โฆษก ปชป.โต้เพื่อไทยกล่าวหา ปชป.ได้สิทธิพิเศษในคดีต่างๆ ยันทุกเรื่องเป็นไปตามกระบวนการ ปชป.พร้อมต่อสู้คดีตามกฎหมาย ไม่เคยออกมาโวยวาย พร้อมย้ำส่วนหนึ่งของปัญหาเกิดจากผู้กระทำผิดไม่ยอมรับผิด โทษกฎหมาย แก้กฎหมายจนเกิดปัญหา
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่ามีความจำเป็นต้องออกมาชี้แจงเพื่อป้องกันความสับสนของสังคมที่นายวรชัย เหมะ และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ออกมากล่าวเปรียบเทียบการดำเนินคดีต่อบุคลากรพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย โดยพยายามทำให้สังคมสับสนและเข้าใจผิดว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้รับสิทธิพิเศษ หรือการดูแลที่ดีกว่าเพื่อป้องกันความสับสนของสังคมเพราะที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ได้พยายามใช้ความอดทน อดกลั้น เพราะอยากเห็นประเทศชาติเดินหน้าปฏิรูปอย่างแท้จริง ซึ่งพรรคฯพร้อมให้ความร่วมมือทุกกรณี
“แต่วันนี้ตนอยากย้ำให้เห็นว่าส่วนหนึ่งของปัญหาของประเทศก็คือ การที่ผู้กระทำความผิดไม่ยอมรับผิดในความผิดที่ตัวเองก่อขึ้น และพยายามที่จะโทษกฎหมายจนเป็นที่มาของความพยายามแก้กฎหมาย แก้รัฐธรรมนูญ ในสมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด”
นายชวนนท์กล่าวว่า 1. พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยได้รับสิทธิพิเศษใดๆ แต่ทุกครั้งที่มีข้อกล่าวหา หรือการดำเนินคดีกับบุคคลในพรรค พรรคฯก็จะต่อสู้คดีตามกฎหมาย เพื่อพิสูจน์ความยุติธรรม ไม่ออกมาโวยวาย หรือตัดพ้อกฎหมาย 2. หลายครั้งที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายแพ้คดี บุคลากรของพรรคถูกลงโทษแม้เราไม่เห็นด้วยก็ไม่เคยออกมาสร้างความวุ่นวายหรือทำให้สังคมเกิดความแตกแยกจากการไม่ยอมรับผิดของตนเอง และที่สำคัญไม่เอาปัญหาของพรรค และบุคลากรในพรรคไปเป็นปัญหาของประเทศชาติ 3. กรณีคดีความที่มีการดำเนินการตามกฎหมาย อาทิ คดีโรงพัก คดีการชุมนุมปี 53 คดีการกล่าวหาในโครงการประกันรายได้ ทุกเรื่องพรรคฯพร้อมชี้แจง และต่อสู้ตามกฎหมาย ทุกกรณี ทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฯและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคขณะนั้น จนมีการฟ้องกลับเจ้าหน้าที่รัฐ อย่างเช่น อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รวมถึงกรณีที่ศาลยกคำร้องในคดีการชุมนุมปี 2553 เนื่องจากอยู่ในการพิจารณาของ ป.ป.ช.
ส่วนการประกันรายได้ก็เป็นการพูดโดยปราศจากหลักฐานของพรรคเพื่อไทย ที่มักพูดเองเออเองอยู่ข้างเดียว เพราะหากมีข้อมูลการทุจริตจริงก็ขอให้มอบข้อมูลนั้นต่อ ป.ป.ช.
นายชวนนท์กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ขอยืนยันอีกครั้งว่า การปรองดองเป็นเรื่องจำเป็นแต่การปรองดองจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าหากว่าคนทำถูกต้องมีความผิด แต่คนทำผิดกลับไม่ถูกลงโทษกฎหมายต้องมีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน ซึ่งตนขอสนับสนุนแนวความคิดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เห็นว่าการเขียนกฎหมาย หรือการร่างรัฐธรรมนูญก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่การรับผิด การลงโทษผู้กระทำความผิดก็ต้องเดินหน้าต่อไป ประเทศชาติจึงจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ และบรรลุวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง