อำนาจพิเศษประยุทธ์ไร้ความหมาย !?

เกาะกระแส

00 เริ่มเดินเครื่องกันบ้างแล้วสำหรับ คณะกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญหลัง จากประชุมนัดแรกไปแล้ว วันอังคารที่ 11 พ.ย.นี้ ก็จะประชุมกันนัดที่ 2 กำหนดกรอบการทำงานของอนุกรรมาธิการทั้ง 18 คณะ ซึ่งอนุกรรมาธิการทุกคณะดังกล่าวนี่แหละ ถือว่าเป็นกลไกสำคัญสำหรับระดมความเห็น มาออกแบบ รธน.ฉบับใหม่ แม้ว่าในหลักการแล้วสาระสำคัญส่วนใหญ่จะเหมือนมี "พิมพ์เขียว" กันไว้แล้ว แต่จะแปลกอะไร เพราะในพิมพ์เขียวที่ว่านั้นก็เป็นการสรุปคัดเอามาจากรธน.เก่าๆ คัดเอามาเฉพาะที่ดี มาปรับใช้ให้ดีที่สุด รวมทั้งผสมผสานกับงานวิจัย การสำรวจความเห็นจากสถาบัน นักวิชาการหลายแห่งรออยู่แล้ว อย่าลืมเรามี รธน. มาตั้ง 19 ฉบับแล้ว ถึงจะร่างใหม่ คิดฝันกันอย่างไร ส่วนใหญ่มันก็เคยอยู่ในหลายฉบับ แต่อาจมีการปรับปรุงเพิ่มเติมเข้ามาบ้าง แต่สุดท้ายก็ต้องไปถึง "ลงประชามติ" เพื่อสร้างความชอบธรรม และการยอมรับ ที่สำคัญเป็นหลักประกันเล็กๆว่า เป็นรธน.ของประชาชนได้เหมือนกัน !!

00 ดังนั้น ด้วยเวลาที่จำกัดก็เชื่อว่าต้องมีการ "ยำรวม" นำข้อดีมาปรับใช้ อาจไม่ถึงขั้น "ตัดแปะ" แต่ในใจลึกๆ ยังเชื่อว่ารธน.ฉบับใหม่ น่าจะดีที่สุดกว่าทุกฉบับ เพราะได้บทเรียนจริงจากฉบับเก่าๆ รวมไปถึงได้เห็นฤทธิ์เดชของพวก "นักกินเมือง" มาแบบรู้ไส้ รู้พุง อักทั้งยังเชื่อมือ "มนุษย์ทองคำ" สามคน อย่าง วิษณุ เครืองาม บวรศักดิ์ อุวรรณโณ และ มีชัย ฤชุพันธุ์ กุนซือสำคัญของคสช. และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะมั่นใจในองค์ความรู้ ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะ "นำมาใช้ทางไหน" และคราวนี้ยังเชื่อว่า น่าจะต้องการ "สร้างประวัติศาสตร์" ให้ตัวเองสักครั้งเถอะน่า ได้โปรดเถอะ !!

00 บินลัดฟ้าไปแล้วสำหรับ นายกฯ อินเตอร์ฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปร่วมประชุมเอเปก ที่จีนระหว่างวันที่ 10-11 พ.ย. งานนี้ได้กระทบไหล่ผู้นำสหรัฐฯ บารัก โอบามา ก็ไม่รู้ว่าจะมีการตั้งคำถาม และตอบคำถามอย่างไร ที่น่าจับตาก็คือ การพบกับผู้นำจีน และญี่ปุ่น เรื่องการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ขอร้องให้ซื้อสินค้าเกษตรทั้งข้าว และยางพารา เพื่อช่วยระบายออกไปได้บ้างหรือไม่ และที่สำคัญน่าจับตาก็คือ การพบกันนอกรอบกับนายกฯมาเลย์ นาจิบ ราซัก เพื่อวางกรอบแนวทางการสร้าง "สันติสุขชายแดนใต้" ว่าจะตกลงกันได้หรือยัง โดยเฉพาะหัวหน้าทีมเจรจา ว่าจะเป็นฝ่ายทหาร หรือเป็นเลขาฯสมช. ที่ฝ่ายมาเลย์ต้องการอย่างหลัง

00 ถัดจากนั้นก็บินข้ามาประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่เมียนมาร์ ในวันที่ 12 พ.ย. งานนี้ก็ได้เจอกับผู้นำสหรัฐฯ บารัก โอบามา อีก เพราะเป็นการประชุมแบบอาเซียนบวกสหรัฐฯ แม้ว่าสถานการณ์จะโฟกัสไปที่การปฏิรูปในพม่าเป็นหลัก แต่สำหรับการเมืองของไทย ก็คงถูกตั้งคำถามไม่น้อยเช่นเดียวกัน แต่ถึงอย่างไรเชื่อว่า การเตรียมการ และทำการบ้านมาดีคงจะเอาตัวรอดได้ไม่ยาก เพราะเราผ่านความอัปยศจากผู้นำที่ชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปแล้ว

00 พูดถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้เริ่มประเมินสถานการณ์ในช่วง 5-6 เดือนนี้ว่า เริ่มมีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันเริ่มเห็นอาการเครียดๆ ของฝ่ายรัฐบาลและคสช.มากขึ้น ถึงขั้นขู่ใช้ "อำนาจพิเศษ" ทั้งกระชับกฎอัยการศึก และไม้ตายสำคัญคือ "ม.44 " ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้อำนาจได้ ทั้งนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ โดยอ้างความสงบเรียบร้อย และความมั่นคงแบบครอบจักวาล ส่วนหากใช้แล้วจะเอาอยู่หรือไม่นั้นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะถึงแม้จะมีดาบใหญ่โตในมือ แต่ฝีมือในการบริหาร ยังไม่อาจคืนความสุขแท้จริง หรือคืนความสุขให้ใครก็ไม่รู้ หรือมีเรื่องอื้อฉาวว่า "โกง" เมื่อไหร่นั่นแหละ ต่อให้สิบประยุทธ์ สิบประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็เอาไม่อยู่ เรื่องจริงเชื่อว่ารับรู้กันอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าทำได้หรือเปล่าเท่านั้นเอง !!

00 อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาจากผลโพลล์หลายสำนักออกมาตรงกันว่า ชาวบ้านยังศรัทธารัฐบาล และ คสช. ในเปอร์เซ็นต์ที่สูงอยู่พอสมควร อันนี้เบาใจได้เปลาะหนึ่ง แต่อย่าลืมว่า นับจากนี้ไปต้องเข้าสู่โหมดสำคัญเลี่ยงไม่ได้กับความขัดแย้ง ความต้องการที่แต่ละฝ่ายมุ่งหวังเอาไว้ เรื่องยากกำลังเข้ามา ง่ายๆ เช่น กรณีถอดถอน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นิคม ไวยรัชพานิช และ สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ จะออกมาอย่างไร ถึงเวลาจะกั๊กไม่ได้ ต้องแสดงออก แต่จะทำให้คนส่วนใหญ่พอใจ และรักษาศรัทธาได้แค่ไหน นี่แหละท้าทาย !!