xs
xsm
sm
md
lg

มทภ.1 แฉ 5 นศ.ขอนแก่น รับค่าจ้าง 5 หมื่นป่วน “ประยุทธ์” ลงพื้นที่อีสาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แม่ทัพภาคที่ 1 ย้ำยังจำเป็นต้องคงกฎอัยการศึกเพื่อให้บ้านเมืองเรียบร้อย รัฐบาล คสช.ไม่ได้เป็นเผด็จการ เน้นใช้กฎหมายปกติเป็นหลัก แฉนักการเมืองขอนแก่นจ้าง 5 หมื่นให้นักศึกษา ม.ขอนแก่นชู 3 นิ้ว แย่งซีนนายกฯ ลงพื้นที่ ยังไม่เห็นหนังสือ “ยิ่งลักษณ์” ขอทัวร์ต่างประเทศช่วงปีใหม่ ทุกอย่างเป็นไปตามกติกา โฆษก คสช.เผยต้องทำความเข้าใจเพิ่มเติม หลังกลุ่มที่ใช้ชื่อว่าประชาคมจุฬาฯ เรียกร้องยกเลิกกฎอัยการศึก

พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะ ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (ผบ.กกล.รส.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มประชาคมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อประชาชน ออกแถลงการณ์ให้รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยุติการประกาศใช้กฎอัยการศึกว่า กลุ่มดังกล่าวนั้นเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ ซึ่งทาง คสช.ได้มีการพูดคุยกับอธิการบดีและคณบดีของมหาวิทยาลัยดังกล่าวแล้ว เพื่อทำความเข้าใจกับนิสิตกลุ่มดังกล่าวว่ารัฐบาล และ คสช.ไม่ได้ดำเนินการแบบเผด็จการ แต่ขณะนี้บ้านเมืองไม่ได้อยู่ในภาวะปกติ ปัจจุบันเราต้องพูดคุยกับผู้ที่มีความคิดเห็นแตกต่าง แต่ก็มองในแง่บวกว่าทุกคนมีความหวังดีต่อประเทศ แต่ในเวลานี้ต้องยังไม่มีเรื่องการเมือง ต้องมีแต่เรื่องของความถูกต้องเป็นหลักมากกว่าความถูกใจ เพราะบ้านเมืองจะได้ไม่บิดเบี้ยว ตอนนี้อยู่ที่คนไทยว่าจะเอาอย่างไร

พล.ท.กัมปนาทกล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น 5 คนที่ออกมาชูนิ้วแสดงสัญลักษณ์ในขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่นในช่วงที่ผ่านมาว่า ที่ผ่านมา คสช.ได้มีการพูดคุยกับอธิการบดีและคณบดีของมหาวิทยาลัยดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ซึ่งนักศึกษาบางกลุ่มมีกลุ่มการเมืองเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เราต้องช่วยกัน เช่นกรณีนักศึกษาที่ จ.ขอนแก่น จากการที่ตนได้ดำเนินการหาข่าวพบว่ากลุ่มนักศึกษาดังกล่าวถูกว่าจ้างมา เพื่อต้องการแย่งชิงพื้นที่สื่อของนายกรัฐมนตรี โดยได้รับการว่าจ้างมาจำนวน 50,000 บาทจากนักการเมืองในพื้นที่ และหนึ่งในนักศึกษามีบิดาเป็นทนายความ แต่ตนติดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร

“การที่หลายฝ่ายพยายามเรียกร้องให้ยกเลิกกฎอัยการศึกนั้น ยืนยันว่ากฎอัยการศึกมีความจำเป็นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ทหาร แต่จะใช้กฎหมายปกติเป็นหลักโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ทำงานหลัก ส่วนงานเร่งด่วนจะให้เจ้าหน้าที่ทหารดำเนินการเท่านั้น อีกทั้งกฎอัยการศึกไม่ได้เป็นอันตรายต่อคนดี เราต้องการดำเนินการด้วยความถูกต้อง”

พล.ท.กัมปนาทยังกล่าวถึงกระแสข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือถึง คสช. ขออนุญาตเดินทางไปต่างประเทศช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 ว่า ตนยังไม่เห็นหนังสือดังกล่าว แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎกติกาของบ้านเมือง ซึ่งไม่มีอะไรมาก ทั้งนี้การพิจารณาว่าจะอนุญาตหรือไม่ขึ้นคณะกรรมการดำเนินการเป็นผู้พิจารณา

ส่วนที่มีความกังวลว่าการเดินทางไปต่างประเทศของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเป็นการเดินทางไปแล้วไม่กลับ เพราะในช่วงนั้นทางสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะมีการพิจารณาดำเนินกระบวนการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ตนไม่เชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางไปต่างประเทศแล้วจะไม่เดินทางกลับมาประเทศไทย อย่างไรก็ตามก ารดำเนินการทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎ กติกาและมีมาตรฐานเดียวกัน เพื่อเดินหน้าประเทศไทย หากใช้สองมาตรฐานก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก

ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก และทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า การที่กลุ่มประชาคมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อประชาชน ออกแถลงการณ์ให้รัฐบาลและคสช.ยุติการประกาศใช้กฎอัยการศึกนั้น จะต้องมีการทำความเข้าใจแลกเปลี่ยนข้อมูลกันและกันให้มากขึ้น ในแต่ละประเด็นอาจมีมุมมองที่ไม่ตรงกันโดยเฉพาะในช่วงเวลาพิเศษแบบนี้ ตนมั่นใจในมุมการรักษาความสงบเรียบร้อยโดยเฉพาะต่อเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินนั้นส่งผลบวกมาอย่างต่อเนื่อง เช่นเรื่องอาชญากรรมต่างๆ ที่ลดลงไปมากเมื่อมีเจ้าหน้าที่มาดูแลความเรียบร้อยมากขึ้น

ทั้งนี้ การแสดงออกใดๆ ของคนในสังคมพยายามประคับประคองให้ออกมาในแนวเชิงสร้างสรรค์ สามารถจัดระเบียบและเกิดความเรียบร้อยสังคมได้ดีขึ้น การดำเนินชีวิตประจำวันปกติของคนในสังคมส่วนใหญ่ ที่สัมผัสได้จริงๆ ไม่ว่าจะวัยเรียน วัยศึกษา หรือวัยทำงานก็ยังไม่พบว่าได้รับผลกระทบใดๆ แต่ คสช.ก็จะพยายามหาข้อมูลเพิ่มเติมให้มากขึ้น

“เรื่องการบังคับใช้กฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ใช้กฎหมายบ้านเมืองปกติก่อนเป็นลำดับแรกเสมอ ไม่ใช่จะอ้างอิงใช้กฎอัยการศึกเสมออย่างที่บางคนเข้าใจ ยืนยันว่าใช้เพียงบางส่วนตามความจำเป็นเท่านั้น ไม่อยากให้ไม่เห็นด้วยในเชิงความรู้สึกหรือในเชิงกระแสตามกัน อยากให้มองโดยใช้หลักเหตุผลปัจจัยองค์ประกอบในทุกๆ มิติด้วย”


กำลังโหลดความคิดเห็น