อนุ กมธ.นิติธรรม ศาล และการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐฯ เตรียมเสนอ กมธ.ยกร่าง บัญญัติให้ตั้งสภาตรวจสอบภาคประชาชนทั้ง 77 จังหวัด ใน รธน.ใหม่ หวังให้เช็คบิลพวกทุจริต คอร์รัปชั่นระดับภูมิภาค และท้องถิ่น
นายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ (สปช.)ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.)พิจารณากรอบการจัดทำรัฐธรรมนูญ คณะที่ 8 ภาค 3 นิติธรรม ศาล และการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ หมวด 2 การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ องค์กรอิสระ องค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ และองค์กรตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ เปิดเผยว่า ในประเด็นเรื่องการตรวจสอบการใช้อำนาจ คณะอนุ กมธ. มีแนวคิดจะเสนอให้มีการตั้ง “สภาตรวจสอบภาคประชาชน” ทั้ง 77 จังหวัด เพื่อให้อำนาจประชาชนโดยตรง ในการตรวจสอบเรื่องทุจริต การคอร์รัปชั่น การใช้อำนาจรัฐโดยมิชอบ การเลือกตั้ง การใช้เงินไม่เป็นธรรมทั้งงบประมาณในระดับภูมิภาค และระดับท้องถิ่น ซึ่งการตรวจสอบของสภาภาคประชาชนจะไม่ไปซ้ำซ้อนกับ ป.ป.ท. เพราะเป็นหน่วยงานของรัฐ ส่วน ป.ป.ช.ก็ทำหน้าที่ในส่วนกลาง และที่ผ่านมาการพิจาณาคดีล่าช้า เพราะต้องส่งเรื่องมาให้ส่วนกลางพิจารณา
นายไพบูลย์ กล่าวว่า โครงสร้างของสภาตรวจสอบภาคประชาชน ในแต่ละจังหวัดนั้นเพื่อให้ประชาชนได้เข้ามาตรวจสอบโดยตรง ตรงนี้จะมีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จังหวัด ทำหน้าที่เป็นหน่วยธุรการ มีหน้าที่ทำงานตามมติสภาตรวจสอบภาคประชาชน ซึ่งในสภาตรวจสอบภาคประชาชน จะมี 50 คน ขึ้นไปถึง 100 คน โดยเฉพาะใน กทม.อาจมี 100 คน เพราะเป็นจังหวัดใหญ่
ส่วนที่มาของสมาชิกสภาตรวจสอบภาคประชาชน จะมาจาก 2 ส่วนคือ 1.มาจากประชาชนคัดเลือก 2.องค์กรภาคประชาชยเสนอชื่อเข้ามา แล้วมาคัดเลือกโดยวิธีการสุ่ม 1 ใน 3 ซึ่งจะมี กกต.จังหวัดมาคอยดูวิธีการคัดเลือกที่คล้ายกับการจับสลาก แล้วจะมีการผลัดเปลี่ยนการทำหน้าที่ทุก 1 ปี เพื่อป้องกันไม่ให้มีการบล๊อคตัวบุคคลเข้ามาทำงาน ขณะที่เงินเดือนจะไม่มี มีเพียงเบี้ยประชุมเท่านั้น
“ผมเชื่อว่าถ้ามีสภาตรวจสอบภาคประชาชน ทั้ง 77 จังหวัดแล้วจะทำให้การจตรวจสอบดีขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในระดับท้องถิ่น และจะถือเป็นครั้งแรกในรัฐธรรมนูญของประเทศไทยที่มีรูปแบบอย่างนี้ เพราะจะคล้ายๆ กับในต่างประเทศที่ทำกับแบบระบบลูกขุน โดยอนุ กมธ.จะนำแนวคิดนี้เสนอต่อ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญชุดใหญ่ที่มี นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธาน กมธ. ในวันที่ 1 ธ.ค.นี้เพื่อพิจารณาต่อไป ”