ของรัฐบาลแต่ละคนเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องไม่ทำเพื่อตัวเอง เราทำเพื่อส่งต่อ ถามใครจะอยู่ต่อไม่มีใครอยู่ต่ออยู่แล้วเพราะรัฐบาลประชาชนเป็นคนเลือก และถ้าเห็นว่างานที่รัฐบาลนี้ทำแล้วดี ต้องไปบังคับให้เขาไปทำต่อด้วย

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อถึงการสั่งการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมดูแลเรื่องช้างป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ว่าสั่งมาตลอด ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ชี้แจงว่าช้างมีจำนวนมากขึ้น ตนได้แนะนำให้ไปดูจุดที่ช้างเดินข้ามถนนว่าเป็นจุดไหนบ้างแล้วให้คนไปเฝ้าได้หรือไม่ ทั้งนี้ก่อนที่ประชาชนจะขับรถขึ้นไปทางอุทยานฯ ได้มีการแจกเอกสารที่เป็นข้อปฏิบัติและคำแนะนำระหว่างการเดินทางว่าจะต้องทำอย่างไรเมื่อเจอช้าง แต่ก็ไม่อ่านกัน หรืออ่านแล้วแต่ไม่ปฏิบัติตาม เขาห้ามบีบแตรก็กลับไปบีบแตรเรียกช้าง แล้วจะให้ทำอย่างไร ตอนนี้กำลังหาทางอยู่ว่าจะทำอย่างไรเพื่อหลีกเลี่ยงระหว่างเส้นทางช้างกับคน และถ้าถามคนที่อยู่รอบนอกส่วนใหญ่ก็เห็นใจช้าง ขณะที่คนก็บอกต้องดูแลคนด้วยเพราะอาจจะได้รับอันตราย แล้วรัฐบาลที่อยู่ตรงกลางจะทำอย่างไรเพราะต้องดูแลทั้งช้างและคน ขณะนี้ถือว่าหลายมูลนิธิดูแลช้างและสัตว์ต่างๆ ดีขึ้นทำให้มีปริมาณเพิ่มขึ้น แต่ก็มีปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับสัตว์ขึ้นมาอีกเพราะมีพื้นที่น้อย รัฐบาลนี้ยินดีรับฟังทุกฝ่ายแต่ก็อยากให้ดูด้วยว่าตรงไหนมีผลดีผลเสียมากกว่ากัน

พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงการบริหารจัดการหนี้ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยว่า ต้องหาทางทำอย่างไรให้หนี้เสียเป็นหนี้ดี มีขั้นตอนการบริหารหนี้อยู่แล้ว ต้องตัดหนี้เสียออกไปแล้วหากองทุนมาหมุนเพิ่ม รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ ต้องทำรายรับรายจ่ายและตั้งกรรมการเอาคนมาบริหารใหม่ภายใต้การดูแลคณะกรรมาการซูเปอร์บอร์ด มีคณะกรรมการขับเคลื่อน 11 คณะที่ตั้งมาก่อนหน้านี้ เพื่อทำงานเป็นมหภาค และเจาะลงไปข้างล่าง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ความหมายคือ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยจะไม่ถูกยุบใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่มีแนวคิดที่จะยุบ เพียงแต่ต้องแก้ไขปัญหาให้ได้ และตนคิดถึงพี่น้องชาวอิสลาม ทำอย่างไรจะให้เกิดผลประโยชน์โดยตรงให้ได้ ไม่ใช่นำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น วันนี้สหกรณ์ทั้งหมดมีปัญหาถูกสอบและดำเนินคดีอยู่หลายแห่ง ส่วนใหญ่เป็นการให้กู้โดยไม่มีคนค้ำประกัน หรือกู้เกินจำนวน ซึ่งเรื่องคดีความต้องไปว่ากัน อย่ามาไล่ตนให้ไปนั่งจับทุกคนมันไม่ไหว วันนี้ต้องไปไล่ทุกเรื่อง ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่เกิดขึ้นในรัฐบาลตนเอง

พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจไทยกับการออกพระราชบัญญัติฮาลาล ซึ่งเป็นกฎหมายที่ควบคุมการผลิตอาหารฮาลาลเหมือนในต่างประเทศ เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนว่า ตนยังไม่เห็น พ.ร.บ.ฮาลาล ยังไม่มีผ่านตามา แต่ยืนยันรัฐบาลจะผลักดัน พ.ร.บ.ฮาลาล วันนี้ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ พ.ร.บ.ฮาลาล อยู่ที่ผู้ประกอบการยังสร้างไม่ได้ ที่ผ่านมาเปิดอาหารและสินค้าฮาลาลที่ จ.ปัตตานี ยังไปไหนไม่ได้ คนลงทุนไม่ขยายการลงทุน และวันนี้จะเปิดไปในทางเหนืออีก ตรงไหนที่ทำได้จะทำ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการและตลาดซึ่งมีคู่แข่งขันเยอะพอสมควร แต่เราต้องผลักดันให้ได้ขอให้ใจเย็นๆ


กำลังโหลดความคิดเห็น