“ศุภชัย” โนคอมเมนต์ พรรคการเมืองสุมหัวลดอำนาจองค์กรอิสระ หวั่นถูกด่ามีส่วนได้เสีย

ประธาน กกต. ไม่ขอวิจารณ์กรณีพรรคการเมืองสุมหัวลดอำนาจองค์กรอิสระ บอกเป็นผู้มีส่วนได้เสีย หวั่นถูกด่าหวงอำนาจ แต่การลดวาระการดำรงตำแหน่งไม่มีผลต่อการพิจารณาคดี รอให้ความเห็นทุกฝ่ายตกผลึก ด้านเลขาธิการ กกต. เชื่อ กมธ. ยกร่างฯ จะพิจารณาด้วยความรอบคอบ

วันนี้ (5 ธ.ค.) นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยถึงกรณีที่ 23 พรรคการเมืองได้เสนอความคิดเห็นในการยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยให้ปรับปรุงกระบวนการสรรหากรรมการองค์กรอิสระใหม่ให้มีความหลากหลาย ลดวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการองค์กรอิสระ ว่า ในฐานะที่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องดังกล่าวก็คงไม่สามารถให้คำวิจารณ์ได้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จะคิดเห็นอย่างไร ถ้าจะเป็นการปรับปรุงให้ดีขึ้นก็เห็นด้วย และไม่ได้ติดใจอะไร เพราะเหตุผลประการสำคัญก็คือประเทศชาติจะต้องได้ประโยชน์

“ส่วนตัวแล้วก็คงจะไม่ขอวิจารณ์ในข้อเสนอดังกล่าว เพราะถ้าพูดไปแล้วก็อาจจะมีผลสะท้อนกลับมาว่าเป็นการหวงอำนาจ” นายศุภชัย กล่าว

ส่วนในกรณีที่เสนอให้มีการลดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งจาก 9 ปี เป็น 5 ปี นั้น ก็คงจะไม่มีผลต่อการพิจารณาคดี เพราะในการดำเนินคดีทุกคดีก็ต้องเป็นไปอย่างรวดเร็วและเป็นธรรมและไม่ควรจะมากกว่า 1 ปีอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ ก็ไม่ขอไปก้าวล่วงวิจารณ์หรือไปโต้แย้งว่าถ้าลดระยะเวลาดำรงตำแหน่งแล้วจะดีหรือไม่อย่างไร เพราะไม่ต้องการให้มองว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ทั้งนี้ เข้าใจว่า การปฏิรูปในด้านต่างๆ ต้องเป็นการปรับปรุงให้ดีขึ้นอันไหนที่ดีแล้วก็ต้องดีขึ้นไปอีก

ประธาน กกต. กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ ที่มีการเสนอไปยัง สปช. และ กมธ. ยกร่างฯ ยังไม่ตกผลึก จึงต้องรอให้ความคิดเห็นจากทุกๆ ด้านตกผลึกเป็นรูปเป็นร่างก่อนแล้วค่อยมาพูดกันว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไร ถ้าตนไปแสดงความขัดแย้งไม่เห็นด้วยก็จะทำให้การปฏิรูปมีความล่าช้า ซึ่งแน่นอนว่าย่อมมีผลทำให้การเลือกตั้งช้าตามลงไปด้วย

ด้าน นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. ก็ได้ระบุถึงในกรณีเดียวกันว่า ในเรื่องดังกล่าวนั้นเป็นข้อเสนอแนะจากทางพรรคการเมือง ซึ่งในเรื่องของระยะเวลาที่เสนอให้ลดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งคงไม่มีผลอะไร แต่ในส่วนอื่นก็ไม่ขอไปวิจารณ์ มองว่าในเรื่องนี้ก็ต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณาเพื่อความเหมาะสมกันอีกสักระยะ และเมื่อกรอบรัฐธรรมนูญมีความชัดเจนออกมาแล้ว ก็คงต้องพิจารณากันด้วยความรอบครอบอีกครั้งหนึ่ง

สำหรับกระบวนการสรรหากรรมการในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญนั้น ที่ผ่านมา ก็มีความหลากหลายอยู่แล้ว และก็คิดว่า กมธ. ยกร่างฯ คงจะพิจารณาด้วยความรอบคอบ โดยคิดว่าน่าจะมีความชัดเจนขึ้นในวันที่ 19 ธ.ค. นี้ ซึ่งมองว่ายังมีเวลาให้ กมธ. ยกร่างฯ พิจารณากันอย่างรอบครอบอีกพอสมควรจนกว่าจะเป็นเรื่องที่ตกผลึก