ผบ.ทบ. ยังไม่ได้รับรายงานทหาร อุ้มรีดเงิน 2 สามีภรรยายูเครน หากผิดจริงต้องลงโทษอย่างจริงจัง ส่วนการลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อติดตามความคืบหน้างานแก้ไขปัญหาความไม่สงบ และให้กำลังใจกำลังพล พร้อมกำชับให้ช่วยเหลือประชาชนที่ประสพปัญหาน้ำท่วม คุมเข้มช่วงปีใหม่
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ระหว่าง เดินทางไปที่ จ.ปัตตานี เพื่อตรวจเยี่ยมให้ขวัญและกำลังใจกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ และติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมทหารสังกัดมณฑลทหารบกที่ 41 ที่อุ้มรีดเงิน 2 สามีภรรยาชาวยูเครนที่ จ.ภูเก็ต พร้อมอาวุธปืนว่า ยังไม่ได้รับรายงานที่ชัดเจนในเรื่องดังกล่าว ซึ่งต้องขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน ทั้งนี้ โดยพื้นฐานทางเจ้าหน้าที่ที่กระทำความผิดเป็นสิ่งที่กองทัพจะไม่ดูแล และต้องทำโทษอย่างเต็มที่ โดยได้คาดโทษไว้แล้วว่าการทำงานกับประชาชนเราจะต้องให้ความสุขกับประชาชน ใครทำไม่ดีต้องใช้กฎหมายและระเบียบวินัยทางทหารลงโทษอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหม และกองทัพบกได้จัดทำหลายโครงการที่มอบความสุขให้กับประชาชนตลอดทั้งปี สิ่งหนึ่งที่ต้องมอบให้กับประชาชนคือการทำความดีให้ประเทศชาติและการดูแลประชาชน ตั้งใจทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต รวมถึงการจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่างๆ ต้องเป็นไปตามระเบียบอย่างถูกต้อง ซึ่งได้กำชับกับกำลังพลไปแล้ว ส่วนที่อาจจะมีกำลังพลไม่ดีอยู่บ้างนั้น ตนก็ยอมรับว่ากองทัพบกมีกำลังพลเป็นจำนวนมาก กว่า 230,000 นาย ที่มีทั้งดีและมีคนที่นอกลู่นอกทาง ดังนั้น ใครที่ทำไม่ดีต้องลงโทษอย่างจริงจัง
พล.อ.อุดมเดช ยังกล่าวถึงการลงพื้นที่ภาคใต้ในครั้งนี้ ว่า เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ และรับทราบโครงการใหม่ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในแผนงานงบประมาณประจำ 2558 เช่น โครงการอ่าวปัตตานี ที่ตื้นเขินซึ่งเป็นความเดือดร้อนของประชาชนมานาน โดย กอ.รมน. เห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องขับเคลื่อน วันนี้จะได้รับฟังความเห็นจากฝ่ายต่างๆ รวมทั้งความคืบหน้าการก่อสร้างถนนทั้ง 37 สายใน 3 จังหวัด โดยใช้ยางพาราเป็นส่วนผสม ซึ่งเป็นโครงการค้างงบเก่าปีที่แล้ว จะได้เร่งรัดให้แล้วเสร็จ เพราะเป็นความต้องการของประชาชน
ส่วนงานด้าน 7 กลุ่มงาน โดยเฉพาะการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่จะต้องเร่งรัดให้เกิดความเรียบร้อยเพราะว่า วันนี้เข้าสู่ไตรมาส 3 แล้วที่จะต้องมีการประเมินเพื่อจะได้ปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น ได้มีการจัดตั้งคณะติดตามในพื้นที่แล้วและจะต้องมีคณะติดตามจากส่วนกลางด้วย ไม่ได้เป็นการจับผิด แต่จะมาช่วยทำให้ดีขึ้น
อันสุดท้ายเพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ด้วยในโอกาสปีใหม่ ทุกคนตั้งใจทำงาน สถานการณ์ขณะนี้ดีขึ้นตามลำดับและหวังว่าจะดีขึ้นต่อไป
สำหรับมาตรการควบคุมสิ่งผิดกฎหมายตามชายแดนในช่วงเทศกาลปีใหม่ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ได้กำชับเหมือนกันทุกปี ทุกแนวชายแดนทั่วประเทศ ไม่เฉพาะจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะเรามีกองกำลังทหารทำงานอยู่แล้วก็จะกำชับให้ทำงานเข้มข้นขึ้น รวมทั้งความปลอดภัย เรื่องยาเสพติด การลักลอบแรงงานต่างด้าว
ส่วนความคืบหน้าเรื่องพูดคุยสันติภาพได้มีการดำเนินการอยู่แล้วซึ่ง พล.อ.อัศรา เกิดผล หัวหน้าทีมพูดคุยสันติสุขกำลังดำเนินการอยู่ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนทำความเข้าใจกันระหว่างผู้อำนวยความสะดวก ส่วนในระดับพื้นที่ทำมาอยู่แล้วก่อนที่จะมีการเปิดเผยเพื่อให้เกิดความเข้าใจและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพูดคุย เราไม่ได้หวังให้เกิดการต่อสู้ แต่จะต้องเสริมสร้างให้เกิดความเข้าใจกัน แต่ยังไม่มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานการพูดคุยสันติสุขในพื้นที่ เพราะได้มอบหมายให้ทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าดำเนินการอยู่แล้ว