รมว.กลาโหม ยืนยันพร้อมดูแลความปลอดภัยช่วงปีใหม่ พร้อมใช้กฎอัยการศึกเล่นงานพวกไม่หวังดีใช้อาวุธสงครามป่วน ขณะเดียวกันหนุนใช้ ม.44 ปิดสื่อ โจมตีรัฐบาล อ้างชอบเขียนข่าวไม่สร้างสรรค์ ปัดตอบ กมธ.ยกร่างฯ ชงให้นายกฯ มาจากคนนอก บอกแค่ข้อเสนอ ยังไม่ตกผนึก เชียร์ ทร.ซื้อเรือดำน้ำ แต่ต้องขึ้นกับ ผบ.ทร.ที่ต้องเสนอรัฐบาลและชี้แจงถึงความจำเป็น “บิ๊กป้อม” เตรียมนำ ผบ.เหล่าทัพอวยพรปีใหม่ “ป๋าเปรม” จันทร์นี้
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะใช้ พ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ศ. 2457 จัดการบุคคลที่จะนำเอาอาวุธสงครามมาสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมืองว่า เรื่องนี้หน่วยงานด้านความมั่นคงได้ดูแลอยู่แล้ว นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ ฉะนั้นจะทำอย่างไรให้ประชาชนได้รับความปลอดภัย ก็ต้องดูแลความมั่นคงทุกเรื่อง ไม่ใช่เฉพาะแค่อาวุธสงครามอย่างเดียว
ทั้งนี้ ในเรื่องอาวุธสงครามนั้นได้ติดตามมาโดยตลอด ตั้งแต่ คสช.เข้ามาบริหารประเทศแล้วก็มีการตรวจค้นบุคคลที่มีอาวุธสงคราม อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งให้ทุกหน่วยงานทั่วประเทศต้องไปเน้นย้ำกำกับดูแลเรื่องเหล่านี้ ดังนั้นขอให้ไม่ต้องห่วง ตนดูแลอย่างเต็มที่ และขอให้มั่นใจว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตนจะทำให้ประชาชนเกิดความสุขมีความปลอดภัย และประเทศชาติก็จะสงบสุข
ส่วนที่นายกรัฐมนตรีกล่าวระหว่างแถลงผลงานรัฐบาลในรอบ 3 เดือน ว่าจะใช้ มาตรา 44 ปิดสื่อที่สร้างความขัดแย้งนั้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า กรณีนี้ตนคิดว่าก็คิดว่าดีแล้ว เพราะรัฐบาลต้องการที่จะสร้างบ้านเมืองให้มีความปรองดอง แต่ว่าสื่อบางสำนัก เขียนหรือนำเสนอที่มีความแตกแยก และชอบถามเรื่องที่มีความแตกแยก ชอบกันจริงๆ ไม่เคยมีคำถามอย่างสร้างสรรค์เลย ชอบมีคำถามที่ชวนทะเลาะ ไม่รู้เป็นอะไร
สำหรับการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้โพสต์รูปภาพแต่งกายเป็นซานตาคลอส เนื่องในวันคริสต์มาส พร้อมด้วยถือรูปนกกระดาษเพื่อสื่อความไปยังสมาชิกพรรคเพื่อไทยนั้น ถือเป็นการส่งสัญญาณทางการเมืองหรือไม่ พลอ.ประวิตรกล่าวว่า ตนยังไม่เห็นจึงไม่สามารถตอบได้
พล.อ.ประวิตรปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นกรณีคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ บัญญัติให้นายกรัฐมนตรีไม่ต้องมาจาก ส.ส. โดยกล่าวว่าไม่มีความคิดในเรื่องดังกล่าว ต้องให้สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ดำเนินการต่อไป อีกทั้งในขณะนี้ยังไม่ถึงเวลา และยังไม่ได้มีการกำหนด หรือข้อเสนอมา เป็นเพียงหนึ่งในหัวที่ สปช. คิด ฉะนั้นผลสรุปจะออกมาอย่างไร ตนไม่รู้ และไม่มีใครรู้ ตอนนี้เพิ่งเริ่มต้น ยังไม่เป็นรูปร่าง และมีการยกร่างฯ กันเลย
