เกาะกระแส
00 ตามกำหนดการวันที่ 25 ธ.ค.57 จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างตัวแทนของ ปปช.กับตัวแทนอัยการสูงสุด เพื่อหาข้อสรุปว่าจะสั่งฟ้อง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในความผิดคดีอาญาจากโครงการรับจำนำข้าวหรือไม่ อย่างไรก็ดีได้ฟังท่าทีจากฝ่าย ปปช.ทั้ง วิชา มหาคุณ ที่เป็นเจ้าของเรื่อง และ สุภา ปิยะจิตติ ซึ่งอดีตเคยเป็นประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวของกระทรวงการคลังก็ยืนยันแบบเดียวกันว่า"ไม่ยืดเยื้อ"ต่อไปแล้ว ไม่มีการสอบพยานอะไรเพิ่มเติมอีกแล้ว เพราะถือว่าสำนวนสมบูรณ์แล้ว หากอัยการฯเห็นว่าไม่สมบูรณ์ ยังไม่ฟ้อง ก็ไม่เป็นไร ทางปปช.ต้องหาทางฟ้องอาญาเอง ความหมายน่าจะเป็นอย่างนี้
00 อย่างไรก็ดีแม้ไม่อยากคาดการณ์แบบมองในแง่ลบ ยังเชื่อใจลึกๆว่าในที่สุด ทางอัยการสูงสุดคงจะมีความเห็นสอดคล้องกันแล้วส่งฟ้องอาญา ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในที่สุด หากรับสัญญาณที่ส่งมาล่วงหน้าไม่ผิดมันก็ต้องเดินหน้าฟ้อง แต่ถ้าผลออกมาตรงกันข้ามก็อยากรู้เหมือนกันว่าอัยการในยุคของ ตระกูล วินิจฉัยภาค จะถูกจ้องมองจากสังคมในแง่ไหนกันแน่ !!
00 สัญญาณที่รับรู้ออกมาในทางอ้อมให้เห็นก็คือคำพูดของ นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ระบุชัดเจนเป็นครั้งแรกว่าความเสียหายจากโครงการจำนำข้าวมีมากกว่า 6.8 แสนล้านบาท หลังจากที่ผ่านมาเงียบเฉยมานาน หากนับเอาจากตอนที่เคยออกมาพูดเรื่อง"ข้าวด้อยคุณภาพ"ในสต็อกมากกว่าร้อยละ 70 เมื่อหลายเดือนก่อน แล้วก็เงียบหายไปเลย การที่จู่ๆออกมาพูดในจังหวะแบบนี้มันก็น่าจะมีความหมายบางอย่างแหละน่า !!
00 สังเกตหรือไม่ว่าหลังจากคำพูดเรื่องความเสียหายโครงการรับจำนำข้าว เรื่องการเดินหน้าฟ้องอาญา ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เรื่องการบล็อกไม่ให้พวกที่เคยโดนคดีทุจริต ลงสู่สนามการเมืองตลอดชีวิต โดยอาจเขียนไว้ในรธน.ฉบับใหม่ตามกรอบ รธน.ชั่วคราว ม.35(4) ทำให้พวกบรรดาลิ่วล้อต่างออกดิ้นพล่าน ไม่ว่าจะเป็น ยรรยง พวงราช อดีตปลัดฯพาณิชย์ ที่ได้ดิบได้ดีเคยได้รับการสนับสนุนให้เป็นถึง รมช.พาณิชย์ก็ออกมาปกป้อง "นายหญิง"อ้างว่าไม่ต้องรับผิด คนที่ผิดน่าจะเป็นระดับ"พวกกระจอก"ที่ไปตรวจสอบสต็อกข้าวมากกว่า คือถ้าพูดแบบทุเรศมันก็ฟังขึ้น ถ้าบอกว่าควาเสียหายระดับ 6-7 แสนล้านบาท แล้วต้องให้พวกปลายแถวปลาซิวปลาสร้อยต้องมารับโทษ ขณะที่ระดับสั่งการนโยบายไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรเลยหรือ แบบนี้มันใช้ปากหรืออะไรพูดหือ ยรรยง !!
00 กลับมาจากไปเยือนจีน(22-23ธ.ค.)ถึงไทยแล้วสำหรับ นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มองในแง่ยุทธศาสตร์ถือว่าโอเคที่เลือกจีนเป็น"หุ้นส่วน"เอาไว้ต่อรองกับสหรัฐฯและตะวันตกที่เรื่องมากนัก ขณะที่เกมนี้เรามีแต่ได้กับได้ และที่สำคัญเป็นการคบกันแบบ"แนบสนิท"เพราะไทยกับจีนไม่เคยมีเรื่องบาดหมาง เหมือนอย่างเพื่อนบ้านรายอื่นที่มีปัญหากันในหมู่เกาะทะเลจีนใต้ มีแต่ความชื่นมื่นดุจญาติมิตร ความหมายก็คือจีนก็อยากคบไทย ไทยก็อยากได้จีนในเรื่องความช่วยเหลือด้านตลาดส่งออก เทคโนฯ ดังนั้นจังหวะเสียบเข้าไปในเวลานี้ถือว่าถูกที่ถูกเวลา ยังเป็นการแสดงให้ตะวันตกได้เห็นว่า"เราก็ไม่ง้อ"
00 น่าจับตาด้วยความระทึกใจไม่น้อยก็คือ"สถานการณ์ช่วงปีใหม่"แม้ว่าตามข่าวจะมีการยืนยันว่า"ไม่มีความเคลื่อนไหว"อะไร แต่ก็นั่นแหละในช่วงเวลาแบบนี้แหละพวก"ชั่ว"มันชอบสร้างสถานการณ์เพื่อบั่นทอนความเชื่อมั่น ทำลายบรรยากาศ แต่ถึงอย่างไรเชื่อว่าการบูรณาการกับแบบครบวงจรทั้งกองทัพและตำรวจ หน่วยข่าวกรองเท่าที่มี ถือว่าเวลานี้อยู่ในมือของ "พี่ใหญ่"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หมดแล้ว เชื่อว่าคงไม่มีทางรอดหูรอดตาไปได้ เรื่องแบบนี้ต้องเอาใจช่วยและช่วยกันเป็นหูเป็นตาอย่าให้เกิดเหตุ เพราะนี่คือเรื่องของบ้านเมืองส่วนรวมต้องช่วยกัน เรื่องอื่นให้เก็บไว้ก่อน !!