ผบ.ทบ. กำชับทุกหน่วย ดูแลความเรียบร้อยช่วงเทศกาลปีใหม่ ยันสถานการณ์ในปัจจุบันไม่มีอะไรน่าห่วง ส่วนอาวุธสงครามที่พบเป็นของเก่า เชื่อไม่นำมาใช้ก่อเหตุในช่วงนี้ มกราคมนี้ ลดกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ของ คสช. ลง 10 % เปลี่ยนเป็นชุดควบคุมในการรักษาความสงบ
ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) วันนี้ (29 ธ.ค.) พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวภายหลังการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรง (นขต.ทบ.) ระดับผู้บังคับกองพันขึ้นไปว่า ได้เน้นย้ำให้ผู้บังคับหน่วยติดตามงานทุกภาคส่วน ทั้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ งานด้านการข่าว
นอกจากนี้ได้เน้นย้ำในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยให้ทุกพื้นที่ดูแลความสงบเรียบร้อย โดยเฉพาะพื้นที่แนวชายแดน ซึ่งการทำงานต้องไม่เกิดปัญหาใดๆ กับประชาชน เพื่อทำให้ประชาชนเกิดความสุขตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ส่วนสถานการณ์ในปัจจุบันก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ก็จะไม่ประมาท พร้อมทั้งได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปตรวจตามพื้นที่ต่างๆที่จะมีการจัดงานเค้าท์ดาวน์ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งพื้นที่กทม. กับต่างจังหวัด ทั้งนี้ยอมรับว่ายังมีกลุ่มคนที่คิดไม่เหมือนคนส่วนใหญ่ แต่ก็พยายามที่จะเข้าไปทำความเข้าใจให้พวกเขามีความคิดเห็นที่ต้อง ขณะนี้ไม่มีปัญหาอะไร
สำหรับการตรวจพบอาวุธสงครามช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า เป็นการลักลอบนำเข้าจากชายแดน เป็นของเก่า ขอยืนยันว่าไม่ใช่อาวุธจากราชการ ตนคิดว่าไม่น่าจะนำมาใช้ก่อเหตุในช่วงนี้ ทั้งนี้ ในวาระปีใหม่นี้ขออวยพรให้ประชาชนไทยทุกคนมีความสุข ขอให้สมความปรารถนา สิ่งใดที่ทหารจะช่วยได้ ก็ขอให้มั่นใจในการทำงานเพื่อประเทศชาติมีความสงบสุข
ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า การประชุม นขต.ทบ. ครั้งนี้ ทาง ผบ.ทบ.ได้สั่งการให้ผู้บังคับหน่วยทุกคนประเมินผลการปฏิบัติงานในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาว่าบรรลุเป้าหมายหรือไม่ รวมทั้งให้ไปวางกรอบแนวทางว่าจะดำเนินการอะไรต่อไป โดยภาพรวมยังคงให้สานต่อนโยบาย คสช. ในฐานะที่กองทัพทำหน้าที่เป็นกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ในการดูแลรักษาความสงบ สร้างความปรองดอง เพื่อนำไปสู่การปฏิรูป อีกทั้ง แม้ในต้นเดือนมกราคม 2558 จะมีการปรับลดกำลังของ กกล.รส. ลงไป 10 % โดยปรับสภาวะเป็นชุดควบคุม (ชค.) ซึ่งตนก็ขอให้ปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความสงบให้ครบถ้วนสมบูรณ์เหมือนเดิม
