xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯขอบคุณครม.-ขรก. ทำผลงานใน3เดือนตามเป้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (30ธ.ค.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าการประชุมครม.ครั้งนี้ เป็นครั้งสุดท้ายของปี มีรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมครบทุกคน โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายรัฐมนตรี ได้ให้นโยบาย สั่งการกำชับให้ทุกหน่วยงานกำกับดูแลข้าราชการของแต่ละกระทรวง ให้ดำเนินการตามมาตรการดูแลอำนวยความสะดวกประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงปีใหม่ ทั้งยังกำชับให้ทุกหัวหน้าส่วนราชการต้องสามารถติดต่อได้ ในยามเกิดเหตุเกิดเหตุฉุกเฉิน จำเป็นเร่งด่วน
ทั้งนี้ นายกฯ ยังระบุว่า มาตรการการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในช่วงปีใหม่ทั้งหมดนี้ ปัจจัยสำคัญก็ขึ้นอยู่กับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นสำคัญด้วย ถ้าเมาต้องไม่ขับ เพื่อความปลอดภัยแก่ตัวเอง และเพื่อไม่ให้ผู้ร่วมท้องถนนได้รับความเดือดร้อน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้ขอบคุณครม. และข้าราชการทุกคน ที่ช่วยกันทำให้ผลงาน 3 เดือนของรัฐบาลสัมฤทธิ์ผล ตามที่ให้สัญญาไว้กับประชาชน และขณะเดียวกัน ก็ขอให้ ครม.และข้าราชการ ช่วยกันประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารการดำเนินงานของรัฐบาลให้มากขึ้น เพื่อให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในทางเศรษฐกิจ ตลอดจนถึงแนวทางการลดความเหลื่อมล้ำ การดำเนินการปฏิรูปร่วมกันมากขึ้นว่า รัฐบาลได้เดินหน้าจริง และไปถึงขั้นไหนแล้ว แต่ต้องไม่ใช่ลักษณะของการโฆษณา
ส่วนยุทธศาสตร์การดำเนินงานของรัฐบาลในปี 2558 ก็เป็นไปตามที่พล.อ.ประยุทธ์ เคยระบุไว้ว่า ประเทศมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง ประเทศชาติยั่งยืน ซึ่งยุทธศาสตร์นี้ จะใช้ต่อเนื่องไปอีก 5 ปี จนถึงปี 2563 ซึ่งการจะทำให้ยุทธศาสตร์สำเร็จได้ ก็ขึ้นอยู่กับหน่วยงานราชการทุกภาคส่วนที่จะต้องปฏิบัติงานอย่างตั้งใจจริง บริสุทธิ์ โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้
สำหรับการแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ 3 จังหวัด ชายแดนใต้ นายกฯก็ให้ความสำคัญ เช่นเดียวกัน โดยกำชับให้ราชการทุกส่วนทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน แต่การระบายน้ำนั้น ต้องทำอย่างรอบคอบ อย่าคิดแต่ระบายน้ำ แต่ต้องคิดถึงการเก็บน้ำเพื่อไว้ใช้ในหน้าแล้งด้วย พร้อมกันนี้ ประเทศเราต้องช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ประเทศมาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ที่ประสบภัยน้ำท่วมด้วย ไม่ใช่ดูแลแต่ตัวเอง แต่ต้องช่วยประเทศเพื่อนบ้านให้เข้มแข็ง เพื่อให้ภูมิภาคอาเซียนเข้มแข็งด้วย
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า จากการลงพื้นที่รำลึกครบรอบเหตุการณ์ สึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้เน้นย้ำว่าต้องสร้างระบบป้องกันให้นักท่องเที่ยว และประชาชนในพื้นที่มั่นใจ ต้องมีมาตรการซักซ้อมการเผชิญเหตุการณ์ให้เข้าใจ และต้องวางระบบเตือนภัยให้สามารถใช้ได้จริง ซึ่งที่ผ่านมา ก็มีการซักซ้อมก็พบว่าใช้ได้ดี แต่ทุ่นตรวจวัดยังต้องซ่อมแซมบ่อยครั้ง เพราะได้รับการกระทบจากเรือ และคลื่น จึงต้องมีการซ่อมบำรุงอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่การพบผู้นำประเทศต่างๆ ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ก็แสดงความเห็นว่า กรณีการปักเขตแดนนั้น ต้องทำอย่างจริงใจ พื้นที่ไหนมีความชัดเจนทั้งสองฝ่ายก็ให้ดำเนินการทันที แต่ถ้าที่ไหนยังไม่ชัดเจน ก็ให้ยุดไว้ก่อน แล้วให้มาหารือถึงการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกัน เพื่อทำให้ประเทศเพื่อนบ้านไว้ใจ ลดความหวาดระแวงต่อกัน หันมาแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกัน จะไม่นำเส้นเขตแดนมาก่อให้เกิดความขัดแย้ง
ส่วนความเข้าใจผิดของกองกำลังในพื้นที่ ที่เมื่อเกิดขึ้นก็มักจะมีการปิดด่านชายแดนนั้น หากต่อไปมีปัญหามีความจำเป็นต้องปิดชายแดน ก็มอบหมายให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม ในการตัดสินใจว่า ปิดหรือไม่ ส่วนการสนับสนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษตามเมืองที่ติดชายแดนนั้น นายกฯก็ขอให้ทุกภาคส่วนต้องจัดเตรียมข้อมูลทางเศรษฐกิจให้พร้อม
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้กำชับในส่วนของนโยบายทางด้านการศึกษา ว่า หากหนังสือแบบเรียนเป็นแบบปีต่อปี และเป็นแบบเติมคำ จะทำให้เป็นภาระของผู้ปกครอง เพราะใช้ต่อไม่ได้ จึงมอบให้กระทรวงศึกษาธิการไปหาแนวทางว่าจะทำอย่างไรให้ลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้ ให้สามารถส่งต่อให้ผู้อื่นใช้ได้ ตลอดจนถึง เงินแป๊ะเจี๊ยะ สำหรับการเข้าโรงเรียนด้วยว่าจะทำอย่างไรให้น้อยลง เพื่อไม่ให้ผู้ปกครองบางคนที่มีรายได้น้อย เสียโอกาสส่งลูกหลานเข้าเรียนโรงเรียนที่มีชื่อเสียง
ขณะที่ การผลักดันค่านิยม 12 ประการ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ชื่นชมว่า เป็นสิ่งดีที่ทุกกระทรวงช่วยกันทำความเข้าใจว่า รัฐบาลไม่ได้ต้องการจะให้เด็กท่องจำ แต่ต้องการให้เด็กได้นำค่านิยมไปปฏิบัติ เพื่อให้ตัวเองดี ครอบครัวดี และสังคมดี แต่ขณะเดียวกันก็กำชับที่ประชุมว่าไม่ได้ต่อว่า แต่อยากให้คำนึงถึงการใช้งบประมาณอย่างเหมาะสมด้วย เพราะประชาชนก็สะท้อนความเห็นมา
นอกจากนี้ที่ประชุม ครม. ยังรับทราบการรับคืนมรดกทางศิลปวัฒนธรรม จากพิพิธภัณฑ์ประเทศสหรัฐอเมริกา กว่า 500 ชิ้น ที่เป็นโบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์จากหลายภูมิภาคในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคเหนือ เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ที่ผ่านมา อีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น