xs
xsm
sm
md
lg

“ทนายปู” ยื้ออีก บี้ “พรเพชร” วินิจฉัยคำร้องคัดค้านก่อนถกถอดถอน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นรวิชญ์ หล้าแหล่ง (แฟ้มภาพ)
“ทีมทนายยิ่งลักษณ์” ดิ้นยื้อคดีทุจริตจำนำข้าว จี้ สนช.พิจารณาคำร้องที่ให้พิจารณา สนช.มีอำนาจรับไว้วินิจฉัยหรือไม่ อ้างเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน บอกถ้า สนช.มีมติไม่มีอำนาจต้องยุติทุกประเด็น ด้านวิป สนช.ยันประธาน สนช.ชี้ขาดแล้ว มีอำนาจรับเรื่องไว้พิจารณา

นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทีมทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้รับผิดชอบคดีรับจำนำข้าว เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผ่านนางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการสำนักงานวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อติดตามทวงถามและขอให้ประธาน สนช.และ สนช. วินิจฉัย หรือมีมติอย่างหนึ่งอย่างใดกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยื่นหนังสือคัดค้านต่อประธาน สนช.เมื่อวันที่ 5 พ.ย. กรณีที่ประธาน สนช.มีคำสั่งบรรจุสำนวนถอดถอนเข้าสู่วาระประชุม สนช.ในวันที่ 12 พ.ย. และ 28 พ.ย ชอบด้วยรัฐธรรมนูญชั่วคราวหรือไม่ และการตราข้อบังคับการประชุม สนช.หมวด 10 การถอดถอนและการให้บุคคลพ้นจากตำแหน่ง ส่วนที่ 1 เรื่องการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งของรัฐธรรมนูญชั่วคราวหรือไม่

นายนรวิชญ์กล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวเป็นประเด็นสำคัญที่เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ และการปฏิบัติหน้าที่ของประธาน และที่ประชุม สนช.ว่าเป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวหรือไม่ มีกฎหมายใดรับรองและให้อำนาจหน้าที่ไว้หรือไม่อย่างไร เป็นการกระทำโดยปราศจากอำนาจหน้าที่หรือไม่ รวมทั้งคำสั่งให้นำสำเนาถอดถอนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้าสู่วาระการประชุมนัดพิเศษนั้นเป็นไปโดยเท่าเทียมกันหรือไม่ เป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่อยู่ในความสนใจของประชาชน อีกทั้งเป็นสาระสำคัญในอำนาจและหน้าที่ว่ามีอำนาจที่จะพิจารณาสำนวนถอดถอนต่อไปได้หรือไม่

“จนถึงวันนี้ประธาน สนช.และสมาชิก สนช.ยังมิได้มีคำวินิจฉัยคำสั่ง หรือนำหนังสือดังกล่าวบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมของที่ประชุมสภาเพื่อขอมติในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด ในการประชุมนัดพิเศษเมื่อวันที่ 12 พ.ย.เราได้ถามถึงมติและคำสั่งเกี่ยวกับหนังสือดังกล่าว ถือว่าได้รับทราบการทวงถามแล้ว แต่ยังไม่ได้พิจารณาและมีมติอย่างหนึ่งอย่างใด จึงต้องมายื่นหนังสือเพื่อขอให้โปรดนำหนังสือคำคัดค้านของ น.ส.ยิ่งลักษณ์บรรจุเข้าสู่วาระการประชุม สนช.ในวันที่ 28 พ.ย.เพื่อวินิจฉัยหรือมมีมติอย่างหนึ่งอย่างใดให้เสร็จสิ้นก่อนที่จะไปพิจารณาในนัดวาระอื่นต่อไป หากวินิจฉัยหรือมีมติว่าไม่มีอำนาจ แล้วก็ไม่ต้องไปพิจารณาในวาระอื่นๆ เพื่อเป็นการอำนวยความยุติธรรมให้กับอดีตนายกรัฐมนตรี”

ด้าน นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกวิป สนช.กล่าวว่า ประธาน สนช.ได้วินิจฉัยไปแล้วว่า สนช.มีอำนาจรับเรื่องไว้พิจารณา เพราะกรณีของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา กับกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้นถือเป็นคนละกรณีกัน ดังนั้น สนช.จะเดินหน้าดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป อย่างไรก็ตาม หน้าที่ของทีมทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้นย่อมมีหน้าที่ประวิงเวลาอยู่แล้ว และก็ทำแบบนี้มาตลอด


กำลังโหลดความคิดเห็น