รองหัวหน้าประชาธิปัตย์จวกพวกเรียกร้องนิรโทษกรรมมีแต่หน้าเดิม แถมสังคมไม่เอาด้วยฉบับสุดซอยยังจะโหนกระแส แนะ “เอนก” เอาให้ชัดเว้นโทษใครบ้าง ขอร้องอย่าพ่วงคดีอาญา แถมช่วย “ยิ่งลักษณ์” ไล่ สนช.ไม่กล้าหาญถอดถอนก็ลาออกไป เย้ยเอาคนดีแต่กลัวมาทำงานก็ไร้ประโยชน์
วันนี้ (5 ม.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ เสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกฯ ใช้มาตรา 44 นิรโทษกรรมให้ทุกฝ่ายทั้งแกนนำและผู้ชุมนุมว่า ตอนที่นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ สปช.ในฐานะประธานคณะทำงานแนวทางการสร้างความปรองดองเสนอเรื่องการปรองดองนิรโทษกรรมระบุไม่ชัดเจน ทั้งที่สภาฯ ชุดที่แล้วศึกษาเกือบปีจนได้ข้อยุติว่าจะนิรโทษกรรมให้ประชาชนที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่รวมถึงคนที่มีคดีอาญาอื่นทั้งใช้อาวุธสงคราม ปล้น ฆ่า เผาและแกนนำ พอนายเอนกจุดพลุเรื่องนี้ คนที่ไม่ได้รับการนิรโทษกรรมก็มาโหนกระแสพ่วงไปด้วย วงจรนี้จึงกลับมาอีก
“วันนี้จึงต้องถามให้ชัดว่า คนที่ออกมาเรียกร้องเรื่องการนิรโทษฯ ล้วนเป็นคนเดิมๆ อาทิ นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยแกนนำ นปช. และนายสุรพงษ์ อ้างว่าให้ปล่อยประชาชน แต่ล้วนเป็นคดีอาญาอื่นทั้งปล้น ฆ่า เผา ซึ่งในสภาชุดที่แล้วเราเห็นพ้องนิรโทษฯ ให้ประชาชนที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน แต่มีการแปลงร่าง พ.ร.บ.ฉบับของนายวรชัย ดันออกมาจนเป็นฉบับสุดซอยเหมาเข่ง สังคมจึงไม่เอา วันนี้เขาก็มาโหนกระแสนี้อีกจึงขอให้นายเอนก ระบุให้ชัดเจนว่าใครบ้าง และขอร้องอย่าพ่วงคดีผิดอาญาอื่นๆ หากมีการเสนอให้รวมไปถึงคดีถอดถอนช่วยทั้ง ส.ว. ส.ส.หรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะยิ่งเป็นการโหนกระแสที่หนักข้อ ครั้งนี้จะเป็นฉบับทะลุซอยออกถนนใหญ่ จะยุ่งกันใหญ่” นายนิพิฏฐ์กล่าว
ส่วนการถอดถอนบุคคลทางการเมืองนั้น นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า ขอให้ สนช.คิดโดยปราศจากอคติทั้งสี่ คือ ลำเอียงเพราะรัก ชัง กลัว และไม่รู้ ถ้าคิดว่าตัวเองไม่มั่นคงก็ขอให้ลาออกไปให้คนที่มีความกล้าเข้ามาทำหน้าที่แทน เพราะบ้านเมืองยามวิกฤติต้องการคนกล้ามากกว่าคนดี หากทั้งดีและกล้าก็ยิ่งดี แต่หากเอาคนดีแต่กลัวมาทำงาน เมื่อไม่กล้าแล้วการทำงานในยุคปฏิรูปที่ต้องการแก้ไขปัญหาใหญ่ในชาติ ก็ไร้ประโยชน์ และความตั้งใจที่จะปฏิรูปคงไม่สำเร็จตามที่วางไว้แน่