นายกฯ ประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่มหาดไทย พร้อมสักการะพระอนุสาวรีย์ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ แนะหลายกระทรวงลงพื้นที่ร่วมกันแก้ปัญหา เจออุปสรรคอย่าท้อ อย่าระแวง ให้รักกัน
วันนี้ (21 พ.ย.) ที่กระทรวงมหาดไทย เมื่อเวลา 13.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่3/2557 โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย และนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และผู้บริหารระดับสูงให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ ก่อนการประชุมนายกรัฐมนตรีได้สักการะพระอนุสาวรีย์สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีของกระทรวง จากนั้นเข้าสู่ห้องประชุมซึ่งมีหัวหน้าส่วนราชการราชการทุกกระทรวงร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยปลัดกระทรวงมหาดไทยได้แนะนำผู้บริหารของกระทรวง พร้อมรายงานภารกิจและสรุปผลการดำเนินงานของกระทรวงตามนโยบายรัฐบาล ทั้งศูนย์ดำรงธรรม การเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ภัยแล้ง การกำกับดูแลองค์กรปกครองท้องถิ่น เป็นต้น
นายกรัฐมนตรีกล่าวในที่ประชุมว่า ขอให้ข้าราชการทำงานมีความสัมพันธ์กันตามแผนงานนโยบายและยุทธศาสตร์ของรัฐบาล โดยให้ทำงานร่วมกันในกระทรวงที่มีภารกิจเชื่อมโยงกัน พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังได้แสดงความกังวลใจเป็นห่วงการทำงานในพื้นที่ที่มีหลายหน่วยงานรับผิดชอบร่วมกัน เช่น ปัญหาการเพาะปลูก สินค้าราคาเกษตร และการแก้ปัญหาขยะ จึงเสนอแนะการทำงานให้แต่ละกระทรวงลงพื้นที่ร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ เกิดความต่อเนื่องและเชื่อมโยงกัน พร้อมกล่าวให้กำลังใจข้าราชการว่าการทำงานต้องเจออุปสรรค ขออย่าท้อถอย และใจเย็นในการแก้ปัญหา รวมถึงอย่าทำงานด้วยความหวาดระแวง แต่ขอให้สร้างวัฒนธรรมให้เกิดความรักกันในหน่วยงาน รัฐบาลพร้อมสนับสนุนการทำงานเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวภายหลังการรับฟังรายงานสรุปของแต่ละกระทรวง ว่า ขอให้ข้าราชการทุกคนช่วยกันประชาสัมพันธ์เรื่องดี ๆ ของประเทศไทยให้ต่างประเทศได้รับรู้ โดยเฉพาะการดำเนินโครงการประหยัดพลังงานของภาคเอกชน และประชาชน พร้อมทั้ง ให้ขับเคลื่อนแนวทางการประหยัดพลังงานในหน่วยงานราชการ โดยให้คิดค้นแนวทางการประหยัดพลังงานในรูปแบบใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาใช้ได้จริง เพื่อต่อยอดพลังงานในอนาคต รวมไปถึงการแปรรูปสินค้าในแต่ละพื้นที่ นำภูมิปัญญาชาวบ้านมาเป็นจุดเด่น ชูเป็นของดีประจำจังหวัด และออกแบบให้ดึงดูดใจ เพื่อสร้างรายได้กลับสู่ท้องถิ่น
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ต้องการให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน โดยมอบหมายให้ทุกกระทรวงสร้างความเชื่อมโยงเพื่อให้เกิดความไว้วางใจซึ่งกันและกัน เกิดการลงทุนร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ พร้อมฝากให้ผู้บริหารส่วนราชการดูแลเอาใจใส่ผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะข้าราชการทหารที่มีความพิการจากการปฏิบัติหน้าที่ ต้องเอาใจใส่ดูแลเรื่องความเป็นอยู่ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี รวมไปถึงปัญหาเรื่องหนี้สิน โดยในส่วนของรัฐบาลจะมอบหมายให้คู่สมรสคณะรัฐมนตรีดูแลต่อไป
