“ประยุทธ์” เผยประชุมรับมือหลังค่าเงินรัสเซียอ่อนค่าแล้ว ยันยังไม่กระทบไทย รับมหาอำนาจขัดแย้ง ส่งออกกระทบ เล็งเพิ่มตลาดชุมชน เปิดตลาดเกษตร ชี้ต้องสอนการตลาดเกษตรกร เลิกให้คนกลางกด “ผู้พันไก่อู” แจงนายกฯ ลงใต้พร้อมคุยชาวสวน แจงราคายางต่ำ-สร้างศูนย์ยางพารา แนะรวมกลุ่มเพื่อให้ตอบโจทย์ได้
วันนี้ (18 ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่ค่าเงินของรัสเซียอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง ได้มีการประชุมเพื่อรับมือหรือไม่ว่า มีการประชุมทุกครั้ง เวลาประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็มีการพูดถึงเรื่องเศรษฐกิจทุกครั้งว่าเราจะแก้ปัญหาอย่างไร เพราะมี 3 ระดับ คือ เราต้องมองนอกประเทศ ประเทศเพื่อนบ้านและในประเทศ ต้องนำทุกอย่างมาสัมพันธ์กัน อะไรที่ได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์ก็ต้องมีมาตรการเสริม วันนี้ยังไม่มีผลกระทบอะไร
เมื่อถามว่า จะมีการวางแผนอะไรหรือไม่ หากมีผลกระทบต่อประเทศไทย นายกฯ กล่าวว่า รายได้ประเทศจะลดลง เพราะการค้าขายการส่งออกทั้งหมดอยู่ที่ต่างประเทศ 70 เปอร์เซ็นต์ เมื่อประเทศมหาอำนาจขัดแย้งกัน เราจะส่งออกกับใครหรือประเทศที่มีฐานะเศรษฐกิจตกต่ำ เขาจะซื้อเราไหม เมื่อไม่ซื้อสินค้ารายได้ประเทศก็ลดลง การเก็บภาษีก็น้อยลง เพราะฉะนั้นที่ประมาณการไว้ก็ลดลงรวมถึงกลไกต่างๆ ตรงนี้คือปัญหาซึ่งเราก็แก้ทุกวัน วันนี้ตนได้สั่งเพิ่มตลาดชุมชน ตลาดท้องที่ รวมถึงกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ก็ได้นำผลิตภัณฑ์ จากแม่บ้านในจังหวัดชายแดนภาคใต้มาเป็นของขวัญปีใหม่ด้วย ทั้งนี้ยังได้สั่งการให้มีการเปิดตลาดสินค้าเกษตรที่เกษตรกรจะนำสินค้ามาขายเองมาตั้งราคา รัฐและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นก็จะไปตั้งกลไกเรื่องแพกเกจสินค้าให้ดูดี หากคนนิยมก็อาจขายได้ราคาดีกว่าปกติ เพราะคนต้องการของสด ของออแกนิก แม้กระทั่งปลาก็นำมาขายปลีก วันนี้เราต้องสอนให้คนเรียนรู้เรื่องการตลาด เพราะชาวนาชาวไร่ไม่รู้ ผลิตมาเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับคนกลางที่มารับ และเป็นคนกำหนดราคา เกษตรกรไม่ได้อะไร
ด้าน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไป จ.พังงา ในวันที่ 26 ธ.ค.นี้ เพื่อร่วมงานรำลึก 10 ปี เหตุการณ์สึนามินั้น ทางนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปพูดคุยเรื่องต่างๆ เช่น กรณีราคายางตกต่ำกับเกษตรกรชาวสวนยาง, การสร้างศูนย์แปรรูปยางพาราครบวงจร (Rubber city), การเชื่อมท่าเรือปากบารา, การเจรจาสันติภาพกับทางมาเลเซีย ซึ่งขณะนี้ต้องจัดลำดับไล่เรียงประเด็นสำคัญก่อน เนื่องจากต้องการพูดคุยในแต่ละเรื่องโดยให้ลึกลงไปถึงรายละเอียด เพราะหากจะพูดคุยในทุกๆกรณีเลยนั้นอาจทำให้ไม่เกิดประสิทธิภาพ เนื่องจากเงื่อนไขด้านเวลา
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของกลุ่มพี่น้องเกษตรกร ท่านนายกฯ ปรารภไว้ว่า พี่น้องเกษตรกรจะต้องรวมกลุ่มกันให้ติด หากท่านคิดว่ามีแนวทางที่ตรงกันก็ขอให้รวมกลุ่มกันมา แต่หากมีแนวทางที่ไม่ตรงกันก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้รวมกลุ่มที่มีแนวทางเดียวกันมา อย่าแยกมาเป็นรายย่อย เพราะหากมาเป็นรายย่อย ไม่ว่าจะประชุมแก้ปัญหาอย่างไรก็คงไม่สามารถตอบโจทย์พี่น้องเกษตรกรได้