นายกฯ เปิดงาน “เมืองสะอาด คนในชาติมีสุข” จัดโดย มหาดไทย - ทส. เผยบ้านเมืองประสบปัญหาขยะเพิ่มขึ้นทุกปี จำเป็นต้องทำอย่างยั่งยืน ยกปัญหาขยะเป็นวาระแห่งชาติ ผุดคำคมทำยังไงลดขยะในใจคนให้ได้ ขอความร่วมมือลดความขัดแย้ง ลดปัญหา ความเห็นที่ไม่ตรงกัน ก่อนลอยกระทงรักษ์สิ่งแวดล้อม คุยกับสาวกลั่นไม่ท้อ
วันนี้ (4 พ.ย.) ที่ศาลาภิรมย์ภักดี สวนลุมพินี เมื่อเวลา 15.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เดินทางมาเปิดตัวโครงการ เมืองสะอาด คนในชาติมีสุข เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 87 พรรษา ซึ่งวันดังกล่าวจัดขึ้นโดยความร่วมมือของ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นการรณรงค์สร้างวินัยของคนในชาติ ในการรักษาความสะอาด โดยภายในงานมีหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ประชาชน นักเรียนนักศึกษาร่วมงานประมาณ 4,000 คน โดยมี พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ นายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย เข้าร่วมพิธีเปิด
ทั้งนี้ จากข้อมูลการสำรวจปริมาณขยะมูลฝอยทั่วประเทศ ของกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรฯ ในปี 2556 พบว่า มีขยะเกิดขึ้น 26.77 ล้านตันต่อปี หรือประมาณ 73,355 ตันต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2555 ถึง 2 ล้านตัน โดยทุกจังหวัดมีวิกฤติเรื่องการจัดการขยะมูลฝอย โดยมีอัตราการผลิตขยะ ต่อคนต่อวัน สูงขึ้นต่อเนื่องทุกปี จาก 1.03 กก. ต่อคนต่อวัน ในปี 2551 เพิ่มเป็น 1.15 กก. ต่อคนต่อวัน ในปี 2556 รัฐบาลเห็นความสำคัญของการจัดการขยะและของเสียอันตรายโดยเร่งด่วน จึงกำหนดให้การจัดการขยะมูลฝอย เป็นวาระแห่งชาติ โดยกระทรวงทรัพยากรฯ ได้จัดทำโรดแมป ในการจัดการขยะ และของเสียอันตราย เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และผ่านความเห็นชอบจาก คสช. ตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเปิดงานว่า ปัญหาเรื่องขยะมูลฝอยถือเป็นวาระแห่งชาติที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ซึ่งต้องขอบคุณการจัดงานครั้งนี้ ที่ผ่านมา บ้านเมืองเราประสบปัญหาการจัดการกับขยะเพิ่มขึ้นทุกปี เนื่องจากมีจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม ขยะ มลพิษ ดังนั้น การแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอย จำเป็นต้องทำอย่างยั่งยืน โดยทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน ซึ่งรัฐบาลก็ได้มอบนโยบายในเรื่องดังกล่าวไปแล้ว ซึ่งจากนี้ไปทุกภาคส่วนจะต้องทำอย่างต่อเนื่องให้เกิดผลสำเร็จโดยเร็ว เราต้องช่วยกันเร่งกำจัดขยะมูลฝอย ขยะในจิตใจ และเร่งแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อทำให้คุณภาพชีวิตของคนในสังคมดีขึ้น ซึ่งรัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงทรัพยากรฯ เป็นเจ้าภาพหลักเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยใช้หลัก 3 ประการคือ ลดทิ้ง ลดใช้ และนำกลับมาใช้ใหม่ โดยภาครัฐต้องส่งเสริมให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม รักษาวินัย รักษาความสะอาด ซึ่งเริ่มตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง ซึ่งเราต้องแก้ปัญหาให้ได้ทั้ง 3 จุด รัฐบาลจะทำทุกอย่างให้เกิดความยี่งยืน
ปัญหาของประเทศไทยสั่งสมมานานในหลายเรื่อง ดังนั้น หลังจากนี้ ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนร่วมมือกันแก้ไขปัญหา ทำอย่างไร เราจะลดขยะในใจของคนในสังคมเราลงให้ได้ ทั้งนี้ ยืนยันว่า รัฐบาลนี้เข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้เกิดความยั่งยืน รัฐบาลทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของคนส่วนรวม ไม่ได้เอื้อประโยชน์หรือปกป้องการทุจริตในบ้านเมือง ซึ่งตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา พวกตนตั้งใจเข้ามาทำงาน ด้วยความเสียสละ และแก้ไขปัญหา ทั้งเฉพาะหน้า ปัญหาเร่งด่วน และปัญหาในระยะยาว ซึ่งต่อไปก็จะต้องมีคนมารับช่วงต่อ ซึ่งเราได้ทำงานในทุกมิติ จึงขอความร่วมมือ จากทุกๆ ฝ่าย แก้ไขปัญหาของประเทศ แก้ไขขยะในใจของคนในสังคมให้ออกไปจากประเทศไทยให้ได้
“เราต้องลดความขัดแย้ง ลดปัญหา ความเห็นที่ไม่ตรงกัน ไม่ใช่ว่าเราจะต้องต่อต้านกันทุกเรื่อง ไม่เช่นนั้น เราก็จะกลับไปยืนอยู่ที่เก่า เสียโอกาส เสียเวลา วันนี้เราต้องก้าวต่อไปข้างหน้าให้ได้ โดยทุกคนต้องรักษากฎ กติกา และกฎหมายของบ้านเมือง ดังนั้น ต้องขอเวลาจัดระเบียบให้สังคมไทย กับรัฐบาลบ้าง เพราะเราต้องการคืนความสุขให้กับคนไทยและสังคมไทย ซึ่งคงไม่มีใครต้องการให้เรากลับไปยืนอยู่ที่เดิม และขอยืนยันอีกครั้งว่า สิ่งที่ผมและรัฐบาลทำนั้น ทำเพื่อทุกคน ไม่ได้ทำเพื่อใคร ซึ่งต้องขอโอกาสชี้แจงและทำความเข้าใจด้วย รัฐบาลต้องแก้ปัญหาเป็นร้อยเรื่อง เพราะปัฐหาบ้านเมืองสั่งสมมานาน ฉะนั้นจะให้ทำฝ่ายเดียวคงไม่สำเร็จ ทุกฝ่ายต้องช่วยกันลดความขัดแย้ง และสร้างความร่วมมือให้เกิดขึ้นให้ได้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ ได้ร่วมลอยกระทงตามแนวคิด “ลอยกระทงรักษ์สิ่งแวดล้อม” ในโอกาสวันลอยกระทงที่ใกล้จะมาถึง เพื่อเป็นตัวอย่างในการสร้างค่านิยม ของประชาชน ให้รู้จักคิดและมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม ลดการก่อขยะ และใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ทั้งนี้ ระหว่างเดินเยี่ยมชมบู๊ทนิทรรศการในงานดังกล่าว ได้มีประชาชนผู้สนับสนุนมาให้กำลังใจตลอดทางพร้อมขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก โดยก่อนจะขึ้นรถออกจากบริเวณงาน เพื่อกลับบ้าน นายกฯ ได้หยุดยืนคุยกัยประชาชนที่มาให้กำลังใจในการบริหารประเทศ ซึ่งนายกฯ กล่าวว่า ผมไม่ท้อๆ เห็นกันอยู่ทุกวันพวกเราเหนื่อย จากนั้นได้ขึ้นรถ พร้อมกับลดกระจกยกมือไหว้และโบกมือด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม