“ประยุทธ์” เผยเยือนลาว-เวียดนามเรียบร้อยดี แจงหารือสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ รอมาเลย์เห็นชอบโครงสร้างคณะพูดคุยสันติภาพ หลังไทยอนุมัติหลักการแล้ว อุบไต๋ชื่อ หน.ทีม อ้างไม่ได้ตั้งใครส่งเดช พร้อมขอเวลาแก้ราคาหวยแพง แจงแก้ไม่ได้ในวันเดียว ย้อนถามสื่อให้ใช้อำนาจสั่งรื้อโควตาใหม่ ใครรับผิดชอบ 8 แสนคนที่ขาย
วันนี้ (28 พ.ย.) ที่ท่าอากาศยาน บน.6 ดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เดินทางกลับจากการเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และเปิดเผยว่าการเดินทางไปต่างประเทศในครั้งนี้ถือเป็นการเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการในฐานะนายกรัฐมนตรี มีความเรียบร้อยดี มีการหารือเรื่องการลงนามสัญญา MOU ด้านการท่องเที่ยววัฒนธรรม และมีการติดตามความก้าวหน้าของรัฐบาลชุดที่ผ่านมาว่าเคยทำอะไรไปแล้วบ้าง เพื่อเตรียมสานงานต่อจากเดิมและคิดหาโครงการใหม่ๆเพื่อดำเนินการ โดยในปีหน้าความร่วมมือจะเน้นการทำงานด้านสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีหารือเรื่องความมั่นคงระดับประเทศ ในฐานะที่ไทยเป็นผู้ประสานงานอาเซียน เพื่อให้มีความปลอดภัยและเกิดประโยชน์ให้มากที่สุด และมีการหารือเพื่อจัดเตรียมการประชุมสัดยอดผู้นำแผนงานการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระหว่างวันที่ 19-20 ธันวาคม 2557 นี้
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงความคืบหน้าการแต่งตั้งคณะพูดคุยสันติสุขว่า ยังไม่ได้ไปเยือนมาเลเซีย จะไปสิ้นเดือน พ.ย.นี้ อนุมัติหลักการส่วนของโครงสร้างที่ต้องประกอบด้วยส่วนไหนบ้าง และจะนำตรงนี้ไปคุยกับมาเลเซียก่อนว่าโอเคกับเราหรือไม่ เพราะเขาอยู่ในฐานะผู้อำนวยความสะดวกที่ต้องไปถามตัวแทนจากกลุ่มต่างๆ ที่จะมาคุยว่าโอเคหรือไม่ด้วย ถ้าโอเคทางมาเลเซียก็จะจัดทีมมาร่วม การทำงานเป็นรูปแบบนี้ ส่วนจะประกอบไปด้วยใครนั้นขณะนี้ยังไม่มีชื่ออะไรทั้งนั้น มันไม่สำคัญว่าใครจะเป็น ปัญหาอยู่ที่ว่าจะพูดอะไรกัน เพราะไม่ใช่ว่า ก.ไปพูดเรื่องด้วย ข.ไปพูดเรื่องตัวเอง แต่ต้องพูดตามนโยบาย คือ การแสวงหาสันติสุขอย่างยั่งยืนในพื้นที่ภาคใต้ เมื่อถามว่า พอเปิดเผยชื่อได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า มันไม่สำคัญว่าเป็นใคร ปัญหาอยู่ที่ว่าเขาจะรับใคร ไม่ใช่ตั้งส่งเดชไป เมื่อถามว่าแสดงว่าต้องรอผู้นำมาเลเซียเห็นชอบก่อนใช่หรือไม่ นายกฯ ตอบย้อนว่า “ผู้นำเกาหลีใต้มั้ง”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา 80 บาทว่า การค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลมันขายมาจากไหน กองสลากหรือตลาดสด เงินที่ขายได้จากสลากกินแบ่งรัฐบาล ก็เอาไปใช้ในส่วนการกุศลและงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งตนก็พร้อมลดราคาต้นทุนสลากที่ออกจากกองสลากกินแบ่งรัฐบาล จาก 80 บาท มาเป็น 70 บาท มันออกมากี่ชาติแล้ว