ที่ปรึกษานายกฯ ยัน สนช.มีเสรี คิดเองควรถอดถอนใครหรือไม่ ส่วน คกก.ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ที่ “ประยุทธ์” ตั้งขึ้นมีหน้าที่ บี้หน่วยงานใช้งบฯ ภาครัฐโดยเร็ว ไม่ตรวจสอบสติกเกอร์ไลน์ค่านิยม 12 ประการ อ้างไอซีทียืนยันประมูลโปร่งใส
พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกระแสข่าว สนช.สายทหารอาจลงมติไม่ถอดถอนหรืองดออกเสียงว่า สนช. ค่อนข้างมีเสรีภาพ มีความคิดของตัวเอง แต่ว่ากลุ่มที่เขาชอบเหมือนกันเขาอาจจะคุยกัน สำหรับตนไม่เห็นมีใครมาบอกว่าจะต้องทำแบบนี้แบบนั้น ไม่มีการล็อบบี้หรือชี้นำอะไรทั้งสิ้น ส่วนตัวขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะลงมติแบบใด เพราะการเปิดแถลงคดีที่ผ่านมาเหมือนการรีวิวให้ฟังว่าคดีเป็นอย่างไรเท่านั้น คนกล่าวหากล่าวมาอย่างไร คนถูกกล่าวหาก็ชี้แจง เป็นแค่การพูดครั้งแรก ยังไม่ได้ดีเบตกัน ดังนั้นต้องรอให้กรรมาธิการซักถามกันก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการมองว่าผลที่ออกมาจะมีผลต่อการสร้างความปรองดองในประเทศ พล.อ.อนันตพรกล่าวว่า ถอดถอนหรือไม่ถอดถอน ไม่สำคัญ เพราะถอดถอนเป็นเรื่องทางการเมือง สำคัญว่าผิดตามกฎหมายหรือไม่
พล.อ.อนันตพร ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) กล่าวถึงการตรวจสอบโครงการต่างๆ ของรัฐบาลว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ได้มอบหมายให้ตรวจสอบโครงการใดเป็นพิเศษ แต่หากมีอะไร คตร.จะตรวจสอบข้อมูลตามที่ได้รับทราบมา
ส่วนเรื่องโครงการจัดทำสติกเกอร์ไลน์ค่านิยม 12 ประการราคาสูงเกินจริง คตร.ไม่ได้มีการตรวจสอบ เพราะทางกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ชี้แจงแล้วว่า ค่าลิขสิทธิ์ในการจัดทำไลน์มีราคาแพงถึง 7-8 ล้านบาทอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าโครงการต่างๆ ของรัฐที่ล่าช้าเพราะติดขัดขั้นตอนตรวจสอบของ คตร.นั้น ยืนยันไม่เป็นความจริง หลักการทำงานของ คตร.หากหน่วยงานใดมั่นใจให้ดำเนินการเลย จะไม่ทักท้วง ยกเว้นโครงการที่มีผู้ร้องเรียน มีข่าวไม่ดี กรณีเจ้ากระทรวงไม่สบายใจอยากให้ตรวจสอบ และนายกฯมอบหมายมา ซึ่งน้อยมาก ส่วนใหญ่เราจะใช้วิธีขอร้องให้หน่วยราชการดำเนินการให้ถูกต้อง โปร่งใส และคุ้มค่ามากกว่า
พล.อ.อนันตพรกล่าวว่า สำหรับการทำงานของคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมเป็นประธาน และตนเป็นเลขานุการ ขณะนี้กำลังรวบรวมงานที่จะต้องขับเคลื่อนเร่งด่วน โดยเฉพาะงบประมาณภาครัฐที่จะต้องเบิกจ่ายให้เร็ว งบประมาณประจำปีที่เคยเร่งรัดเรื่องการลงทุน