“นายพลไก่อู” ย้ำนโยบายนายกฯ ให้ รมต.ลงพื้นที่ติดตามงานรัฐ ดูสิ่งที่ทำการบ้านมา ยังไม่ชัดนายกฯ ไปเชียงใหม่วันใด รับมีประเมินความสำเร็จในลงพื้นที่ ศูนย์ดำรงธรรมต้องมีคำตอบให้ ปชช.ที่ร้องเรียนว่าเรื่องถึงไหน เผยแก้แล้ว 90% โต้ ปชช.มาต้อนรับน้อย ไม่จุ้นย้าย ผบก.ภ.ขอนแก่น เซ่นนักศึกษาป่วนนายกฯ แจงนายกฯทราบดีเบื้องหลังชู 3 นิ้ว โยน คสช.จัดการ “ยงยุทธ” เผยคิวนายกฯ บิน ตปท.
วันนี้ (24 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงคำสั่งนายกรัฐมนตรีให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่เพื่อติดตามงานของรัฐบาลว่า เป็นนโยบายของนายกฯ ที่อยากให้รองนายกฯ รัฐมนตรี และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ รับฟังปัญหาของประชาชน ตามที่รัฐบาลได้สัญญาไว้กับประชาชน และสิ่งที่นายกฯ พูดไว้ตลอดคือเวลาลงไปในพื้นที่ต้องทำการบ้าน เนื่องจากปัญหาในแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน อีกทั้งการลงไปในพื้นที่อย่าไปดูเฉพาะที่เขาจัดให้ดู แต่ให้สอบถามในสิ่งที่ตนเองทำการบ้านมาด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า กำหนดการที่นายกฯ จะลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนดวันชัดเจนแล้วหรือไม่ พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า ยังไม่ทราบในรายละเอียดว่านายกฯ กำหนดแล้วหรือยัง แต่ได้กำหนดไว้เป็นหลักการว่าจะไปในทุกพื้นที่ เมื่อถามว่า หลังจากการลงพื้นที่ในแต่ละครั้งแล้วจะมีการประเมินผลความสำเร็จหรือไม่ พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า ต้องมี เพราะจากการประชุมผู้ว่าราชการ 20 จังหวัดในการลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่นที่ผ่านมา เรื่องที่นายกฯ สั่งการไปแล้วต้องได้รับการแก้ไข เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้ระบุด้วยว่าศูนย์ดำรงธรรมความยากไม่ได้อยู่ที่การรับเรื่อง แต่อยู่ที่รับแล้วแก้ให้เขาได้จริงไหม ถ้าแก้ไม่ได้ต้องมีขั้นตอนปฏิบัติที่ชัดเจน ต้องส่งเรื่องขึ้นมาตามลำดับให้หน่วยระดับสูงเขาแก้ไข และต้องมีคำตอบให้ประชาชนอย่างชัดเจนว่า เรื่องอยู่ในขั้นตอนไหน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในศูนย์ดำรงธรรมว่าเราดำเนินการให้อย่างแท้จริง
เมื่อถามว่า จากการลงพื้นที่ครั้งแรกของนายกฯประเมินว่าได้ผลสัมฤทธิ์กี่เปอร์เซ็นต์ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า หากตอบเป็นเปอร์เซ็นต์ไม่รู้จะตอบอย่างไร แต่ศูนย์ดำรงธรรม ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาลได้มีการนำเสนอให้ที่ประชุมทีมที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เพื่อนำข้อมูลเรียนต่อนายกฯทุกสัปดาห์ว่า 90 เปอร์เซ็นต์คือเรื่องที่ได้รับการแก้ปัญหา เหลืออีก 10 เปอร์เซ็นต์ที่อยู่ในระหว่างกระบวนการ และเปอร์เซ็นต์ก็ไม่ตกจากนี้
เมื่อถามว่า การลงพื้นที่ของนายกฯที่ผ่านมาดูเหมือนว่าประชาชนจะมาน้อย และส่วนใหญ่ที่มาจะเป็นข้าราชการท้องถิ่น รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่นายกฯลงพื้นที่ได้พูดคุยสอบถามการแก้ไขปัญหากับผู้นำ ได้คุยกับประชาชนจังหวัดขอนแก่นที่ผ่านมา พบว่าการแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด จะบอกว่าไม่มีพี่น้องประชาชนมาหรือการเตรียมการน้อยคงไม่ถึงขนาดนั้น
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีย้าย ผบก.ภ.จังหวัดขอนแก่น พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า ตนไม่อยากออกความคิดเห็น เป็นอำนาจการบริหารงานของตำรวจ ต้องถามความคิดเห็นจากตำรวจ จะว่าดีหรือไม่ดีไม่ได้ เมื่อถามว่าจะกระทบเรื่องขวัญและกำลังใจของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่หรือไม่ พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า มองได้หลายมุม มุมแรกอาจกระทบต่อขวัญและกำลังใจของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน แต่อีกมุมอาจเป็นการกระตุ้นให้ทุกฝ่ายตื่นตัวในการปฏิบัติหน้าที่ จึงต้องให้เกียรติกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่เขาได้พิจารณาแล้ว รัฐบาลคงไม่ลงไปในรายละเอียด
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีหน่วยงานด้านความมั่นคงระบุว่าการต่อต้านรัฐบาลด้วยการชู 3 นิ้ว และโปรยใบปลิวมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง นายกฯ ได้รับทราบหรือมีความกังวลเรื่องนี้หรือไม่ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่นายกฯต้องรับทราบข้อมูลอยู่แล้ว แต่การดูเรื่องนี้เป็นหน้าที่หลักของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคงมีการประสานงานกันระหว่างหน่วยงานความมั่นคงในรัฐบาล แต่ในส่วนงานหลักของของรัฐบาลจริงๆนั้น เราเน้นการบริหารราชการแผ่นดิน แก้ไขปัญหาปากท้องประชาชนเป็นหลัก แต่ก็ไม่ได้ละเลยเรื่องนี้ ขณะเดียวกันขอวิงวอนทุกภาคส่วนว่า วันนี้เราช้ามากแล้ว เรามีปัญหาต่างๆ มากมายในประเทศ จึงขอให้ทุกฝ่ายอย่าทำอะไรให้สังคมเกิดความไม่สบายใจ เพื่อให้ประเทศพัฒนา ข้าราชการมีสมาธิในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ซึ่งเราเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังเชื่อมั่นในรัฐบาลและคสช. และให้โอกาสในการทำหน้าที่
ด้าน ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในวันพุธ ที่ 26 พ.ย. และไปยังสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามในวันที่ 27 พ.ย. โดยจะเดินทางกลับมายังประเทศไทยวันที่ 28 พ.ย. การเดินทางไปยังสองประเทศครั้งนี้เพื่อแนะนำตัวในฐานะรัฐบาลและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พร้อมกับจะกระชับความร่วมมือด้านต่างๆขณะที่ได้หารือไว้เมื่อครั้งเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเชียน-ยุโรป ที่กรุงมิลาน ประเทศอิตาลี ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 1 ธ.ค. 2557 นายกรัฐมนตรีจะเดินทางเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการ และวันที่ 11-12 ธ.ค. 2557 ร่วมประชุม ASEAN-เกาหลี ที่ประเทศเกาหลีใต้ จากนั้นวันที่ 19-20 ธ.ค. 2557 ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมกลุ่มประเทศ GMS