โฆษก กอ.รมน.แจงผลประชุม นขต.ทบ. หน.คสช.ชมกำลังพล ทหารพราน โดยเฉพาะช่วยเด็กจมน้ำ ย้ำไฟใต้เรื่องภายใน ระวังต่างประเทศมองขัดกันด้วยอาวุธ การเมืองนำการทหารเป็นระบบ คุยสันติภาพ เข้มเขตเมือง ให้ ปชช.ผู้เห็นต่างมีส่วนแก้ปัญหา เน้นใช้กฎหมายเป็นธรรม แยกคดีให้ชัด หลักฐานรัดกุม เดินหน้าโครงการผืนป่าอาเซียน
วันนี้ (4 ส.ค.) พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เปิดเผยผลการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงต่อกองทัพบก (นขต.ทบ.) ครั้งที่ 7/2557 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมว่า ในส่วนของกำลังพลที่ปฏิบัติในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ชื่นชมกำลังพลทุกระดับ และขอชื่นชมทหารพรานในเรื่องของการทำงาน การแต่งกาย และระเบียบวินัย โดยเฉพาะทหารพรานที่ให้การช่วยเหลือเด็กจมน้ำ
พร้อมทั้งระบุว่าขณะนี้สถานการณ์ภาคใต้ยังยืนยันเจตนารมณ์เดิมคือเป็นเรื่องภายในของไทย การสื่อสารต้องใช้ความระมัดระวังไม่ให้ถูกมองจากต่างประเทศว่าเป็นการขัดกันด้วยอาวุธ การพูดคุยสันติภาพให้ดำเนินการต่อไปโดยใช้นโยบายการเมืองนำการทหาร มีคณะกรรมการดำเนินการเป็นระบบ รูปแบบการปฏิบัติงานต้องใช้การบูรณาการร่วมและใช้ความเข้าใจในทุกมิติ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ต้องไม่ใช้ความคุ้นเคยหรือเคยชินในการทำงานจนเกิดความประมาท การดูแลเขตเมืองต้องเข้มงวด ให้กำลังพลเรือน ตำรวจ ทหารมามีส่วนร่วมกันในการปฏิบัติงาน ให้ภาคประชาชนและภาคประชาสังคม ทั้งผู้ที่เห็นต่างและเห็นตามเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา แม้อาจมีความเห็นต่างบ้างแต่ก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
พ.อ.บรรพตกล่าวต่อว่า สำหรับการใช้กฎหมายเน้นให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยใช้หลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์มาบูรณาการ ในส่วนของการดำเนินคดีนั้นให้แยกแยะคดีต่างๆ ให้ชัดเจนว่าเป็นเรื่องภัยแทรกซ้อน เหตุส่วนตัว การเมืองท้องถิ่นหรือคดีความมั่นคง รวมทั้งการทำหลักฐานให้รัดกุม โครงการผืนป่าอาเซียนขอให้ดำเนินการและประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศ และเป็นการปลูกฝังให้ประชาชนมีความรักป่า ซึ่งผลประโยชน์หลักนอกจากจะเป็นแหล่งต้นน้ำแล้ว ยังสามารถใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวต่อไปในอนาคตได้ การสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคประชาชนให้เร่งดำเนินการด้วยความระมัดระวัง ให้ประชาชนมีส่วนรวมในการดูแลและปกป้องผืนป่า