นายกฯ ไม่ห่วงพวก 3 นิ้ว วอนอย่าทำเลยไม่มีประโยชน์ รับเคยดูฮังเกอร์เกม โบ้ยฉายไม่ฉายเรื่องของเขา แนะสื่อช่วยแจง บอกปัญญาชนต้องแยกแยะ ชมพวกชูกล้าหาญแต่ถ้าใช้ในทางที่ถูกชาติจะเดินหน้า ลั่นไม่เคยพูดจะตั้งพรรคทหาร ไล่พ้นการเมืองค่อยมาถาม สวนประชาธิปไตย 100% ทำอะไรให้ประเทศได้บ้าง ย้ำไม่เป็นศัตรูใครแต่อย่าขวาง ระบุจะลงทุกพื้นที่อยากรู้ใครจะเกลียดขนาดนั้น ถามสื่อใครทุจริตมีหลักฐานจะปลดให้ ยันไม่เห็นพรรคไหนขออนุญาตประชุม ย้ำไม่เลิกอัยการศึก
วันนี้ (21 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.20 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญว่า อีกตั้งนานรอก่อน แต่ก็เปิดไว้หมด ผู้สื่อข่าวถามว่าห่วงว่าการออกมาชูสามนิ้วขอกลุ่มต่อต้านรัฐประหารจะมีแพร่หลายหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้ห่วงเพียงแต่จะเป็นปัญหากฎหมายอะไรหรือไม่ ไม่แน่ใจ มันจะทำให้เสียอนาคตซึ่งตนไม่อยากทำ วันนี้ได้บอกไปแล้วให้ระมัดระวัง และผู้ที่มาได้ให้พูดคุยตักเตือนและปล่อยไป ถ้าทำมาอีกก็จะยุ่งอีก อย่าทำเลยไม่มีประโยชน์
เมื่อถามว่า ได้ดูหนังฮังเกอร์เกมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ได้ดู แต่ดูตอนที่ 1 แล้ว เป็นเรื่องดรามาไม่ใช่เรื่องจริง เมื่อถามว่าจะถึงขั้นห้ามฉายไปก่อนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่เคยไปยุ่งกับเขาเลย จะฉายไม่ฉายเป็นเรื่องของเขา เมื่อถามว่า คิดว่าการแสดงสัญลักษณ์ชู 3 นิ้วจะจุดกระแสติดหรือไม่ นายกฯ ไม่ทราบ ไม่รู้ สื่อก็ไปช่วยชี้แจงว่ามันไม่ใช่ มันคนละเรื่องกัน เมื่อถามว่า ห่วงกระแสลุกลามในระดับปัญญาชนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า สื่อก็บอกไป ปัญญาชนต้องรู้จักคิดแยกแยะ แต่ขอชมเชยในความกล้าหาญ แต่ตนมองว่าถ้าใช้ความกล้าหาญในทางที่ถูกในวันหน้าประเทศไทยจะเดินหน้าไปได้ วันนี้ในสถานการณ์แบบนี้ เวลานี้ก็ขอไว้ก่อนแค่นั้นเอง ความกล้าหาญนะดีอยู่แล้ว ชื่นชม แต่ใช้ในทางที่ถูกและวันนี้ทราบว่าไปดร๊อปการเรียนไว้ ไม่ใช่เรื่อง เสียเวลา เมื่อถามว่า ต้องขอร้องไปยังอธิการบดีมหาวิทยาลัยให้ดูแลนักศึกษาของสถานบันหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ขอ ทุกคนต้องช่วยกัน ทำไมต้องขอ และไม่กลัวว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ หรือจะกระทบต่อรัฐบาล
เมื่อถามว่า การที่นายกฯ พูดว่า “จะไม่มีการสืบทอดอำนาจ” เวลานี้มีข้อสงสัยว่านายกฯจะจัดตั้งพรรคทหารในอนาคตหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไปถามคนสงสัย เอามาจากไหนไม่รู้ เมื่อถามย้ำว่า จะไม่มีใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวย้ำว่า “ไปถามคนพูด ผมไม่เคยพูด ไม่เคยคิด จบแล้วตรงนั้น เขียนให้เลอะเทอะไปเรื่อย”
เมื่อถามว่า เรื่องการเมืองสมมุติว่าพ้นจากการเป็นนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวสวนทันทีว่า ก็ยังไม่พ้นไง พ้นแล้วค่อยมาถาม เอาให้มันพ้นก่อนเถอะ แก้ปัญหาประเทศให้ได้ก่อน รู้หรือไม่ว่าปัญหาเวลานี้เยอะแค่ไหน น่าถามตรงนั้นมากกว่าว่าจะทำอะไร อย่าถามเรื่องการเมือง เพราะตนไม่ใช่นักการเมือง
เมื่อถามว่า ยังมั่นใจใช่หรือไม่ว่าประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนการทำงาน นายกฯ กล่าวว่าต้องไปถามประชาชน ขอถามว่าการที่ตนเข้ามาแล้วแก้ปัญหาให้และทำให้เกิดความเป็นธรรม หรือแก้ปัญหาที่มีความขัดแย้งกัน ขอถามว่าตนทำผิดตรงไหนหรือทำอะไรที่เสียหายหรือยัง อย่างที่ร้ายกาจร้ายแรงอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตนเคยทำอย่างนั้นหรือยัง
