“บิ๊กตู่” หารือทวิภาคี เลขาฯ สหประชาชาติ แจงสถานการณ์ในไทย ทหารจำเป็นต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์ มุ่งมั่นดูแลความสงบเรียบร้อย พร้อมยืนยันจะปฏิบัติตามพันธสัญญาที่มีกับนานาประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.45 น. วันที่ 12 พ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หารือทวิภาคีกับนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 25 ณ กรุงเนปยิดอ สาธารณรัฐแห่งสภาพพม่า หลังเสร็จสิ้นการหารือ ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวยินดีที่ได้พบนายกรัฐมนตรี ก่อนหน้านี้ได้พบกับ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ในช่วงการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ทำให้เข้าใจสถานการณ์การเมืองไทยมากยิ่งขึ้น
เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวถึงบทบาทไทยในเวทีสากล เช่น ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนบวกสาม เกี่ยวกับการระบาดของเชื้ออีโบลา การเข้าร่วมปฏิบัติการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในช่วงที่ผ่านมา
ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณเลขาธิการสหประชาชาติและได้อธิบายสถานการณ์ไทยถึงเหตุผลและความจำเป็นของการเข้ามาบริหารประเทศว่า เนื่องจากความขัดแย้งภายในที่มีการใช้อาวุธสงคราม และมีแนวโน้มที่จะรุนแรงมากขึ้น ทำให้มีความจำเป็นที่จะต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์ รัฐบาลไทยมุ่งมั่นที่จะดูแลความสงบเรียบร้อย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่สองของแผนปฏิบัติการ (Roadmap) คือ มีการจัดตั้งรัฐบาลและใช้ระเบียบการบริหารราชการรูปแบบปกติ เร่งรัดการปฏิรูป 11 ด้าน และพัฒนาประชาธิปไตยทียั่งยืน ไทยยังยึดมั่นและพร้อมที่จะปฏิบัติตามพันธสัญญาที่มีกับนานาประเทศและระหว่างประเทศอย่างครบถ้วน
สำหรับความร่วมมือกับสหประชาชาตินั้น ไทยมีส่วนร่วมในประเด็นสันติภาพและความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950 ไทยได้ส่งบุคลากรชายหญิงกว่า 20,000 คนเข้าร่วมในปฏิบัติการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติกว่า 20 ปฏิบัติการ ไทยพร้อมเป็นสมาชิกที่เข้มแข็งของสหประชาชาติต่อไป