มันมีสัญญากี่ฉบับ วันนี้ก็แก้มา อะไรที่หมดสัญญา อะไรที่ต้องต่อสัญญาก็ต้องต่อ เพราะมีกติกาอยู่ อะไรที่ไม่ต้องต่อก็ไม่ต้องต่อ ถ้าทำวันนี้ทั้งหมด รื้อทั้งหมด ยุบทั้งหมด แล้วออกสลาก 60-70 บาท เงินเข้ารัฐลดลง รายจ่ายรัฐลดลง ตนไม่ได้อยากได้ตรงนี้ อยากได้รายได้จากเศรษฐกิจเพื่อให้เงินขึ้นมา แล้วตอนนี้เงินมันขึ้นทันไหม เดี๋ยวก็ต้องไปลดตรงนี้อีก พอลดตรงนี้เสร็จก็มีหลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นส่วนที่เป็นโควตาหรือรายปลีกก็ไปมองกันตรงนี้ พอเป็นโควตาก็มีสัญญา กินกันเป็นต่อๆ จาก 70 ไป 75 ไป 80 ไป 85 สุดท้ายก็ 90 บาท นี้ในกรุงเทพฯ พอขึ้นรถขี่จักรยานขายต่างจังหวัดเป็น 100 บาทค่าบริหารจัดการ
เมื่อถามว่าแล้วจะมีการแก้ไขอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็กำลังคิดอยู่นี้ไงเล่า กำลังหาทางว่าจะออกอย่างไร ไม่ใช่แก้ได้วันเดียวเข้าใจไหม ลอตเตอรี่มันมีกี่ปีแล้ว ถ้ายกเลิกวันนี้แล้วคนกี่แสนคนที่จะเดือดร้อน ตรงนี้คือความเดือดร้อนที่จะเกิดขึ้น ถ้าใช้อำนาจในการแก้ไขปัญหาทีเดียว คนขายลอตเตอรี่ 8 แสนคน ตนคิดถึงคนเหล่านี้ กำลังให้เขาไปทบทวนว่าจะให้ออกเท่าไร ให้คนเหล่านี้ได้กำไร ราคาอยู่ที่ 70-80 บาท แล้วกำหนดให้คนละสี มันต้องค่อยๆแก้กันไปอย่างนี้ ส่วนการลงทะเบียนผู้ค้าสลากรายย่อย คนไทยเวลาเรียกมาขึ้นทะเบียนไม่เคยมา แต่ถึงเวลาจะเอา สื่อต้องไปเขียนช่วยรัฐบาลว่า รัฐบาลจริงใจแก้ปัญหาลอตเตอรี่ ต้องการให้ราคาอยู่ที่ 80 บาท ทุกคนมีรายได้ ฉะนั้นขอความร่วมมือทุกคนมาลงทะเบียน
เมื่อถามว่า ราคา 80 บาทจะทำได้เมื่อไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เมื่อไรก็เมื่อนั้น ตนพูดแล้ว เดี๋ยวสื่อก็มาว่าเมื่อนั้นเมื่อนี้ การแก้ปัญหาด้วยการเร่งทุกอย่างมันไม่ได้ วันนี้อะไรเดี๋ยวกลับมาเรื่องลอตเตอรี่ กลับมาเรื่องเศรษฐกิจ ถ้าให้ตนแก้เร็วๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้ตนประกาศยกเลิกโควตาทั้งหมด แล้วบอกให้ 8 แสนคนมาหาสื่อ คิดอย่างตนคิด มันจะต้องมีคนได้คนเสีย ถ้าเอามันว่า 80 บาท ทำมากี่ชาติแล้วล่ะ ตนจะทำ แต่ให้เวลาหน่อย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องถึงการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริต ขณะนี้ให้กระทรวงยุติธรรมไปดำเนินการ โดยรัฐบาลจะติดตามความคืบหน้าปัญหาไม่ได้อยู่ตรงนี้ อย่ามาคอยจับผิด เห็นใจนะ เพราะใจคนมี 3 ส่วน 1. ใจคนที่เป็นเจ้าหน้าที่ 2. คนที่สมยอมที่ทำผิด เพราะต้องการได้ประโยชน์ 3. คนที่อยู่ข้างนอกก็ไม่ได้รู้อะไรกับเขา ก็ไม่รู้ว่าใครจะผิดจะถูกก็เลยเละจนถึงวันนี้ ต้องแก้ที่จิตใจของคน จิตใจทุกคนต้องให้ความเป็นธรรม ผู้ให้กับผู้รัจะต้องไม่ยึดเอาแต่ประโยชน์ แต่ถามว่าถ้าจะมีคนที่ทุจริต ตนจะรู้ได้อย่างไร มีโครงการตั้งเท่าไหร่ กี่ล้านโครงการดูไม่ทั่วหรอก ถ้าใครรู้หรือประชาชนเห็นก็แจ้งมา อย่าพูดลอยๆ พูดมาตรงๆ ไปหาหลักฐานมา หรือไปแจ้งคณะที่มีอำนาจในการตรวจสอบ จะได้ดำเนินการ อย่ามาพูดลอยๆ มาตำหนิติเตียนมีที่นั้นที่นี้ไม่มีหลักฐานระวังเขาจะฟ้องเอา