“ผมอาจจะไม่ประชาธิปไตยร้อยเปอร์เซ็นต์ ถามว่าการที่เป็นประชาธิปไตยร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วทำอะไรให้แก่ประเทศไทยได้บ้าง ไปหาคำตอบให้ผม ถ้าพูดไปเดี๋ยวก็ลามปามทะเลาะกับคนนั้นคนนี้อีก ไม่เอา วันนี้คิดทุกอย่างเพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงในการทำงาน ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม จิตวิทยา จึงได้พูดทุกวันแต่ก็ยังไม่เข้าใจกัน ขอให้เข้าใจว่าผมไม่ได้ไปเป็นศัตรูกับใครทั้งสิ้น เพียงแต่ขอร้องอย่ามาขัดขวางการทำงาน และการทำงานผมพร้อมที่จะรับฟังทุกเรื่องจากทุกคน ขอให้ส่งมา แต่ถ้ามาบอกว่าขอเป็นประชาธิปไตย ขอเลือกตั้ง ผมให้ไม่ได้ ผมขอเรื่องนี้เรื่องเดียว เรื่องอื่นผมฟังหมด ถ้ามาขัดขวางการทำงานมันไม่ใช่เวลา และเวลาที่เกิดเหตุช่วงที่ผ่านมาคิดเอาแล้วกันว่าเกิดอะไรบ้าง” นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า คิดว่ายังมีอีกเยอะหรือไม่ประเภทที่มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ นายกฯ กล่าวว่าไม่รู้ไม่ทราบ แถวใกล้ๆ นี้มีหรือเปล่าไม่รู้
นายกฯ กล่าวด้วยว่า การลงพื้นที่พบประชาชนนั้น ยืนยันว่าจะลงไปทุกพื้นที่ จะเอาเจตนาเอาตัวของตัวเอง อยากรู้เหมือนกันว่าใครที่จะเกลียดตนขนาดนั้น เอาหัวใจ เอาความตั้งใจไปให้คนทั้งประเทศ แล้วถามว่าใครจะไม่ดูแลตนบ้าง และมีใครจะทำให้อย่างนี้บ้าง ที่ผ่านมาไปกันได้ไหม แต่ตนจะไปทุกที่และสื่อก็มีหน้าที่สองอย่าง คือ ทำหน้าที่ชี้แจงทำความเข้าใจ อาจจะมีวิเคราะห์วิจารณ์บ้าง แต่ต้องสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล
เมื่อถามว่า ถ้ารัฐบาลทำไม่ดี วิจารณ์ได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวพร้อมมีอารมณ์เล็กน้อย ว่า อะไรที่ไม่ดีบอกมา ยกตัวอย่างมา เอากันให้จบตรงนี้อะไรที่ไม่ดี ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าเรื่องทุจริตวิจารณ์ได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวย้อนว่าใครที่ทุจริต มีหลักฐานหรือเปล่า ถ้ามีหลักฐานก็เอามาตนจะปลดเองไม่ต้องไปวิจารณ์ เพราะวิจารณ์แล้วไม่มีหลักฐานต้องหาหลักฐานมา แต่วันนี้ตนคิดว่ารัฐมนตรียังไม่ได้ทำอะไรเลย สื่อจะต้องไปดูในสิ่งที่เขาทำ ถ้ามีการทุจริตก็ไม่หามาว่าใครทุจริต ไม่ใช่ไปย้อนว่าสมัยก่อนเขารวย มันคนละเวลาคนละเรื่อง กฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็มีอยู่ ถ้า ป.ป.ช.แปะประกาศแล้วก็ไม่ใช่หน้าที่ใครที่ต้องมาตรวจอีก เพราะ ป.ป.ช.มีกลไก ในการตรวจสอบอยู่ ถ้าประชาชนเห็นว่ามีการทุจริต ก็ร้องเรียนร้องทุกข์มาตามช่องทาง ถ้ามัวแต่ด่าว่ากันไปมาท้ายที่สุดก็ทำงานไม่ได้ แล้วจะหาใครมาทำ ตนก็ไม่รู้ ไปเลือกตั้งมา
เมื่อถามว่า รอรัฐธรรมนูญเสร็จจึงจะมีการเลือกตั้งได้ นายกฯ กล่าวว่า สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญ และตนบอกไปแล้วว่าต้องทำให้ทัน ก็อย่าไปตีกันอย่างนี้ ตีกันไปมาก็ทำไม่ได้ เขายังไม่ได้ทำก็ว่าทุจริต นี่มันนิทานอีสป หมาป่ากับลูกแกะในสมัยก่อน ทั้งนี้การปฏิรูปประเทศแม้ตัวหลักพรรคการเมืองไม่มาก็ส่งตัวเล็กๆ มา ซึ่งการปฏิรูปเริ่มตั้งแต่มี คสช. แกนนำพรรคการเมืองต่างๆ ก็ได้ให้ความคิดเห็นมา แล้วถามว่าไม่ร่วมตรงไหน และวันนี้ก็ยังไม่เห็นไม่พรรคการเมืองไหนขออนุญาต คสช.ประชุมพรรคเพื่อเสนอความเห็นเรื่องการปฏิรูป
นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ยังกล่าวยืนยันถึงการประกาศใช้กฎอัยการศึกว่า ยังไม่มีการเลิกจะประกาศถึงเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ส่วนที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าจะมีการผ่อนคลายประกาศ คสช.และกฎอัยการศึก ในช่วงที่เริ่มมีการร่างรัฐธรรมนูญ นายกฯ กล่าวย้ำว่า ไม่มี ใครเป็นคนพูด ข่าวก็คือข่าว ตนเป็นใคร อาจารย์วิษณุเป็นใคร เรื่องกฎหมายท่านก็พูดของท่านไป แต่ตนเป็นผู้รับผิดชอบ เมื่อถามว่าหมายความเรื่องกฎอัยการศึกต้องฟังนายกฯ คนเดียวใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า พูดไม่รู้เรื่อง และได้ทำการหยอก และยิ้มๆ พร้อมกับยึดเทปนักข่าวไปให้ทีมรักษาความปลอดภัยถือไว้