ปัตตานี - กลุ่มพลังมวลชนสตรี หญิงหม้าย เด็กกำพร้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ ร่วมกิจกรรมเดินรณรงค์เรียกร้องให้ยุติความรุนแรงทุกรูปแบบต่อเด็กและสตรี เพื่อสร้างสันติสุขในพื้นที่
วันนี้ (22 พ.ย.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงแรมมายการ์เดนส์ปัตตานี กลุ่มพลังมวลชนในนามเครือข่ายผู้หญิงยุตความรุนแรงแสวงสันติภาพ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งประกอบด้วย แกนนำ สตรี เด็กเยาวชน และครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประมาณ 500 คน ได้ร่วมกันเดินรณรงค์เพื่อยุติความรุนแรงทุกรูปแบบ เนื่องในโอกาสวันที่ 25 พฤศจิกายน เป็นวันขจัดความรุนแรงต่อสตรีสากล ประจำปี 2557
ซึ่งนำโดย นางรอซิดะห์ ปูซู ประธานเครือข่ายผู้หญิงยุติความรุนแรงแสวงสันติภาพ 3 จชต. นางสุไพ แก้วสุวรรณ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดปัตตานี และคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จ.ปัตตานี กลุ่มพลังมวลชนดังกล่าวได้เดินรณรงค์จากโรงแรมมายการ์เดนส์ ไปตามเส้นทางถนนเจริญประดิษฐ์ สู่หอประชุม ม.อ.ปัตตานี ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร หลังจากนั้น ได้จัดกิจกรรม “รวมพลังผู้หญิง เด็ก เยาวชนชายแดนใต้ ยุติความรุนแรงทุกรูปแบบ” โดยมี พล.ต.อัตภเดช มาถนอม ที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้แทนแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานเปิดงาน นายขวัญชาติ วงศ์ศุรานันทร์รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐเข้าร่วม
ภายในงานได้มีการเสวนา “เรา..จะยุติความรุนแรงและสร้างสันติภาพได้อย่างไร กรณีความขัดแย้งชายแดนใต้” โดย คุณรอซิดะห์ ปูซู ประธานเครือข่ายผู้หญิงฯ พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา ผอ.ศูนย์สุขภาพจิต 12 นางปาตีเมาะ สะดียามู ผู้อำนสยการสำนักงานบริหารกลาง ศอ.บต. น.ส.นูรีดา ปานาวา นักศึกษาปี 1 ม.อ.ปัตตานี นายอิลฟาน อาลีอิสเฮาะ ประธานสภาเด็กและเยาวชน จ.ปัตตานี นางรอมือละห์ แซเยะ ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ ดำเนินรายการโดย คุณพัชรา ยิ่งดำนุ่น สถานีวิทยุ ม.อ.ปัตตานีปัตตานี พร้อมมอบทุนการศึกษาเด็กกำพร้าที่ได้รับผลกระทบ 3 จชต. “โครงการใต้ฟ้าเดียวกัน” จำนวน 894 ทุน เป็นเงิน 5,076,000 บาท โดย อ.ปิยะ กิจถาวร รองเลขาธิการ ศอ.บต.
คุณรอซิดะห์ ปูซู ประธานเครือข่ายผู้หญิงยุติความรุนแรงแสวงสันติภาพ 3 จชต. กล่าวว่า ปัญหาความไม่สงบที่เกิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2548 เป็นต้นมา ได้ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ในทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา ขนบธรรมเนียมประเพณี ในรอบ 11 ปี ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บมากกว่า 18,206 คน มีหญิงหม้ายประมาณ 2,800 กว่าคน และมีเด็กกำพร้ามากกว่า 6,000 คน และสิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือว่า มีผู้หญิง และเด็กตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงจากสถานการณ์ความไม่สงบโดยตรงมากขึ้น ทำให้ผู้หญิงและเด็กกำพร้าเหล่านี้ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ขาดผู้อุปการะดูแล
นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้หญิง เด็ก เยาวชน ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังต้องเผชิญต่อปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ปัญหายาเสพติด ความรุนแรงในครอบครัว การตั้งครรภ์ไม่พร้อม ปัญหาด้านการศึกษา ความเสมอภาคระหว่างเพศ ทำให้ สตรี เด็กและเยาวชนตกเป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์ที่ผิดกฏหมาย การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เพื่อเชิญชวนให้ทุกฝ่ายได้แสดงเจตนารมณ์ในการที่จะยุติความรุนแรงทุกรูปแบบที่เกิดต่อเด็ก เยาวชน สตรีและร่วมกันสร้างจิตสำนึกให้เกิดความตระหนักในการปกป้องคุ้มครองไม่ให้เกิดความรุนแรงรวมทั้งช่วยกันส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน สตรีได้มีโอกาสในการแสดงออกถึงความรู้ความสามารถ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาแก้ไขปัญหาของชุมชน และสังคม
พล.ต.อัตถเดช มาถนอม ที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2547 เป็นต้นมา ได้ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในทุกด้าน ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และขนบธรรมเนียมประเพณี
ซึ่งตลอดระยะเวลา 11 ปีกว่าที่ผ่านมา เราจะพบว่ามีข้าราชการ ทั้งตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พลเรือนอาสาสมัครต่างๆ รวมทั้งประชาชนทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นสตรี เยาวชน เด็ก ได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต บาดเจ็บ พิการเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐก็ได้พยายามที่จะเข้าไปแก้ไขปัญหา ดูแลความสงบเรียบร้อยในทุกด้าน เพื่อให้ประชาชนอยู่ด้วยความสงบสุข รวมทั้งการช่วยเหลือเยียวยาสำหรับผู้ที่ได้รับผลการทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ การแก้ไขปัญหาความไม่สงบเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกัน ทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม องค์กรเอกชน และประชาชน ผมเชื่อว่าหากทุกฝ่ายได้ร่วมมือกันอย่างจริงจังปัญหาภาคใต้จะต้องยุติโดยเร็ว
