เกาะกระแส
00 แถลงกันไปแล้วสำหรับ ผลงานรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในรอบ 3 เดือน ซึ่งหากพิจารณากันอย่างตรงไปตรงมาก็ต้องบอกว่า "ยังไม่อาจคืนความสุข"กลับมาดังเดิมได้ ผลงานยังไม่เป็นที่น่าพอใจ เพราะแม้แต่ นายกฯก็ยังออกตัวไว้ก่อนว่า"ยังไม่พอใจ"โดยขอเวลาให้มีผลงานเป็นรูปธรรมในอีก 3 เดือนข้างหน้า โดยสิ่งที่พยายามยกขึ้นมาก็คือการ"รักษาความสงบ" ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าสงบขึ้นจริง แต่เป็นการสงบภายใต้กฎอัยการศึก และภายใต้ภาวะที่ชาวบ้านให้โอกาสรอการปฏิรูป และยังให้เวลาในการแก้ปัญหาปากท้อง ซึ่งเหมือนกับ พล.อ.ประยุทธ์ จะรู้ว่าถ้าภายใน 3 เดือนข้างหน้าหากยังไม่เห็นหน้าเห็นหลังก็จะมีเสียงโวยวายดังกว่านี้แน่ !!
00 แต่สิ่งที่น่าจับตาก็คือ น้ำเสียงเดือดดาลกับ"สื่อบางฉบับ" ที่เขาอ้างว่า"ด่าทุกวัน"แม้ว่าจะไม่เอ่ยชื่อออกมาตรงๆ แต่ก็พอเข้าใจได้ไม่ยากว่าน่าจะหมายถึง "ผู้จัดการ"นั่นแหละ พร้อมทั้งขู่จะใช้"กฎอัยการศึก"จัดการหลังปีใหม่ อย่างไรก็ดีคำถามก็คือ "ด่าทุกวัน"จริงหรือเปล่า ยืนยันได้ว่าไม่ได้ด่า แต่ถ้าวิพากษ์วิจารณ์นั้นอาจจะใช่ เพราะในฐานะที่เป็นรัฐบาลสามารถวิจารณ์ด้วยเหตุด้วยผลได้ ไม่ได้มีวาระส่วนตัว และที่สำคัญ ในฐานะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้นำในการบริหารประเทศ ไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาทั่วไป ซึ่งไม่ว่าใครเมื่อก้าวขึ้นมาก็ต้องถูกตรวจสอบทั้งสิ้นไม่มีข้อยกเว้น
00 เริ่มมีการปล่อยข่าวส่งสัญญาณกันออกมาถี่ขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเกิดขึ้นในช่วงที่นายกฯเดินทางไปจีนครั้งล่าสุด ทำให้เห็นว่าต้องมีการปรับครม.ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ค่อนข้างแน่ และแน่นอนว่าตามตารางเวลาก็ย่อมต้องเกิดขึ้นหลังปีใหม่ไปแล้ว เอาเป็นว่าน่าจะเป็นช่วง"ต้นปี"เป็นกำหนดเวลาที่"หลวมๆ"เอาไว้ก่อน เพราะยังไม่รู้ว่าเป็นวันไหน เพียงแต่ว่าน่าจะ"ปรับแน่"เท่านั้นเอง เพราะถึงตอนนั้นเมื่อพิจารณาตามระยะเวลาถือว่ารัฐบาลมีอายุเกิน 4 เดือนแล้ว สำหรับรัฐบาล"เฉพาะกาล"มีอายุจำกัดก็ต้องถือว่าเป็นช่วงเวลาอันเหมาะสมแล้ว ขณะเดียวกันหากคิด"จะอยู่ยาว"ก็ยิ่งต้องรีบเขย่าให้ลงตัวอย่างเร็วที่สุด เพราะมีผลต่อศรัทธาทั้งสิ้น
00 การแต่งตั้ง "พี่ใหญ่"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มาทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมติดตามการทำงานของ รมต.มันก็เป็นการส่งสัญญาณชัดแล้วว่า นี่คือการ"ไล่บี้"เค้นเอาผลงานของแต่ละคนออกมา แน่นอนว่าความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นย่อมทำให้ รมต.หลายคนหนาวๆร้อนๆ โดยเฉพาะพวกที่ไม่ใช่อยู่ใน"สายแข็ง"ก็มีโอกาสที่จะหลุดจากเก้าอี้สูงยิ่ง อย่างบางคนตั้งแต่นั่งถ่ายรูปหมู่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า หลังจากนั้นก็ยังไม่เคยเห็นหน้าออกสื่อหรือแสดงความคิดเห็นอะไรออกมาให้เห็นเลย ไม่รู้ว่า"โลกลืมหรือลืมโลก"เป็นแบบไหนยังไม่เข้าใจ !!
00 อย่างไรก็ดีงานนี้ภาระหนักน่าจะตกอยู่กับทีมเศรษฐกิจที่นำโดย "หม่อมอุ๋ย"มรว.ปรีดิยาธร เทวกุล ที่ต้องถูกตั้งคำถามในเรื่องผลงานในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ มาตรการในการกระตุ้นล็อตแรกออกมา 3.6 แสนล้านบาทจนถึงบัดนี้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ที่น่าสนใจก็คือการเบิกจ่ายเงินเป็นไปด้วยความล่าช้ายืดยาด ไปไม่ถึงไหน รวมไปถึงกรณีการเบิกจ่ายงบประมาณทั้งประเภทงบค้างท่อและงบประมาณปี 58 ล้วนเป็นไปด้วยความล่าช้า ไม่เว้นแม้แต่มาตรการในการช่วยเหลือชาวนา ชาวสวนยางไร่ละพัน ก็เป็นไปในลักษณะเดียวกัน ดังนั้นถ้าถามว่าผลงานด้านศก.สมราคาคุยหรือไม่คำตอบก็เห็นกันตำตาอยู่แล้ว
00 หากมีการปรับครม.หลังปีใหม่ตามที่มีการคาดหมายกันจริงก็ให้จับตาทีมเศรษฐกิจในสายของ "กุนซือ"สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ว่ากันว่าเริ่ม"ขึ้นหม้อ"มากขึ้นทุกวัน ราศีเปล่งประกาย แม้ว่าเจ้าตัวจะโดน"แบน"มีข้อจำกัดรับตำแหน่งรมต.ไม่ได้ก็ตาม แต่ก็สามารถผลักดันทีมงานขึ้นมาได้ ให้สังเกตว่าระยะหลัง สมคิด แทบจะเป็นเงากับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในการไปเยือนต่างประเทศ โดยเฉพาะ จีน กับญี่ปุ่นที่นำมาสู่การลงนามในบันทึกความเข้าใจในโครงการทางศก.ที่สำคัญตามมาของ นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา น่าจับตากับความเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้น !!