“เรื่องนี้ถามผมได้อย่างไร คุณต้องไปถามประชาชน ถามผมคนเดียวไม่ได้ ถ้าผมถามกลับว่าคุณชอบหรือไม่” พล.อ.ประวิตรย้อนถามผู้สื่อข่าว ผู้สื่อข่าวจึงตอบว่า “คงจะไม่เหมาะสมกับประเทศไทย” พล.อ.ประวิตรจึงกล่าวว่า “นั่นเป็นความคิดของคุณ ขณะนี้ต้องรอปฏิรูป”
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ประเด็นนี้เกรงว่าจะเปิดช่องให้มีนายกฯ เป็นคนนอกได้ และจะเป็นช่องโหว่ให้ทหารเข้ามาแทรกแซงทางการเมือง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ผมไม่คิด ไม่เชื่อว่าจะเป็นแบบนั้น เป็นเพียงแค่พวกคุณคิด อาจจะใช่ แต่ตอนนี้ผมยังไม่ได้คิด และตอนนี้ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ จะเป็นช่องโหว่ได้อย่างไร ผมอยากย้ำว่าจะไม่ใช่ออกมาในรูปแบบนี้ ฉะนั้นเรื่องนี้ขอให้ไปถาม กมธ.ยกร่างฯ ดีกว่า เพราะตอนนี้ในกระบวนการนั้นมีแนวคิดหลายเรื่อง แต่ผู้สื่อข่าวไปเอาแนวคิดนี้มาเพียงเรื่องเดียว ทั้งเรื่องนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง หรือมาจากคนนอก เรื่องนี้ไม่ต้องห่วง เพราะในที่สุดก็จะตกผนึกเองว่าสังคมไทยจะได้รูปแบบใด”
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเดินทางไปเยือนกัมพูชามีการตกลงเรื่องพลังงานใต้ทะเลหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตนไม่ได้คุย แต่เรื่องแหล่งพลังงาน หรือทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ จะต้องพูดคุยกันในส่วนของคณะกรรมการระหว่างประเทศ ไม่ใช่ไปพูดกันในประเด็นส่วนตัวว่าจะดำเนินการร่วมกันอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีใครตกลงได้
สำหรับประเด็นที่ว่าสังคมไทยมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เรือดำน้ำ เพื่อรักษาความมั่นคงทางทะเลหรือไม่นั้น รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนคิดว่ามีความจำเป็น แต่เรื่องนี้ต้องถาม พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวาณิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ว่าคิดอย่างไร โดยขั้นตอนต้องเสนอผ่านไปยังสภากลาโหม จากนั้นก็จะส่งไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดังนั้น พล.ร.อ.ไกรสร ควรคิดว่าจะมีหรือยัง จะมีเมื่อใด และจะใช้ระยะเวลากี่ปีในการพัฒนาศักยภาพของกองทัพเรือถึงการมีเรือดำน้ำ ซึ่งโดยส่วนตัวตนไม่มีความขัดข้อง แต่ทาง พล.ร.อ.ไกรสรจะต้องเป็นผู้ชี้แจงในรายละเอียดถึงความจำเป็น เพราะเรื่องนี้ไม่มีใครรู้ดีเท่ากองทัพเรือ อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ต้องมีการวางแผนถึงการใช้จ่ายงบประมาณ เพราะจะซื้อทีเดียวคงไม่มีงบประมาณ จะต้องมีการพิจารณาถึงงบประมาณผูกพันกี่ปีด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม เวลา 09.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พร้อมด้วย พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวาณิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนายทหารระดับสูง จะเดินทางไปอวยพรในเทศกาลปีใหม่แด่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษด้วย