เมื่อถามว่า คณะกรรมการทุจริตดังกล่าว นายกฯ จะนั่งเป็นประธานเองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวสวนขึ้นมาทันทีว่า เป็นซิเป็น พูดไปแล้วไง ทำไมถ้าตนเป็นแล้วต้องรับผิดชอบใช่ไหม ที่ท่านถามครั้งนี้ไม่ว่าตนจะเป็นหรือไม่เป็นก็รับผิดชอบอยู่แล้ว เพราะตนเป็นนายกทุกเรื่องก็มาลงที่ตนหมด ไม่ต้องห่วงหรอก ไม่ต้องหาคนรับผิดชอบ รู้ว่าจะถามอะไรต่อไป
ส่วนกรณีที่ นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ออกมาพูดเรื่องกำหนดการเลือกตั้งจะมีขึ้นกลางปี 2559 ว่า ก็เป็นการประมาณการของท่านไป จะกี่ปีก็ว่ากันไปตามโรดแมป อยู่ที่พวกเราจะทำยังไงให้เป็นไปตามโรดแมป จะเอาสั้น จะเอายาวก็ได้ เมื่อถามว่า ขึ้นอยู่กับการร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายกฯ กล่าวด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียวว่า ไม่เกี่ยว ทำไมจะต้องพันกันไปหมด อะไรก็ยังไม่ออก อะไรก็ยังไม่ได้ทำ อะไรก็ยังไม่ได้ข้อยุติ จะต้องเกิดวันนั้น วันนี้ จะต้องจบยังไง จะไปเขียนอย่างนั้นอย่างนี้ ความขัดแย้งก็ต้องเกิดขึ้นอยู่อย่างนี้ตลอด รัฐธรรมนูญยังไม่ได้เขียนสักมาตราเป็นเพียงแค่การหารือกัน เป็นเพียงแค่ร้อยคนพันคน มีคณะกรรมการธิการอีกตั้ง 11 คณะ แต่ละคณะมีร่วม 20 คน แค่ 20 ความเห็นก็ตีกันยังไม่เลิกเลย ไหนจะรับฟังความเห็นข้างนอกอีกไม่รู้กี่เวที ไหนจะนักศึกษานักวิชาการอีก แบบนี้จะตีกันไหม นี้เหละที่ทุกคนบอกว่าอยากจะแสดงความคิดเห็น ก็เชิญมาให้แล้ว แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็เชิญมาไม่ได้ ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว จะเอายังไง พอไม่ให้แสดงความคิดเห็นก็หาว่าปิดกั้น พอให้พูดก็บอกไม่เอาไม่ชอบ เพราะให้พูดอยู่ในที่จำกัด เป็นแบบนี้แล้วจะเอายังไง
เมื่อถามย้ำว่า เรื่องนายสมหมายพูดถึงเรื่องการเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เขาบอกแล้วว่าพูดไปเอง และในที่ประชุมตนก็พูดว่าให้ทุกคนทำงานให้เร็ว เวลามีจำกัด ทำงานในเรื่องของตัวเองให้เสร็จ ทำไมล่ะ กำหนดการเลือกตั้งใครเป็นคนกำหนด คุณสมหมายหรือไง ต้องไปดูว่ารัฐธรรมนูญเสร็จหรือยัง กฏหมายลูกทำหรือยัง การมีการเลือกตั้งพร้อมหรือยัง เข้าใจหรือยัง เมื่อถามต่อว่า ความตั้งใจของนายกรัฐมนตรี คือให้มีการเลือกตั้งหลังจากนี้ภายใน1 ปีตามโรดแม็ปเดิมใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ก็ใช่ไงตามโรดแมป 1 ปี ไปนู้น เลือกตั้งคืออะไรต้องมีอะไรบ้าง ถ้าทำให้เสร็จได้ก็ทำไป มีอะไรก็ทำต่อให้เสร็จเร็ว ถ้าทำสร็จแล้ว เลือกพรุ่งนี้ตนก็พร้อม เอาไหม จะอะไรหนักหนาไม่เข้าใจ บ้านเมืองก็ปัญหาเยอะทับซ้อนกัน รู้บ้างไหมว่ามีปัญหาอะไรบ้าง ต้องมานั่งแก้นั้นแก้นี้ รู้บ้างไหม ต้องเดินหน้าไปยังไง ไม่ใช่มานั่งแคะนั่งเกาเรื่องไม่เป็นเรื่อง